T.House พระราม 6 ร้านอาหารนานาชาติหลากหลายความฟินที่ต้องลอง

#วงในบอกมา

• ร้าน T.house สาขาพระราม 6 มีอาหารหลากหลายชาติให้ลิ้มลอง เพื่อให้ทุกคนที่มาได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุข แถมยังสนุกกับการกินอาหารในแบบที่ตัวเองชอบ โดยตัว T ในชื่อร้านมาจากชื่อของคุณติ๊ก (Tik) เจ้าของร้าน
  
• อาหารเวียดนามของร้าน T.House สาขาพระราม 6 รับเอาสูตรจากเมืองเว้ ตำรับชาววัง เป็นอาหารเวียดนามภาคกลางมีรสเผ็ดจัดจ้านมากกว่าที่อื่น ก่อนนำมาปรับให้เข้ากับลิ้นของคนไทยอีกที ไม่แปลกใจเลยที่ใครได้มากินเป็นต้องกลับมาซ้ำกันทุกราย
  
• ที่ร้านให้ความสำคัญกับการคัดเลือกวัตถุดิบ เพื่อคงมาตรฐานของทางร้านไว้ วัตถุดิบบางชนิดไม่สามารถหาได้ในไทย ต้องสั่งมาจากเวียดนามกันอย่างเดียว เช่น แป้งฮอยอัน เพื่อนำมารังสรรค์เมนู "ปอเปี๊ยะฮอยอัน”
  

เคยไหมคะ? นัดกับครอบครัวอยากใช้ช่วงเวลาวันหยุดกินข้าวพร้อมหน้าทั้งที ถ้าไม่ไปร้านประจำที่ไปบ่อยจนหลับตาสั่งได้ ก็ต้องคิดกันให้หัวแทบระเบิด เพราะแต่ละคนก็โปรดปรานอาหารต่างกัน บ้านกุ๋ยเองก็ประมาณนั้นเลยค่ะ จนกระทั่งโชคชะตาลิขิตให้มาเจอกับ ร้าน T.House สาขาพระราม 6 หลังจากนั้นชีวิตก็ง่ายขึ้นเยอะเลย

สำหรับร้าน T.House คนส่วนใหญ่มักจะคุ้นเคยกับอาหารเวียดนามของทางร้าน แต่สาขาพระราม 6 นี้เขาครบครันพร้อมเสิร์ฟทั้งอาหารเวียดนาม, ญี่ปุ่น และอิตาเลียน ถือเป็นร้านอาหารนานาชาติในบรรยากาศสุดคลาสสิกอบอุ่นและเป็นกันเอง

ย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน ทางร้าน T.House ถือว่าเป็นร้านอาหารเวียดนามต้นตำรับชาววังจากเมืองเว้ร้านแรก ๆ ในกรุงเทพฯ เน้นรสจัดถูกปากคุ้นลิ้นคนไทย แต่ก่อนจะเป็นที่ยอมรับในรสชาติและฝีมือเช่นทุกวันนี้ คุณติ๊ก เจ้าของร้านผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยแพชชันในการเสาะหาเมนูเด็ด ๆ ลงทุนไปตระเวนชิมมาแล้วทั่วเวียดนาม เพื่อให้ได้รสชาติที่คิดว่าจะมัดใจลูกค้าได้มากที่สุด ประสบการณ์ที่สั่งสมมาตลอดระยะเวลาดังกล่าว ถ่ายทอดออกมาเป็นอาหารที่กุ๋ยกำลังจะได้ลิ้มรสตรงหน้า

เมื่อพูดถึงอาหารเวียดนาม ใครละจะอดใจไหวให้กับน้ำซุปร้อน ๆ รสหวานละมุนซดคล่องคอหอมกลิ่นสมุนไพร ได้ซู้ดเส้นเฝอเหนียวนุ่ม ลื่นลิ้นสบายฟัน ลูกผสมระหว่างเส้นเล็กกับเส้นใหญ่บ้านเรา พร้อมบรรจงเคี้ยวเนื้อน่องลายออสเตรเลียตุ๋นมานานกว่า 3 ชม. กลิ่นของเนื้อวัวและรสสัมผัสของมันช่างมีชีวิตชีวาเสียเหลือเกิน ยิ่งได้เติมเครื่องชูรสจากธรรมชาติ อย่างกะปิเนื้อหยาบปรุงรสเข้มข้น ลงไปผสมในน้ำซุปพอให้ได้กลิ่นกะปิหอมรวยริน ร่างกายที่เหนื่อยอ่อนจากการทำงานมาทั้งสัปดาห์ กลับมามีกำลังวังชาได้โดยพลัน ขอขอบคุณ “เฝอเนื้อออสเตรเลีย” (250 บาท)

ไม่รอช้าแล้วค่ะ ต่อมรับรสถูกเปิดเต็มกำลังขนาดนี้ กุ๋ยขออนุญาตพาทุกคน บริหารปาก - ขยับกราม แล้วไปทัวร์เวียดนามกันต่อเลยดีกว่า! กับ "ปอเปี๊ยะฮอยอัน" (220 บาท) ฉันรักเธอ..เคล็ดลับคือแผ่นแป้งฮอยอันส่งตรงมาจากแหล่งกำเนิด ด้วยเทกซ์เจอร์แป้งที่สานเรียงตัวกันคล้ายรังนก ช่วยโอบอุ้มรสชาติไส้ของเปาะเปี๊ยะไว้ได้มั่น ราวกับเป็นกำแพงเก็บกักรสละมุนนั้นไว้ไม่ให้สูญหายไปกับความร้อนเมื่อนำลงไปทอด กร๊อบแรกที่กัดสัมผัสได้ถึง ความเบาบางของเนื้อแป้งละลายหายไป พร้อมกับการระเบิดรสชาติเข้มข้นของเนื้อหมูบดปรุงรส ผัดกับเห็ดหอม, แห้ว และผัก ประกอบรวมร่างกันได้อย่างลงตัว

เพิ่มมิติให้กับอาหารด้วย "น้ำจิ้มเส้น" ตัววัดฝีมือของร้านอาหารเวียดนามแต่ละเจ้า น้ำจิ้มเส้นที่ดีรสต้องไม่โดดจนกลบอาหารจานหลัก หากต้องนัวระรัวลิ้นออกเปรี้ยวอมหวานเพื่อช่วยตัดเลี่ยน ขณะที่ตัวแปรสำคัญอีกอย่าง คือ “เส้น" หรือหัวไชเท้าและแครอทหั่นยาว ทางร้านนำไปแช่น้ำเกลือเพื่อล้างกลิ่นเฉพาะตัวของผักสองชนิดนี้ ก่อนนำไปดองอีกทีเพื่อให้รสน้ำจิ้มเข้มข้นซึมเข้าเนื้ออย่างซาบซ่าน

เห็นผักเคียงจัดเต็มที่เติมได้เรื่อย ๆ ก็อดใจให้ไม่สั่ง "ข้าวเกรียบปากหม้อญวนไส้หมู" (170 บาท) มากินแนมคู่กันไม่ได้จริง ๆ นี่คือเหตุผลที่อาหารเวียดนามจัดว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะเน้นการกินผักเป็นหลัก รักษาสมดุลหยิน - หยางในร่างกายไว้ แป้งปากหม้อญวนผสมจากแป้งหลากชนิด ทำให้ได้ทั้งความเหนียวนุ่ม บางใสแต่ไม่อ่อนแอ แข็งแรงพอจะห่อหุ้มตัวไส้เอาไว้ก่อนปล่อยรสชาติออกมาในทันทีที่ถูกกัดและเคี้ยว ยิ่งได้หอมเจียวมัน ๆ กับหมูยอเส้นหนึบ ๆ มากินด้วยกัน จิ้มน้ำจิ้มปากหม้อสูตรเฉพาะเค็มหวานกำลังดี ตัดรสด้วยน้ำจิ้มเส้นอีกสักนิดแล้วด้วยนั้น กุ๋ยว่าเนื้อคู่มันก็จะหน้าตาประมาณนี้แหละ

ขอกินปลาเพิ่ม Omega-3 กันหน่อย เมนูปลาไหนว่าเด็ดจัดมาค่ะ! "ปลาแรดทอดน้ำปลา" (500 บาท) ปลาแรดเป็น ๆ สด ๆ บั้งสวน ก่อนนำไปทอดในน้ำมันร้อน ๆ ให้ปลาคงเชฟเหมือนตอนยังว่ายอยู่ในน้ำ เหมือนจะบอกกันกลาย ๆ ว่าของเขาสดจริง ๆ นะเออ เนื้อปลาแรดทอดกรอบนุ่มฟู ราดด้วยน้ำปลาแท้จากสมุทรสาคร เค็มหวานกำลังดี ค่อย ๆ ตักเนื้อปลาสีขาวหนังปลากรอบสีเหลืองทองใส่จาน ก่อนปิดจ็อบด้วยน้ำยำสมุนไพร จัดหนักเครื่องและถั่วลิสงกรุบกรอบ อ้าปากกว้าง ๆ แล้วตั้งใจเคี้ยวให้ประสาทสัมผัสรับรู้ครบทุกรสชาติ

ไม่ได้มีแค่อาหารเวียดนามเท่านั้นที่ ร้าน T.House พระราม 6 เขาอาสาพาเราไปชิมมาเกือบครบทุกเมืองเด่น ๆ เพราะอย่างที่เกริ่นมาตั้งแต่แรกว่า ร้านนี้ใส่ใจเรื่องการใช้เวลากับครอบครัว ใครใคร่กินอาหารเวียดนามสั่ง ใครใคร่กินอย่างอื่นที่ร้านเขาก็เตรียมไว้พร้อม ซูชิหรอ ได้! เทโชยุแล้วพุ่งตะเกียบไปที่ “Kani Salad Spicy Roll" (250 บาท) ซูชิโรลล์ที่แบ่งสัดส่วนของข้าวกับไส้ได้อย่างสมดุล เพิ่มความสดชื่นด้วยผักหลากชนิด และปูอัดชิ้นโต ออกเผ็ดเล็ก ๆ เต็มปากเต็มคำเป็นที่สุด

อีกหนึ่งความรู้ใจรสชาติคนไทย ต้องขอยกให้ "Pizza di Parma Prosciutto" (480 บาท) พิซซ่าพาร์มาแฮมแป้งบางกรอบใส่ชีสมาแบบไม่ยั้ง ทางร้านเลือกใช้มอซซาเรลลาชีสรสกลมกล่อม กับพาร์มาแฮมคุณภาพชิ้นใหญ่ ซอสมะเขือเทศปรุงรสหอมละมุนทาอยู่บนแป้งพิซซ่า ช่วยผสานทุกจุดเด่นของวัตถุดิบให้เข้มข้นขึ้นไปอีก นี่ถ้าไม่เกรงใจคนอื่นกุ๋ยอยากขอเหมาหมดคนเดียวทั้งถาด

ปล่อยให้ร่างกายได้ซึบซับอรรถรสจากเมนูอาหารเวียดนาม, ญี่ปุ่น และอิตาเลียน ส่วนตัวกุ๋ยขอเทใจให้กับอาหารตำรับเมืองเว้ของที่นี้ ลืมภาพจำเก่า ๆ ว่าอาหารสุขภาพต้องมีแต่ผักและรสจืดชืด เพราะจริง ๆ อาหารเวียดนามคือการบาลานซ์กันของทั้ง 5 รสชาติ เปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด และขม ผสมกลมกล่อมในหนึ่งคำ

อิ่มกายอย่างนี้ พอถึงคราวชำระเงินรู้ว่าที่ร้านมีบริการจ่ายเงินผ่าน QR Code แม่มณี บริการดี ๆ จาก SCB ก็อิ่มอกอิ่มใจขึ้นไปอีก เพียงแค่หยิบสมาร์ตโฟน เปิดแอปฯ SCB Easy Pay ก็สแกนจ่ายค่าอาหารได้ง่าย ๆ สะดวกสบายเข้าใจคนยุคใหม่ไว้ใจ SCB เขาเถอะ

การเดินทาง

ใครกำลังมองหาร้านอาหารพระราม 6 ก็ต้องร้าน T.House ตรงเลียบทางด่วนพระราม 6 อยู่ติดริมถนนใหญ่ถ้าลงทางด่วนพระราม 6 มาให้ขับชิดซ้ายได้เลย ทางร้านมีที่จอดรถเตรียมไว้บริการ นอกจากนี้ ร้าน T.House ยังมีสาขาอื่น ๆ อีกมากมายทั่วกรุงเทพฯ ทั้งสาขาวิภาวดี, นวลจันทร์, ราชครู และชัยพฤกษ์ ใครใกล้ที่ไหนก็แวะไปตำกันได้ และติดตามข่าวสารจากทางร้านได้ที่ Facebook :D