ใครจะไปรู้ว่าท่ามกลางป่าคอนกรีตใจกลางเมืองกรุงย่านสุขุมวิท จะมีร้านอาหารบรรยากาศเรียบหรู มีกลิ่นอายความคลาสสิคอย่างร้าน “The Gardens of Dinsor Palace” ที่ปรับปรุงมาจากวังเก่าแก่อายุกว่า 80 ปี ที่เดิมเคยเป็นที่ประทับของพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารำไพประภา พระธิดาในสมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อย่าง “วังดินสอ” นั้นเอง
การเดินทางมาที่ร้าน “The gardens of Dinsor Palace” ก็ง่ายแสนง่าย เพราะใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า BTS เอกมัย เดินย้อนขึ้นมาประมาณ 200 เมตร ร้านจะอยู่ในซอยระหว่างสุขุมวิท 59 และ 61 ส่วนใครที่ขับรถมาก็ไม่ต้องกังวลเพราะที่นี้มีส่วนของลานจอดรถไว้รองรับอีกด้วย
ตัวร้านได้แบ่งออกเป็น 4 โซนหลัก โดยทั้งหมดสามารถรองรับลูกค้าได้มากกว่า 300 ที่นั่ง มีทั้งแบบ Outdoor อย่างโซน Eden ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศร่มรื่นจากสวนสีเขียวตกแต่งอย่างดี มีทั้งโต๊ะให้นั่งรับลมเย็นๆ แบบเอ้าท์ดอร์ ฟังเสียงน้ำตกจากสระน้ำที่มีหงส์สีขาวคอยว่ายวนอวดโฉมอยู่ตลอดเวลา และแบบ Indoor ที่สามารถเลือกได้โซนคาเฟ่อย่าง Bakery & Café ที่เหมาะสำหรับนั่งจิบกาแฟ ชิมรสชาติของเบเกอรี่ต่างๆ พลางใช้เวลาไปกับหนังสือเล่มโปรด หรือแม้แต่นั่งทำงานนอกออฟฟิศ ให้ไอเดียได้โลดแล่นกว่าที่เคย หรือโซนห้องอาหารที่มีให้เลือกทั้งสองชั้นอย่าง Dinning และ Private ที่พร้อมไปด้วยบาร์เครื่องดื่ม และบริกรที่คอยให้บริการอยู่ตลอดเวลา
ส่วนอาหารและเครื่องดื่มก็ดีไม่น้อยหน้ากัน เพราะทุกเมนูถูกรังสรรค์ด้วยคอนเซ็ปต์โมเดิร์นอเมริกันที่มีกลิ่นอายฝรั่งเศสปนอยู่ โดยใช้วัตถุดิบแบบไทยๆ จากเชฟมากประสบการณ์อย่าง เชฟ Autumn McTaggart อยากรู้ว่ามีเมนูอะไรน่าสนใจบ้างนั้นต้องตามดูกัน
เริ่มตั้งแต่ The Gardens Caesar Salad หนึ่งในเมนู Lunch Set ที่เน้นความสดใหม่ของผัดไฮโดรโปนิกส์เป็นหลัก โดยทางร้านใช้ผักที่ปลูกเองด้านหลังร้านมาปรุงใหม่แบบจานต่อจาน วางท็อปด้วยไข่ยางมะตูม โรยหน้าด้วย Parmigiano Reggiano และใช้ไวท์แอนโชวี่มาช่วยบาลานซ์ให้รสชาติกลมกล่อมยิ่งขึ้น
ต่อกันด้วยเมนู Pancakes & Passion Fruit Curd (260 บาท) เมนูแพนเค้กแป้งบางที่ให้รสชาติเปรี้ยวนิดๆจากยีสต์ ทุกครั้งที่ตักกินจะรู้สึกได้ถึงความเหนียวนุ่มของแป้งแพนเค้กได้มากกว่าปกติ ราดทับด้วยครีมเสาวรส และวิปปิ้งครีมทำเอง กินเพลินสุดๆ
Duck Confit & Pomegranate Glaze (350 บาท)คืออีกหนึ่งเมนูสุดพิเศษทุกอยากให้ลองสั่ง เพราะด้วยเสน่ห์ของชิ้นน่องเป็ดที่มีความกรอบนอกนุ่มใน เพราะผ่านการสโลว์คุ๊กกิ้งมาหลายชั่วโมง วางทับอยู่บน Polenta Cake เนื้อนุ่ม ราดทับด้วยน้ำสต๊อกที่มีส่วนผสมของเรดไวน์ ก่อนปิดท้ายด้วยการโรยทับหน้าด้วยเมล็ดทับทิบที่ให้รสชาติเปรี้ยวอมหวานตัดความเลี่ยนของ Polenta Cake ได้ดี
ถึงเวลาของเมนูไฮไลท์อย่าง Espresso BBQ Pork Ribs (850 บาท/Full,450 บาท/Half) ที่โดดเด่นในเรื่องรสชาติของซอสบาบิคิวที่เคลือบบนชิ้นซีโครงหมูที่ผ่านการสโลว์คุ๊กกิ้ง ทำให้หอมกลิ่นอายจากการรมควัน ปนรสชาติของ Espresso จางๆ ก่อนเพิ่มรสชาติแบบไทยๆ อย่างการโรยพริกชี้ฟ้า และผักชีไทย เสิร์ฟคู่กับ Potato wedges และ Chili coleslaw อร่อยลงตัว
ต่อด้วยเมนูแป้งพิซซ่าแบบบางอย่าง The Gardens Smoked Salmon Pizza (520 บาท) ที่ร้านทำแป้งโดขึ้นเอง มาผสมกับมอสซาเรลล่าชีส และเชดด้าชีสที่ผ่านการคัดเลือกจากเชฟอย่างพิถีพิถัน ทาทับด้วย Olive Oil Marinara ก่อนวางทับชิ้นแซลมอนที่ผ่านการสโม๊ค และโรยทับด้วยผักชีลาวเป็นการตบท้าย ใครได้กินแล้วต้องชอบอย่างแน่นอน
Sweet time~ ถึงเวลาเมนูหวานโดนใจสาวน้อยใหญ่ ด้วย New York Cheesecake & Rum Pineapple (160 บาท) ให้สัมผัสนิวยอร์คชีสเค้กแบบเต็มคำ เข้ากับมะพร้าวที่เสิร์ฟมาในรูปแบบของคุ๊กกี้ และเคลือบไว้รอบชิ้นชีสเค้กเองเช่นกัน กินตัดกับซอสใบโหระพาที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์ความหอมสไตล์เฮิร์พ และชิ้นสับปะรดเชื่อมเหล้ารัม ฉีกภาพลักษณ์เดิมๆ ต้องลอง
ต่อด้วยเมนู Peanut Butter,Toffee & Chocolate Mercury Cake (140 บาท) เมนูของหวานที่ให้สัมผัสหนึบหนับจากเนื้อมาชเมลโล่ที่ผสมอยู่ในตัวชิ้นเค้ก เติมรสชาติเข้มข้นด้วยช็อคโกแลตที่เคลือบอยู่ด้านนอก กินเข้ากับเนยถั่วแบบโฮมเมดรสชาติหอมมันเป็นเอกลักษณ์ ก่อนตัดด้วยเกลือเม็ดใหญ่ที่ผ่านการรมควัน นับว่าเป็นเมนูที่บาลานต์รสชาติกันได้ลงตัวมาก
ของหวานที่ว่าดียิ่งจับคู่กับชาสมุนไพรหอมๆ สไตล์ท้องถิ่นจากภาคเหนือ ยิ่งเข้ากันดีมาก หรือจะสั่งเป็นเมนูเครื่อง Cocktail ดีๆ ยิ่งทำให้คืนนี้เพอร์เฟ็คมากขึ้น
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเมนูความอร่อยเท่านั้น ถ้าใครที่กำลังมองหาร้านอาหารที่เดินทางสะดวก บรรยากาศดีมาก แถมอาหารอร่อย นับว่าร้าน “The Gardens of Dinsor Palace” เป็นร้านอาหารใจกลางเมืองที่เป็นตัวเลือกที่ดีแห่งหนึ่ง ที่น่าควงแขนชวนคุณแฟน ครอบครัว หรือแม้แต่ลูกค้ามานั่งชิลล์มากๆ