วิจัยเผย! คนส่วนใหญ่มักเลือก Netflix เป็นร้อยเรื่องจนไม่ได้ดูซักที
  1. วิจัยเผย! คนส่วนใหญ่มักเลือก Netflix เป็นร้อยเรื่องจนไม่ได้ดูซักที

วิจัยเผย! คนส่วนใหญ่มักเลือก Netflix เป็นร้อยเรื่องจนไม่ได้ดูซักที

มีเยอะก็เลือกเยอะ อย่าง Netflix ที่มีหนังเป็นร้อยเรื่องแต่เลือกแล้วเลือกอีก เลือกยังไงก็เลือกไม่ได้ซักทีว่าจะดูอะไร ทำไมถึงเป็นแบบนั้น วิจัยเผย คนส่วนใหญ่ก็เป็น
writerProfile
4 เม.ย. 2022 · โดย

เพื่อน ๆ คนไหนที่ไถ Netflix ไปมา หรือไถแอปดูหนังอื่น ๆ จนแล้วจนรอด ไถเป็น 10 นาทีก็เลือกเรื่องที่จะดูไม่ได้ซักที บอกเลยว่าเพื่อน ๆ ไม่ได้เป็นแบบนั้นคนเดียว แต่เป็นกันทั้งโลก! มาดูเหตุผลกันดีกว่า ว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น แล้วจะแก้ปัญหามีเยอะก็เลือกเยอะได้ยังไง ไปดูกันดีกว่าค่ะ 

วิจัยเผย! คนส่วนใหญ่มักเลือก Netflix เป็นร้อยเรื่องจนไม่ได้ดูซักที

วิจัยเผย! คนส่วนใหญ่มักเลือก Netflix เป็นร้อยเรื่องจนไม่ได้ดูซักที The Paradox of Choice

เคยไหม? ที่เลื่อนหาหนังที่จะดูใน Netflix แต่ก็ไม่ได้ดูในสิ่งที่ต้องการซักที จากการดูเพื่อผ่อนคลาย กลายเป็นเพิ่มความเครียดในการเลือกหนังและหมดอารมณ์ในการดูไปซะอย่างนั้น ขอบอกเลยค่ะ ว่าเพื่อน ๆ ไม่ได้เป็นแบบนั้นคนเดียว เพราะโดยธรรมชาติแล้ว ยิ่งมีตัวเลือกมาก ก็ยิ่งเลือกเยอะ และสุดท้ายก็กลายเป็นการเลือกไม่ได้ซักที ทฤษฎีนี้ เรียกว่า "The Paradox of Choice"

ทฤษฎีนี้ มีที่มาจากนักจิตวิทยาชื่อ Barry Schwartz เขาพบว่าในสมัยนี้มีตัวเลือกที่เยอะขึ้นมากกว่าในอดีต แต่คนกลับไม่มีความพอใจเพิ่มขึ้นตามคาด ในทางเศรษฐศาสตร์แล้ว ยิ่งมีตัวเลือกมาก ยิ่งต้องแข่งขันกันสูง คนที่จะได้ประโยชน์สูงสุดก็คือผู้บริโภค กลับกลายเป็นว่า พอมีตัวเลือกเยอะ ๆ ทำให้คนไม่พอใจกับการตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุด

เขาได้ทำการทดลองเกี่ยวกับเรื่อง The Paradox of Choice นี้ ร่วมกับนักพฤติกรรมศาสตร์ Sheena Iyengar และ Mark Lepper โดยพวกเขาได้ทดลองเกี่ยวกับปริมาณตัวเลือก ว่าส่งผลต่อผู้บริโภคยังไง โดยในการทดลองนี้แบ่งออกมาเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก จะวางแยมเลิศรสไว้บนโต๊ะ 24 รส ส่วนกลุ่ม 2 มีแยมอยู่แค่ 6 รสเท่านั้น ผู้บริโภคสามารถเลือกชิมแยมได้ทุกรส และถ้าลองชิม ก็จะได้ส่วนลด $1 ในการซื้อด้วย พวกเขาพบว่าโต๊ะที่มีแยม 24 รส สามารถดึงดูดลูกค้าได้มากกว่าก็จริง แต่มีคนจำนวนน้อย ที่ตัดสินใจซื้อกลับไป

เพราะก่อนที่คนเราจะตัดสินใจอะไร ก็มักจะมีความคาดหวังที่สูง ให้คุ้มค่ากับเวลาที่จะลงทุนไปมากที่สุด และถ้าเกิดว่าเลือกผิด ก็จะทำให้รู้สึกว่าเราล้มเหลวและเกิดอาการผิดหวังได้ และเมื่อเรามีทางเลือกเยอะเกินไป ส่วนใหญ่จะจบลงด้วยการ “ไม่เลือกอะไรเลย” เพราะมนุษย์เราอาจจะไม่สามารถรับมือกับทางเลือกใหม่ ๆ ได้ ทำให้เราวกกลับเข้าสู่ “Safe Zone” ของตัวเอง คือการเลือกอะไรซ้ำ ๆ หรืออะไรที่ตัวเองคุ้นเคย

สำหรับใครที่เลือกหนังจนไม่ได้ดูซักที แนะนำให้ดูเรื่องที่ติดอันดับใน Netflix แล้วเลือกแนวที่ชอบได้เลย หรือจะดูรีวิวก่อนค่อยไปดูก็ได้ หรือการเลือกหนังที่ตั้งใจว่าจะดูไว้ในใจ แล้วค่อยเข้าไปหาใน Netflix จะช่วยลดเวลาในการไถฟีดเลือกหนังได้มากขึ้น ตัดปัญหาเลือกไม่ได้ซักที หรือปัญหามีเยอะก็เลือกเยอะได้

Reference :

Barry Schwartz. 2005. "The Paradox of Choice: Why More Is Less" [Online] เข้าถึงได้จาก : https://www.researchgate.net/publication/200552951_The_Paradox_of_Choice_Why_More_Is_Less สืบค้นเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2565

The Decision Lab. 2022. "The Paradox of Choice" [Online] เข้าถึงได้จาก : https://thedecisionlab.com/reference-guide/economics/the-paradox-of-choice สืบค้นเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2565 

อย่างที่โบราณว่า “เลือกนัก มักได้แร่” เพราะใคร ๆ ก็ต้องการสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองทั้งนั้น มีเยอะก็เลือกเยอะใช้เวลาเลือกนาน แล้วสุดท้ายก็เลือกไม่ได้ซักที ไม่ว่าจะ Netflix, Tinder หรือของกิน ที่มีให้เลือกหลากหลาย สุดท้ายก็จบที่หนังเรื่องเดิม ๆ เจอคน Type เดิม ๆ หรือเลือกที่จะกินข้าวไข่เจียว หรือข้าวผัดกระเพราไข่ดาวเหมือนเดิมทุกวัน เพราะไม่รู้จะเลือกอะไร ทั้ง ๆ ที่ตัวเลือกอื่นก็มีเยอะแยะ แต่สุดท้ายสิ่งที่เราเลือกเอง แม้จะไม่ได้ดีที่สุด ก็เป็นสิ่งที่สามารถเติมเต็มเราได้เหมือนกัน 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ