#วงในบอกมา
- ที่มาของชื่อ “Flavors” มาจากความหมายของ “Flavor” ที่แปลว่า รสชาติ ส่วนการเติม “-S” เข้าไปเพื่อให้เป็นคำนามพหูพจน์ หมายถึง การผสมผสานศาสตร์ของรสชาติต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกัน
- มีการนำเอาเอกลักษณ์ความเป็นไทย ผสานเข้าไว้กับการดีไซน์สไตล์ Modern แฝงไว้ในการตกแต่งต่าง ๆ เช่น โคมไฟรูปบาตรพระหรือการตัดทอนฉลุลวดลายดอกราชพฤกษ์
- “Lost Thai Recipes” คือ Theme หลักของห้องอาหาร “Flavors” ในช่วงนี้ซึ่งจะสลับเปลี่ยนเวียนเมนูอาหารไทยโบราณกันไปในแต่ละวัน
หากเปรียบการลิ้มชิมรสชาติอาหาร เป็นการเรียนรู้วัฒนธรรมรอบโลก ผ่านศาสตร์ของการปรุงก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะแต่ละชนชาติ ย่อมมีองค์ความรู้ในการประกอบอาหาร การเลือกสรรวัตถุดิบ โดยอิงจากลักษณะทางสังคม ค่านิยม ของผู้คนในแต่ละยุคสมัย ประกอบกันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละประเทศอันยากจะหาที่ใดเหมือน
ดังนั้นการที่วันนี้เราได้ถือฤกษ์งามยามดี ยกโขยงกันมาทั้งครอบครัวเพื่อเสาะหาเอกลักษณ์ของบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติรอบโลกคราวนี้ ก็ย่อมมีอะไรสนุก ๆ ที่ทำให้ห้องอาหาร “Flavors” ของโรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ เป็นจุดหมายปลายทางแห่งการตามล่ารสชาติอาหารรอบโลกที่รอการค้นพบไว้อย่างแน่นอน!
ความประทับใจแรกคือกิมมิกการตกแต่งของ “Flavors” ที่ถ่ายทอดความเป็นไทยออกมาผ่าน Interior โดยรวม ซ่อนดีไซน์เสน่ห์แบบไทยเอาไว้อย่างแยบยลคมคาย อย่างโคมไฟสุดเก๋ ถ้าหากมองเผิน ๆ ก็คงไม่คิดอะไร แต่เมื่อพินิจดี ๆ ก็จะเห็นได้ว่าเป็นการนำเอารูปทรงของบาตรพระมาตัดทอนให้เข้ากับฟังก์ชันการเป็นโคมไฟ หรือลวดลายเรขาคณิตบนผนัง จริง ๆ แล้วคือฟอร์มของดอกราชพฤกษ์ ดอกไม้ประจำชาติเรานั่นเอง แค่ Concept การตกแต่งห้องอาหารก็น่าสนใจจนอยากจะรีบไปทำความรู้จักกับแก่นแท้ของบุฟเฟ่ต์โรงแรมอาหารนานาชาติแห่งความเป็น “Flavors” จริง ๆ ว่าจะมีอะไรเตรียมไว้ให้เราเซอร์ไพรส์อีก
องค์รวมของไลน์บุฟเฟ่ต์โรงแรมนานาชาติแห่งนี้ บอกเลยว่าจิ๋วแต่แจ๋ว จิ๋วที่ว่าไม่ใช่จำนวนไลน์อาหารไซส์มินิ หากเป็นการออกแบบพื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัด ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการตักอาหารของทุกคน เป็นการแบ่งสรรปันส่วนทุกตารางเมตรให้เข้าถึงง่าย ไม่มีถือจานยืนงง เกาหัว มองหา “Seafood on Ice” ที่เฝ้ารอไม่เจอ ความสดของซีฟู้ดที่นี่อยู่ในเลเวลที่เรียกว่า เทพโพไซดอนเป็นผู้เสกบรรดา “กุ้งทะเล”, “หอยแมลงภู่นิวเซีแลนด์”, “หอยแมลงภู่ Blue Mussel”, “ปูม้า”, “ปูอลาสกา”, “หอยนางรม Fine de Claire” และ “หอยนางรม Normandy” ให้ร่อนขึ้นจากทะเลมานอนเรียงกันบนไลน์น้ำแข็งคงความสด เด้ง ดิ้นได้!
ข้าง ๆ กันคือ “โซนอาหารอินเดีย” และ “โซน BBQ” ทำกันสดใหม่ ร้อน ๆ กันตรงนั้น! อย่าง “โซนอาหารอินเดีย” คนชื่นชอบความเหนียว นุ่ม หนึบ ของแป้งนานต้องยิ้มกริ่มเป็นแน่ เพราะทาง “Flavors” เขามีโอ่งดิน ที่เรียกว่า “เตาทันดูร์” ไว้สำหรับอบแป้งนานโดยเฉพาะ เป็นการคั่นเวลาระหว่างรอสารพัดเนื้อสัตว์จาก “โซน BBQ” สุกบนเตาถ่านไป ก็นั่งมองแป้งนานสีขาวค่อย ๆ พองตัวจากความร้อน ส่งกลิ่นหอมน่าจิ้มแกงถั่วแดง “Rajma Masala” หอมกลิ่นยี่หร่าและใบกระวานเข้าปากกิน
ความร้อนแรงของรสชาติอาหารอินเดีย กระตุ้นความอยากอาหารให้ทวีคูณมากขึ้นไปอีก ขอปรบมือให้กับการรู้จักปรับตัวให้เข้ากับไลฟ์สไตล์การกินของฟู้ดดี้ชาวไทย เพราะที่ “Flavors” เขามี “โซนหมาล่า” แบบ Made By Order เตรียมไว้ให้ลิ้มรสความเผ็ดร้อนแบบชา ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของอาหารเสฉวนโดยอาการชาเล็ก ๆ ที่ปลายลิ้นมาจากพริก “ฮวาเจียว” ของจีน
ยังไม่จบกับรสชาติจากแดนมังกรแสนคุ้นลิ้นต่อกันที่ “เป็ดย่าง” และ “หมูแดงย่าง” ชิ้นหนาหวานละมุน ตักไปได้ไม่กี่ชิ้นก็ต้องหยีตาให้กับแสงสะท้อนจากแดนอาทิตย์อุทัยของ “โซนอาหารญี่ปุ่น” ชูไฮไลต์ด้วยซาชิมิชิ้นหนา “แซลมอน”, “ทูน่า”, “ซาบะ” และ “ปลาหมึกยักษ์” กับอีกสารพัดซูชิโรลล์ไส้เบิ้ม
หนำใจกันแล้วก็กระโดดไปอีกฟากโลก ให้โชคชะตาพาลิ้นไปลิ้มชิ้มรสความเป็นยุโรปกับเมนู “Greek Pizza”, “Crab cake”, “Beef Wellington” และ “Roasted Pork” หรือเมนูผสานรสชาติแห่งตะวันออกและตะวันตก “Pan Fried Sea Bass with Teriyaki Sauce” อีกเมนูปรุงกันสด ๆ ส่งเสียงดังซูซ่า ร้อนฉู่ฉ่า ความหอมทะลุควันไฟ “Foie Gras” ตับห่านชิ้นหนาความสุกกำลังกิน ด้านนอกกรอบเกรียม เนื้อในนุ่มชุ่มฉ่ำลิ้น ชวนสัมผัสเสน่ห์กลิ่นเฉพาะตัวและความหวานมันตามธรรมชาติด้วย “Balsamic Reduction Dip”, “Coffee Salt” หรือ “Lemon Salt”
Say Ciao~ กันกับสเตชัน Live Cooking อย่าง “โซนพาสต้า” ปรุงกันสดใหม่จานต่อจาน เมนูแนะนำผลัดเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ใครอยากครีเอตนำวัตถุดิบของโซนอื่นมาให้เชฟทำก็ย่อมได้ รอบนี้มี “Carbonara Sauce”, “Tomato Sauce” และ “Bolognese Sauce” เป็นผู้นำทัพ
แต่อย่างไรก็ตามถึงเราจะสนุกกับการท่องโลกผ่านรสชาติอาหารนานาชาติแค่ไหน “Home is where heart is.” ที่แท้ทรูก็คงหนีไม่พ้นอาหารไทยรสชาติอบอุ่นหัวใจ เสน่ห์ของการผสมผสานกันของ Flavors หลากหลายมิติ แต่ละเมนูแฝงไปด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น พร้อมกระบวนการปรุงอันแสนประณีต ยากจะหาชาติใดเทียบ ด้วยลักษณะเฉพาะนี้เองจึงเป็นที่มาของ “Lost Thai Recipe” Theme “บุฟเฟ่ต์อาหารไทย” ประจำห้องอาหาร “Flavors” จากฝีมือรังสรรค์ของเชฟแจ็ค นำเมนูไทยโบราณที่เลือนหายไป กลับมาปัดฝุ่นแปลงโฉมเสียใหม่
เริ่มที่ “แสร้งว่า” เมนูทรงโปรดในรัชกาลที่ 5 เป็นอาหารโบราณที่จัดอยู่ในหมวดของยำ มีเอกลักษณ์ตรงกลิ่นหอมนำของขิงและตะไคร้ รสกลมกล่อม หากยังแฝงไว้ซึ่งความร้อนแรงแบบยำไทยโดย “แสร้งว่า” แต่เดิมเป็นเครื่องจิ้มของชาวบ้านทำมาจากไตปลา หากเมื่อนำเข้าวังจึงปรับมาใช้กุ้งนางแทนไตปลา แล้วเรียกว่า “แสร้งว่ากุ้ง” เป็นต้นมา
อีกเมนูชื่อไม่คุ้นหูแต่ส่งกลิ่นหอมคุ้นจมูกอย่าง “แกงรัญจวน” เป็นอาหารที่ ม.จ.สะบาย นิลรัตน์ คิดค้นขึ้นมา โดยมีกลิ่นหอมรัญจวนใจจาก “น้ำพริกกะปิ” ตะไคร้ฝอย หอม และกระเทียมปรุง 3 รส เปรี้ยว เค็ม หวานแบบต้มยำปลากะพง เดือดแล้วแต่งหน้าด้วยใบโหระพา ส่งกลิ่นอบอวลในปากสมชื่อ “แกงรัญจวน” ช่างควรค่าแก่การลองด้วยประการทั้งปวง อีกหนึ่งความโบราณที่ถูกลืม “ต้มเนื้อเค็ม” ประยุกต์ภูมิปัญญาการถนอมอาหารเนื้อแดดเดียว ทำเป็นแกงกะทิรสเข้มข้นหอมมัน กินกับข้าวสวยหุงขึ้นหม้อร้อน ๆ รับรองลืมไม่ลง
นอกจากนี้ยังมีอีกหลาหลายเมนูอาหารไทยที่เต็มเปี่ยมไปด้วยมิติของรสชาติ และความพิถิพิถันในการตระเตรียมวัตถุดิบ เช่น “ยำผักบุ้งกรอบ”, “คั่วกลิ้งซี่โครงหมู”, “น้ำพริกหนุ่ม” กินคู่กับข้าวตังกรุบกรอบ, “ห่อหมกปู” และ “ยำมะเขือยาวเผา” ก็ล้วนแต่ทำให้เข้าใจถ่องแท้ว่าเสน่ห์ปลายจวักที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร
และแน่นอนเพื่อไม่ให้เป็นไปตามคำกล่าวที่ว่า “กินคาวไม่กินหวาน...” เราจำเป็นต้องฟาดให้เรียบเก็บให้ครบทุกลิสต์ใน “โซนของหวาน” ไล่มาตั้งแต่ “Chocolate Tart”, “Fruit Cake”, “Raspberry Yuzu Moose” และ “Black Forest” ทางฟากขนมหวานแบบไทย ๆ ขอมัดใจด้วย “บัวลอย” กับ “ข้าวเหนียวมะม่วง” ถ้ายังไม่เต็มอิ่มอยากได้ฟีลหวาน ๆ เย็น ๆ จัดไปกับ “โฮมเมดเจลาโต 4 รสชาติ” กินครบจบทุกสำรับ
มาที่ “Flavors” ครั้งนี้ทุกไลน์อาหารพาเราทัวร์พุงแตกกันรอบโลกแบบกระเป๋าตังค์ไม่ฉีก และที่พีกสุด ๆ คือการได้ลิ้มชิมรสอาหารไทยโบราณรสชาติร่วมสมัย ที่ใส่ใจทุกกรรมวิธีการเลือกสรรวัตถุดิบไปจนถึงการจัดจานนำเสนอ เหมือนโชคหล่นทับสองชั้นเมื่อชำระค่าอาหารผ่านบัตรเครดิตและเดบิต UnionPay ก็พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย ดังนี้
- สำหรับบุฟเฟ่ต์มื้อเย็นตั้งแต่วันจันทร์ - วันเสาร์ ราคา 1,490++ บาท รับส่วนลด 20%
- สำหรับบุฟเฟ่ต์มื้อกลางวันวันอาทิตย์ ราคา 1,990++ บาท รับส่วนลด 20%
ไม่หมดเพียงแค่บุฟเฟ่ต์โรงแรมอาหารนานาชาติเท่านั้น เรายังมีอีกหลายร้านอาหารพร้อมสิทธิพิเศษมากมายจาก UnionPay ให้ฟินกันจุก ๆ ตอบโจทย์สายกินแน่นอน!
การเดินทาง
ชวนลิ้มรสชาติเสน่ห์อาหารไทยโบราณ ที่ถูกนำมาปัดฝุ่นปรับประยุกต์ให้คนรุ่นหลังได้สัมผัส เดินทางข้ามกาลเวลาด้วยการเดินทางสมัยคนยุคปัจจุบันโดยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีชิดลม ก็พร้อมเสร็จสรรพเปิดประตูแห่งรสชาติพร้อมกันได้ที่ ห้องอาหาร Flavors @โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์