กลับจากญี่ปุ่นได้ไม่ทันไร ความประทับใจที่ได้จากการลิ้มลองปลาสด ๆ จากตลาดปลาซึกิจิยังติดอยู่ที่ปลายลิ้น อยากจะตีตั๋วกลับไปกินอีกครั้งให้หนำใจเหลือเกิน โชคดีที่คุณเพื่อนมาทักไว้ได้ทัน! เห็นว่าแถวพร้อมพงษ์มีร้านอาหารญี่ปุ่นเปิดใหม่อยู่ร้านหนึ่งค่ะ โดยทางร้านจะใช้วัตถุดิบสด ๆ จากตลาดปลาซึกิจิเน้น ๆ เลย เข้าทางแซนด์แบบนี้ ก็ต้องไปลองกันแล้วค่า~
ร้านที่แซนด์พามาในวันนี้ชื่อว่าร้าน Tsukiji Aozora Sandaime Bangkok ค่ะ เป็นร้านซูชิสไตล์เอโดะดั้งเดิมในโรงแรม Compass Sky View บรรยากาศร้านตกแต่งในสไตล์ Contemporary ร่วมสมัย เน้นออกแบบให้ลูกค้าสนุกกับไอเดียของอาหารผ่านการสรรสร้างจากเชฟ โดยที่ด้านหลังเชฟจะมีแสงที่ลอดผ่านไม้ระแนงเกิดเป็นเงาสวย ๆ ที่จะแปรเปลี่ยนไปตามช่วงเวลา ลึกเข้าไปด้านในจะเป็นโซนไพรเวตสำหรับลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัวค่ะ
เมนูภายในร้านจะเน้นเป็นซูชิในสไตล์เอโดะดั้งเดิม และคอร์สโอมากาเสะ (Omakase) หรือคอร์สซูชิที่เชฟจะเป็นผู้คัดสรรวัตถุดิบด้วยตนเอง โดยคำนึงถึงความชอบของลูกค้าและวัตถุดิบตามฤดูกาลนั้น ๆ เป็นสำคัญ สรรสร้างขึ้นจากเชฟชาวญี่ปุ่นผู้มีประสบการณ์ในการทำซูชิมากว่า 35 ปีเลยทีเดียว ซึ่งเมนูที่แซนด์จะพาทุกคนมากินไปด้วยกันในวันนี้ก็คือ “Aozora” (3,300.-) คอร์สโอมากาเสะที่มีชื่อเดียวกับทางร้านนี่เลยค่ะ : )
เริ่มกันที่ Appetizer จานแรก “Ebi Miso” กุ้งนึ่งเสิร์ฟพร้อมซอสมิโสะผสมมันกุ้ง ตัวซอสหอมเข้มข้นมาก กลิ่นของมันกุ้งกับรสชาติของมิโสะก็เข้ากันได้ดี ส่วนสาหร่ายโมซุกุปรุงรสในน้ำส้มยุซุที่เสิร์ฟมาด้านข้างก็นุ่มและสดชื่นมาก ๆ เป็นจานเปิดที่ดีทีเดียว ต่อด้วย “Sashimi” ซาชิมิปลาเนื้อขาว เสิร์ฟมาพร้อมหินเกลือหิมาลัยและมะนาว เชฟบอกว่าเมนูนี้ ให้เราบีบมะนาวลงบนหินเกลือ แล้วนำปลาไปวนบนหินเบา ๆ เพื่อให้น้ำมะนาวและความเค็มของเกลือ ช่วยดึงเอาความหวานของเนื้อปลาออกมาได้อย่างเต็มที่นั่นเอง
ฟินกับความหวานของเนื้อปลาได้ไม่เท่าไร “Yakizakana” ปลาย่างร้อน ๆ ก็ถูกยกมาเสิร์ฟต่อทันควัน เมนูของวันนี้เป็นปลาชิมะอาจิค่ะ ปลาเนื้อขาวเนื้อเบา นุ่มลิ้น ตามด้วย “Chawanmushi” ไข่ตุ๋นเนื้อเนียน รสชาติกลมกล่อม ไข่ตุ๋นของที่นี่จะมีไข่ปลาแซลมอนโรยที่ด้านบนด้วย เพิ่มความเข้มข้นให้รสชาติโดยรวมไปอีกหนึ่งระดับ : )
เข้าสู่เมนูซูชิกันบ้าง จานแรก “Hirame Kombu” ปลาฮิราเมะหมักสาหร่ายคอมบุ เพื่อเพิ่มความนุ่มหนึบให้เนื้อปลา ท็อปด้วยน้ำมะนาวด้านบน ได้ความสดชื่นแบบเต็ม ๆ และ “Sakura Flavored Salmon” ปลาแซลมอนหมักใบซากุระดอง เนื้อปลานุ่ม ๆ ที่ทำให้ความหอมของซากุระอบอวลไปทั่วลิ้น
“Tachiuo With Mint Sauce" ปลาเนื้อขาวประจำฤดูกาลนี้ต้องยกให้ปลาทาจิโอะเลย ช่วงฤดูหนาวแบบนี้ ปลาทาจิโอะที่ได้จะเนื้อแน่นเป็นพิเศษเลยค่ะ เชฟจะนำเนื้อปลามาลนไฟเบา ๆ แล้วท็อปด้วยซอสมินต์สูตรพิเศษของทางร้าน จนได้รสเย็น ๆ ที่เข้ากับความหวานของเนื้อปลาได้เป็นอย่างดี ตามด้วย “Kinmedai Aburi” ปลาคินเมะไดที่เชฟลนไฟส่วนหนังจนหอมได้ที่ ท็อปด้วยน้ำมะนาว และโชยุสูตรของทางร้าน ให้รสชาติที่กลมกล่อมกว่าโชยุทั่วไป
ต่อด้วยความหวานนุ่มของ “Hotate With Bamboo Salt” หอยเชลล์คัดพิเศษ ปรุงรสด้วยเกลือไม้ไผ่ เกลือสีดำที่อบอวลไปด้วยความหอมของต้นไผ่ นอกจากกลิ่นที่แปลกใหม่แล้ว รสชาติของเกลือยังช่วยดึงเอาความหวานของหอยเชลล์ออกมาได้มากเป็นพิเศษ และ “Akami” เนื้อปลาทูน่าส่วนไม่ติดมัน หมักในโชยุสูตรพิเศษของทางร้าน แล้วท็อปด้วยเปลือกส้มยุซุ เป็นอีกหนึ่งคำที่ลงตัวมาก ๆ ด้วยรสชาติเฉพาะตัวของเนื้อปลา ความกลมกล่อมของโชยุ และความสดชื่นจากเปลือกส้มยุซุ
ตามด้วย “Otoro” โชคดีที่วันนี้ปลาทูน่ามาส่งที่ร้านพอดีค่ะ แซนด์เลยได้เห็นเชฟแล่เนื้อปลากันแบบสด ๆ พร้อมลิ้มลองเนื้อส่วนโอโทโรกันแบบเต็ม ๆ แค่เอาเข้าปากเนื้อปลาก็แทบจะละลายหายไปบนลิ้น สมกับที่มีริ้วมันแทรกสวยงามมาก ๆ ใครที่หลงใหลสัมผัสนุ่ม ๆ และความหอมมันแบบที่ไม่มีอะไรเทียบได้ของโอโทโรอยู่ล่ะก็ ต้องมาลองค่ะ! แต่ถ้าใครเป็นสาวกปลาไหล ต้องลอง “Anago Aburi” ปลาไหลทะเลญี่ปุ่นย่างซอสสูตรพิเศษ โดดเด่นที่ความหอมจากการย่าง สัมผัสนุ่ม ๆ และรสชาติเข้มข้นของตัวซอส
“Uni Ikura With Dashi sauce” ข้าวปั้นหน้าไข่หอยเม่นและไข่ปลาแซลมอน ในน้ำซุปดาชิรสกล่อมกล่อม ที่คอยผสานรสชาติหวานมันของไข่หอยเม่นพันธุ์บาฟุนจากฮอกไกโด และความเข้มข้นของไข่ปลาแซลมอนได้อย่างลงตัว เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ติดใจจนอยากกลับไปลองอีกครั้งเลยค่ะ
ปิดท้ายด้วย “Negi Toro Roll” โรลล์ปลาทูน่าสับผสมกับหอมญี่ปุ่นซอย ที่เสิร์ฟมาเป็นคำสุดท้ายนี้จะช่วยให้ความสดชื่น และเคลียร์รสชาติที่อยู่ในปากค่ะ
บอกเลยว่า “Aozora” เป็นคอร์สโอมากาเสะราคาย่อมเยาที่คุณภาพคับล้นจริง ๆ เพื่อน ๆ คนไหนอยากมาลองซูชิสไตล์เอโดะดั้งเดิม ต้องมาลองให้ได้จริง ๆ ค่ะ หรือถ้าใครที่สนใจเป็นเมนู Donburi มากกว่า ทาง Tsukiji Aozora Sandaime Bangkok ก็มีเมนู Donburi ที่น่าสนใจมาฝากเช่นกันค่ะ
เริ่มจาก “Ikura Salmon Don” (580.-) ใครที่ติดใจเจ้าปลาแซลมอนที่มาพร้อมความหอมของกลิ่นซากุระ ต้องห้ามพลาดเมนูนี้เลย เพราะคราวนี้เชฟจัดปลาแซลมอนมาให้เราได้ลิ้มลองความกรอบของเนื้อปลาแบบเน้น ๆ แถมเพิ่มระดับความเข้มข้นด้วยไข่ปลาแซลมอนแบบล้น ๆ ได้ใจคนรักแซลมอนไปเต็ม ๆ
แต่ถ้าใครชอบความหอมในฉบับของปลาย่างมากกว่า ก็ต้อง “Aburi Don” (580.-) เมนูข้าวหน้าปลาย่างที่รวบรวมเนื้อปลาชั้นดีไว้อย่างหลากหลาย ทั้งปลาทูน่า ปลาคินเมะได ปลาโนโดกุโระ และปลาเนื้อขาวตามฤดูกาล ที่ล้วนแต่แข่งกับส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายจนเลือกกินไม่ถูก! หรือจะเป็น “Sanshu Don” (1,280.-) เมนู Don ถ้วยเล็กที่เต็มเปี่ยมไปด้วยวัตถุดิบสุดพรีเมียม ทั้งกุ้งโบตัน ไข่หอยเม่นและไข่ปลาแซลมอนจนแน่นชาม!
ส่งท้ายด้วย “Edomabushi ‘Saikyo’” (1,280.-) เมนู Don ที่ทุกความพรีเมียมจากเมนูก่อนหน้ามาอย่างครบครัน ทั้งกุ้งโบตัน โอโทโร อุนิ ปลาคินเมะไดย่าง และอากามิหมักโชยุ เรื่องความสดของวัตถุดิบคงไม่ต้องบรรยายให้เสียเวลา เพราะแค่ชื่อตลาดปลาซึกิจิ ก็การันตีได้ถึงคุณภาพคับล้น แต่เรื่องรสชาตินั้นต้องยกนิ้วให้กับเชฟของทางร้านเลยค่ะ เพราะทุกเมนูนั้นถูกปรุงแต่งด้วยความตั้งใจและพิถีพิถันจริง ๆ
พิเศษสุด ๆ ตอนนี้ทาง Tsukiji Aozora Sandaime Bangkok กำลังมีโปรโมชั่นสำหรับชาว Wongnai ด้วยค่ะ เพียงแจ้งว่า ตามมาจากบทความใน Wongnaii รับฟรีเบียร์สดซัปโปโร หรือน้ำแอปเปิลแท้จากอาโอโมริไปเลย 1 แก้วค่ะ ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2018 นอกจากนี้ ทางร้านยังมีส่วนลด 10% สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม หากจ่ายด้วยบัตรเครดิต Citibank ด้วย รีบมากันให้ไวเลย!
เพื่อน ๆ คนไหนกำลังมองหาร้านซูชิหรือร้านโอมากาเสะเด็ด ๆ อยู่ล่ะก็ แนะนำเลยค่ะ! ร้าน Tsukiji Aozora Sandaime Bangkok เปิดให้บริการทุกวัน โดยจะแบ่งเป็นรอบกลางวัน 11:30 - 14:00 น. และรอบเย็น 17:30 - 22:00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ FB/IG : Sandaimebkk หรือโทร. 02-011-1102
การเดินทาง
ร้าน Tsukiji Aozora Sandaime Bangkok ตั้งอยู่ที่ ชั้น 1 ของโรงแรม Compass Sky View บริเวณสุขุมวิท 24 ห่างจาก BTS พร้อมพงษ์ ประมาณ 100 เมตร เท่านั้นเองค่า