ถ้าคุณเป็นอีกคนที่ต้องมนต์เสน่ห์ความอร่อยของอาหารอิตาเลียน โหยหาความชิคแอนด์ชิลล์ จากการสั่งพาสต้าสุกแบบอัลเด็นเต้ หรือพิซซ่าสไตล์สไตล์โฮมเมด แพรริ่งกับไวน์ชั้นดี จิบชมบรรยากาศเบิร์ดอายวิวใจกลางเมืองผ่านกระจกห้างสรรพสินค้าชั้นนำใจกลางเมืองแบบสวย และรวยมากแล้วละก็ “Spaghetti Factory” นี่แหละตอบโจทย์!
ถ้าจะบอกว่านี่คือร้าน “ไฮโซขึ้นห้าง” ก็คงไม่แปลก เพราะด้วยเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์เรียบหรู จัดแบ่งเป็นสัดส่วน เน้นคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ ด้านหน้าโดนเด่นด้วยชั้นไวน์สูงจรดเพดานล่อตาล่อใจนักชิมไวน์ทันทีที่เดินผ่าน แต่งแต้มสีส้มเอกลักษณ์ประจำร้าน รับกันกับหน้าต่างบานใหญ่ ที่ช่วยสร้างฟิลลิ่งน่านั่ง เป็นส่วนตัว จนลืมไปเลยว่านี้อยู่ในห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง
หลายคนอาจจะยังไม่ทราบ ว่าร้าน “Spaghetti Factory” เสิร์ฟความอร่อยสไตล์อิตาเลี่ยนฟิวชั่นให้คนไทยได้ฟินกันต่อเนื่องมากว่า 15 ปี ครองใจลูกค้าทั้งใหม่เก่า ด้วยเหตุผลแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ “พาสต้า” ที่มีเส้นให้เป็นตัวเลือกมากถึง 8 แบบ “พิซซ่า” ถาดใหญ่ที่มีกรรมวิธีการทำสไตล์โฮมเมด แถมยังเลือกหน้าได้มากถึง 4 หน้าในถาดเดียว หรือแม้แต่เรื่องของ “ปริมาณ” อาหารที่จัดเต็มคุ้มเงินกันไป ฯลฯ
และไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตามแต่ ทำไมเราไม่ลองไปค้นหาความชอบใน “Spaghetti Factory” ไปพร้อมๆ กันล่ะ :”)
ประเดิมความอร่อยด้วยเมนูซุปจานโตอย่าง Onion Soup (110 บาท) ที่ชวนสะดุดตาด้วยเฟรนซ์โทสต์ที่ทามอสซาเรลล่าชีสจนเยิ้ม ส่งกลิ่นหอมเคียงคู่กับน้ำสต็อกไก่ รสชาติหอมหวาน ได้ความรู้สึกสดชื่นทุกครั้งที่ตักกิน บาลานซ์รสชาติด้วยการสั่งเมนู Spicy Smoked Salmon Salad (190 บาท) สลัดผักรสชาติจัดจ้านแบบไทยๆ ที่ผสมผสานเข้ากับมายองเนส สร้างสีสันให้กับผักใบเขียว แซลมอนสไลซ์ชิ้นโต และไข่กุ้งได้อย่างลงตัว
หากคุณตัดสินใจเลือกเครื่องดื่มแก้วโปรดของคุณได้เป็นที่เรียบร้อย แนะนำให้สั่ง Sauteed N.Z. Mussels (250 บาท) ความพิเศษของจานนี้อยู่ที่การเลือกหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ไซส์กำลังดีมาผัดกับเนยกระเทียมพริกไทยจนเข้าเครื่อง กินแล้วได้รสชาติเผ็ดซ่าจากเนยกระเทียม เติมความสนุกให้กับเครื่องดื่มแก้วโปรดของคุณ
หรือจะลองสั่งเป็น BBQ Chicken (250 บาท) ที่ทางร้านใช้ไก่ส่วนสะโพกมาอบจนนุ่ม ก่อนเพิ่มรสชาติด้วยซอสบาบีคิว ที่มีความกลอมกล่อม เข้ากันแบบเนื้อไก่แบบสุดๆ ยิ่งกินกับมันบดเนื้อเนียนละเอียดกำลังดี ยิ่งอร่อยโดนใจ
มาถึงร้าน “Spaghetti Factory” ทั้งที ถ้าไม่สั่งเมนูขึ้นชื่ออย่าง “พาสต้า” แสดงว่าคุณยังมาไม่ถึงร้าน หากพลิกเมนูขึ้นพินิจดีๆ แล้วละก็ ที่นี่มีรสชาติให้เลือกทั้งแบบออริจินอล และแบบฟิวชั่น ทั้งยังสามารถมิกซ์แอนด์แมทช์เส้นพาสต้าได้ฟรีสไตล์ ตามคอนเซ็ปต์เก๋ๆ ที่ว่า “Your Pasta, Your Choice” เพราะมีให้เลือกครบทั้ง 8 แบบ ไม่ว่าจะเป็น “สปาเก็ตตี้, แองเจิ้ลแฮร์, มักกะโรนี, แปปปาเดลล่า, เพนเน่, ลิงกิวนี ,เฟตตูชินี และแองเจิ้ลแฮร์หมึกดำ” ก็มีพร้อมสรรพ ผ่านการรังสรรค์รสชาติด้วยเชฟเฉพาะด้านโดยเฉพาะ ดังนั้นไม่ว่าคุณจะต้องการระดับความสุกของเส้นพาสต้า มิกซ์กับรสชาติใด ก็สามารถทำได้ดั่งใจคุณ
แต่ถ้าหากคุณยังตัดสินใจไม่ได้ เราขอแนะนำพาสต้าสองจานเด็ด สองแบบสองสไตล์อย่าง Pommito’s Spaghetti Special (200 บาท) พาสต้าสไตล์ฟิวชั่น ที่นำเอาน้ำพริกตาแดงแบบไทยๆ มาทำเป็นตัวซอส ที่ให้คาแลคเตอร์ความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ เติมเต็มรสชาติให้กับเส้นสปาเก็ตตี้ และปลาสลิดทอดกรอบ ที่อร่อยลงตัวกำลังดี ไม่มากหรือน้อยเกินไป แต่ถ้าใครที่ไม่กินเผ็ดก็ไม่ต้องกังวล เพราะสามารถรีเควสความเผ็ดได้ดั่งใจ
แต่ถ้าชอบรสชาติแบบออริจินอล ขอแนะนำ Spaghetti Alla Vodka (250 บาท) ที่โดดเด่นด้วยการนำความหอมของวอดก้ามาเบิร์นเอาแอลกอฮอล์ออกจนหมด มาเติมเสน่ห์ให้กับคาโบนาร่าสุดครีมมี่ ที่โรยไข่กุ้งเด่นอยู่กลางจาน อร่อยดีงามต้องลองจริงๆ
ต่อด้วยอีกหนึ่งเมนูเด็ดอย่าง “พิซซ่า” ที่ทางร้านพัฒนามาจากความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ที่พิเศษยิ่งกว่าใคร เพราะมีหน้าให้เลือกมากถึง 14 หน้าบนแป้งโดว์ที่มีให้เลือกถึง 4 สี ไม่ว่าจะเป็นแป้งต้นตำรับ แป้งหมึกดำ แป้งผักโขม และแป้งบีทรูท ทั้งยังคงคอนเซ็ปต์ “Choose your own dough, make your own pizza!” เลือกแป้งโดว์ที่ใช่ หน้าพิซซ่าที่ชอบได้ทันที 2 หน้า แต่พิเศษยิ่งกว่าถ้าคุณกดไลท์ fanpage FB และ follow IG ของทางร้าน ก็สามารถมิกซ์ได้มากถึง 4 แบบ สุดคุ้มใน ราคา 350 บาทเท่าเดิม!
แถมทางร้านยังคำนึงถึงลูกค้าที่มานั่งกินกันเป็นคู่ แต่ต้องการสั่งเมนูพิซซ่า และยังเหลือพื้นที่ในท้อง ให้อร่อยกับเมนูอื่นได้อีก ด้วยการครีเอท Crispy Pizza (160 บาท) ที่เปลี่ยนจากแป้งโดว์ปกติ ให้เป็นแป้ง Tortilla ผสมผสานกับความหลากหลายของท็อปปิ้ง บนหน้าชีสเยิ้มๆ ไม่แปลกใจเลยทีเป็นเมนูน้องใหม่มาแรง สั่งกันแทบทุกโต๊ะที่มาเป็นคู่
อาหารอร่อย ต้องคู่กับเครื่องดื่มดีๆ เช่นเดียวกัน นอกจากทางร้าน “Spaghetti Factory” จะมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำพวกทั้ง เบียร์ และไวน์ไว้บริการแล้ว ทางร้านยังมีในส่วนของ Smoothiesต่างๆด้วยเช่นกัน ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นคนชอบดื่มหรือไม่ ก็สามารถชิลล์ได้แบบไม่มีขีดจำกัดเลย
ทั้งบรรยากาศ และรสชาติอาหารที่พร้อมแบบนี้ ตอบโจทย์ความชิลล์ที่ไม่ต้องเดินทางลำบาก เพราะอยู่บนห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ซึ่งเป็นจุดนัดพบตัวเลือกแรกๆ ระหว่างกลุ่มเพื่อน หรือต้องมาทำธุรกรรมต่างๆ ดังนั้นถ้าเจอร้าน “Spaghetti Factory” ก็อย่างลืมแวะเข้าไปนั่งชิลล์กันละ