และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแบบไคเซกิชื่อดัง ขวัญใจนักชิมน้อยใหญ่จนได้รับรางวัลเบสท์ออฟวงในสองปีซ้อนอย่าง Umenohana@Nihonmura Thonglor 13 ได้นำเซ็ทเมนูใหม่ ต้อนรับเดือนมีนาคม ซึ่งตรงกับข่วงฤดูใบไม้ผลิของประเทศญี่ปุ่นพอดิบพอดี
เมื่อพูดถึงฤดูใบไม้ผลิ ไม่ว่าจะเป็นคนญี่ปุ่น หรือคนไทย สิ่งแรกที่ต้องคิดถึงก็คือ “ซากุระ” ดอกไม้สีชมพูอมขาวที่มีเสน่ห์ชวนหลงไหล ดึงดูดนักท่องเที่ยวไปทั่วโลก ทั้งยังเปรียบเปรยได้ว่าเป็นฤดูแห่งการเริ่มต้น และความสดใส
ดังนั้นจึงทำให้ร้าน Umenohana เลือกนำความสดใสจากประเทศญี่ปุ่นอย่างวัตถุดิบชั้นดีที่มีเฉพาะฤดูใบไม้ผลิ ไม่ว่าจะเป็น ซากุระเอบิ สตอเบอร์รี่อามะโอ ผักตามฤดูกาล ได้แก่ หน่อไม้ทาเคโนะโกะ ผักนาโนะฮานะ ถั่วโซระมาเมะ ฯลฯ มาจับคู่กับวัตถุดิบยอดนิยมของทางร้านอย่าง ปูทาราบะ และเต้าหู้สด กลายเป็นไคเซกิสำหรับฤดูใบไม้ผลิที่มีชื่อว่า “ฮารุ อุระระ” และลันซ์คอร์สน่ารักๆ อย่าง “ไมซากุระ”
มาถึงร้านกันทั้งที กินดะอิจิ ต้องสั่งจัดเซ็ทพรีเมี่ยมแน่นอน งั้นขอเริ่มต้นความสดใสด้วยการสั่ง ไคเซกิสำหรับฤดูใบไม้ผลิอย่าง “ฮารุ อุระระ” ลองดูสิว่าจะมีอะไรน่าสนใจกันบ้าง
วอร์มอัพความอร่อยสไตล์ญี่ปุ่นด้วย “เมนูเต้าหู้โยโมกิ มิเนโอกะ หน้าอิคุระ”ความพิเศษของเมนูนี้อยู่ที่การนำเอาเต้าหู้ซิกเนเจอร์ของทางร้าน ที่ทำจากนม มาผสมกับผักโยโมกิ ทำให้เต้าหู้มีสีเขียว และมีกลิ่นหอม โรยไข่ปลาแซลมอน และดอกซากุระ ก่อนราดด้วยโชยุสูตรพิเศษปิดท้าย
ตามด้วยเมนู “หอยเชลล์ และผักตามฤดูกาลราดเจลลี่พอนสึ” ที่ได้กลิ่นหอมของกาลิคบัตเตอร์ เติมรสชาติเปรี้ยวด้วยเจลลี่พอนสึ กินคู่กับผักตามฤดูกาลอย่าง หน่อไม้ นาโนะฮานะ และโซระมาเมะ ช่วยส่งรสชาติให้หอยเชลล์ได้เป็นอย่างดี
หลังจากเสร็จจากจานที่สองไม่นาน พนักงานก็จะนำหม้อ “เต้าหู้ฟุคุฟุคุซากุระ ซอสซากุระเอบิ” เมนูนี้เป็นเมนูยอดนิยมของทางร้าน ซึ่งจะนำน้ำเต้าหู้มาต้มจนเปลี่ยนเป็นเต้าหู้ให้ถึงโต๊ะ ความพิเศษกว่าเต้าหู้ฟุคุฟุคุปกติที่เป็นสีขาว คือเต้าหู้ฟุคุฟุคุในคอร์สนี้จะมีสีชมพู ซึ่งได้มาจากเบนิโคจิ และมีดอกซากุระใส่ลงไปด้วยหลังจากตั้งไฟ อดใจรอประมาณ 15 นาที ก็จะพบกับเต้าหู้สีชมพูจับตัวกันสวยงามอยู่ตรงหน้า กินคู่กับซอสที่มีส่วนผสมของเนื้อกุ้งซากุระเอบิ ผักในฤดูกาล และฟองเต้าหู้ อร่อยเข้ากันมาก
ต่อด้วยเมนู “ซาซิมิ” ที่เสิร์ฟในชามน้ำแข็งที่ตบแต่งอย่างดี ด้านบนมีชิ้นปลามากุโระส่วนโทโร่ และปลามะไดวางอยู่คู่กันเหมือนหยินกับหยาง เพราะในความหวานมันของโทโร่ ยังมีมะไดที่ให้ความสดชื่นช่วยบาลานซ์ไม่ให้เลี่ยนเกินไป
“หอมมากๆ” คำอุทานแรกที่เปิดถ้วยเมนู “ข้าวซูชินึ่งหน้าอิคุระ” ข้าวปั่นซูชิขนาดกำลังดีที่ผ่านการนึ่งเมื่อเปิดฝาก็ได้กลิ่นหอมของผิวส้มยูสึ ด้านบนของข้าวซูชิวางทับด้วยไข่หวาน และไข่ปลาแซลมอนที่ใครได้ชิมก็ต่างติดใจ
และแล้วก็ถึงเมนูไฮไลท์อย่าง “ปูทาราบะ” ราชันย์ปูทะเลญี่ปุ่น เด็ดถึงขั้นเป็นหนึ่งในเมนูดวงใจของคนญี่ปุ่น ขนมาเสิร์ฟให้คนไทยได้กินกันถึงที่ มีให้เลือกทั้งแบบนึ่งสำหรับคนที่ชอบความนุ่ม และแบบย่างสำหรับคนที่ชอบกลิ่นหอมเอกลักษณ์ ยิ่งจิ้มกินกับซอสเปรี้ยวสูตรเฉพาะของทางร้าน ดีงามสุดๆ
เสิร์ฟความอร่อยด้วยเมนู “เนื้อวัวคุโระเกะวากิวย่างหินลาวา” ที่เลือกใช้เนื้อวากิวขนดำคุณภาพพรีเมี่ยมส่งตรงจากเกาะคิวชู ย่างบนแผ่นหินลาวาร้อน จะทำให้ไขมันที่แทรกอยู่ละลายทั่วทั้งปาก ใครที่ชอบเนื้อเป็นทุนเดิม ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด
ตัดความมันเลี่ยนกันด้วยเมนูถัดไปอย่าง “ยูบะอาเกะ” ที่ทำจากเนื้อปลาญี่ปุ่นปรุงรสพันฟองเต้าหู้บางๆ ก่อนนำมาทอดจนสีเหลืองทอง แนะนำให้บีบมะนาวเพิ่มความเปรี้ยว ยิ่งทำให้กลมกล่อมยิ่งขึ้น
ต่อกันด้วยการเสิร์ฟเมนู “นิกิริซูชิ และเทกกะมากิ” ข้าวปั้นหน้าปลาดิบระดับพรีเมี่ยม 3 คำอย่าง อากามิ คัมปาจิ และอามาเอบิ กับเทกกะมากิที่สอดไส้ปลามากุโระอีก 3 คำ กินแกล้มกับ “น้ำซุปมิโซะฟองเต้าหู้” ที่ทำจากมิโซะแดง เข้มข้น ลงตัว
ปิดท้ายกันด้วยเมนู “พุดดิ้งน้ำเต้าหู้ ซอสสตอร์เบอรรี่อามาโอ” สีขาวเนียนนุ่มสุดละมุน ทานกับซอสสตอเบอร์รี่อามะโอ สายพันธุ์ขึ้นชื่อของญี่ปุ่น ซึ่งต้องทานช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ ของหวานจานนี้ช่วยเติมรสชาติเปรี้ยวหวาน จบคอร์สความอร่อยอย่างสมบูรณ์แบบ
นอกจากนี้ ยังมีลันซ์คอร์สน่ารักๆ อย่าง “ไมซากุระ” อีกด้วย ใครอยากสัมผัสกลิ่นอายฤดูใบไม้ผลิ ชมดอกซากุระบานโดยไม่ต้องไปไกลถึงประเทศญี่ปุ่น ต้องห้ามพลาดเมนูไคเซกิฤดูใบไม้ผลิของร้าน Umenohana@Nihonmura Thonglor 13 ที่มีขายพิเศษตั้งแต่เดือนมีนาคม จนถึงเดือนพฤษภาคมนี้เท่านั้น!!
