หากใครเคยติดใจในรสชาติของปูทาราบะ จากร้าน Umenohana ร้านอาหารแบบไคเซกิชื่อดังของญี่ปุ่น ซึ่งได้รับการันตีความเป็นที่สุดของรสชาติจากนักชิม ทั้งยังพ่วงท้ายด้วยรางวัลเบสท์ออฟวงในปีล่าสุด คงต้องถูกใจแน่ ๆ เพราะตอนนี้ทางร้าน Umenohana ได้ผุดเซ็ทเมนู Irodori หรือเซ็ทปูขน Kegani ออกมาเอาใจคนชอบกินปูกันก่อนใคร
สาเหตุที่ต้องบอกเช่นนั้น ตามความเป็นจริงแล้ว คนส่วนใหญ่จะสามารถหาปูขนได้เยอะสุดในช่วงเดือนพฤจิกายน ถึงเดือนมกราคมเท่านั้น แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องรอนานขนาดนั้น เพราะทางร้าน Umenohana ทำให้พวกเราสามารถลิ้มรสความอร่อยของเนื้อปูขนกันตั้งแต่ ณ บัดนี้ได้เลย
เล่นผุดเมนูพิเศษมายั่วกันขนาดนี้ กินดะอิจิไม่มีทางพลาดอย่างแน่นอน
การกลับมาเยือนร้าน Umenohana ในครั้งนี้ ความประทับใจจากการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์จากครั้งก่อนแล้ว เราสัมผัสได้ถึงปรับเปลี่ยนการตกแต่งร้านบางอย่าง หลังจากสอบถามกับพนักงานก็พบว่า ทางร้านได้เปลี่ยนเสื่อทาทามิใหม่หมดทั้งร้าน ทำให้ส่งกลิ่นหอมราวกับอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้า อีกทั้งยังเปลี่ยนภาพวอเปเปอร์ และดอกไม้ให้เข้ากับเทศกาลต่างๆ ที่อิงตามประเทศญี่ปุ่น ช่างเป็นการเติมเต็มบรรยากาศ กลิ่นอายภายในร้าน Umenohana สาขาทองหล่อ 13 ให้กลายเป็นสไตล์ญี่ปุ่นสุดคลาสสิค
ส่วนเซ็ทเมนู Irodori (4,500 บาท/set)ก็ยังคงคอนเซ็ปต์ “ไคเซกิ” หรือ เสิร์ฟอาหารแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น คือ ไล่เรียงกันไปเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่เมนูออเดิร์ฟ จนจบที่เมนูของหวาน ซึ่งมีข้อดีตรงที่ลูกค้าสามารถรับรู้ถึงรสชาติของแต่ละเมนูได้อย่างเต็มที่นั้นเอง
เริ่มต้นความอร่อยแบบจัดเต็ม ตั้งแต่เมนูออเดิร์ฟอย่าง Mineoka Tofu Topped With Fresh Uniที่มีลักษณะคล้ายของหวาน จนเผลอทักท้วงพนักงานว่า “เสิร์ฟผิดหรือเปล่า ?” จนทำให้ถึงบางอ้อว่าแท้จริงแล้ว นี้คือ เมนูเต้าหู้ที่ทำจากนม และครีมสด ราดซอสและวางหน้าด้วยไข่หอยเม่นสุดอลังการงานสร้าง เซอร์ไพรส์ของเมนูนี้อยู่ที่การผสมผสานรสชาติความลงตัว ระหว่างของหวานอย่างเต้าหู้ กับของคาวอย่างไข่หอยเม่นได้แบบพอเหมาะพอดี
เสิร์ฟคู่กับเมนู Steamed Abalone with Kimo Misoที่แอบสร้างความประหลาดใจเล็กน้อย เพราะปกติแล้วร้าน Umenohana จะไม่ค่อยนำเมนูหอยมาทำเป็นเมนูสักเท่าไหร่ แต่ทันทีที่ปากได้สัมผัสกับเนื้อหอยเป๋าฮือสด ที่ให้ความหวานอ่อนๆ ผสมกับน้ำราดที่ทำจากเครื่องในหอยเป๋าฮือมาปรุงรสพิเศษ ทำให้ได้รสชาติที่หวานปนขมนิดหน่อย ผนวกเข้ากับความหอมจางๆ จากสาหร่ายที่อยู่ด้านล่าง เด็ดขาดชนิดที่ทำให้ความคลางแคลงใจก่อนหน้านั้นหายไปจนหมด
ในระหว่างที่กำลังจะออกเมนูที่สาม พนักงานจะเอาตัวอย่างปูขนให้ดู พร้อมให้เราเลือกวิธีการกิน 3 แบบ คือ แบบเย็น แบบนึ่ง และแบบย่าง สามารถเลือกได้ตามใจชอบของแต่ละคน ซึ่งในครั้งนี้เราเลือกเป็นแบบย่างไป
หลังจากเลือกเสร็จ พนักงานก็เสิร์ฟเมนู Steamed Egg Custard Kani Sauce เมนูไข่ตุ๋นที่เนื้อเนียนมาก ถึงขั้นเนื้อไข่ไม่สากลิ้นเลยแม้แต่นิดเดียว ที่โรยหน้าด้วยเนื้อปูทาราบะ ของขึ้นชื่อของทางร้าน ทั้งยังเพิ่มกิมมิกด้วยโมจิลูกพอดีคำที่แอบไว้ใต้ไข่ตุ๋นอีกที คงความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างครบถ้วน
ต่อเนื่องกันด้วย Sashimiเสิร์ฟบนถ้วยน้ำแข็งที่ประดับดาด้วยแตงกวาญี่ปุ่น และเปลือกหอยสีขาว มีปลาดิบสองสี คือ อากัมมิ และคัมปาจิเกรดพรีเมี่ยม จำนวนสี่ชิ้น หั่นโดยเชฟมากประสบการณ์ ทำให้เห็นเนื้อมีขนาดที่เท่ากัน และไม่ช้ำแม้แต่นิดเดียว เนื้อปลาให้ความหวานเป็นเอกลักษณ์ ติดมันปลานิดๆ และไม่มีความคาวเลยแม้แต่นิดเดียว รู้สึกพิเศษอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
และก็มีถึงเมนูไฮไลท์ที่ทุกคนรอคอย นั้นก็คือ Kagani Sumibi Yaki ปูขนตัวโตที่ผ่านการต้ม แช่แข็ง และแกะเปลือกด้านล่างออกมาให้แล้ว วางบนชามน้ำแข็ง ก่อนนำมาย่างบนเตาถ่านสีน้ำตาลเข้ม ทันทีที่ย่างไปได้สักพักกลิ่นหอมของปูก็ลอยไปทั่วบริเวณ เนื้อปูมีความหวานอ่อนๆ จิ้มกับน้ำจิ้มรสเปรี้ยวปนหวาน เพิ่มมิติของรสชาติให้กับเนื้อปูขน
ทีเด็ดอีกอย่างของปูขนที่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้จัก คือ มันปูขน ซึ่งคนญี่ปุ่นชื่นชอบกันมา จนมีวิธีกินกันหลากหลาย แต่ทีเด็ดที่สุดคือ การเทสาเกลงไปคนในมันปูขนให้เข้ากัน อุ่นด้วยความร้อนสักพัก ให้ยกขึ้นซดทันที จะทำให้รู้สึกเฟรชขึ้นมาทันที แต่สำหรับคนที่กินแอกอฮอล์ไม่ได้ ก็สามารถเปลี่ยนเป็นโชยุแทน รับรองว่าเด็ดไม่แพ้กัน
หลังจากกินเมนูปูขนเสร็จแล้ว ก็ถึงคิวของ Kuroge Wagyu Yogan Yakiเนื้อวากิวเกรดพรีเมี่ยมจากเกาะคิวชู ที่มีใบรับรองจากญี่ปุ่นทุกตัว เสิร์ฟพร้อมหินลาวาร้อน และกาลิคบัตเตอร์ โดยวิธีการกินให้วางกาลิคบัตเตอร์ลงไปแผ่นหินก่อน หลังจากนั้นให้นำเนื้อวากิวลงไปบนแผ่นหิน ให้เนื้อวากิวสัมผัสกับแผ่นหินลาวาด้านละ 10 วินาที จะทำให้เนื้อเป็นแบบมีเดียมแรร์ กรอบนอก นุ่มใน เพียงแค่ตัวเนื้อวากิวเองก็มีความหวานละมุนอยู่แล้ว แต่พอจิ้มกับซอสเปรี้ยว ทำให้ความกลมกล่อมขึ้นมาอีก
ตามด้วย Kani Chirashi Sushiเมนูข้าวกล่องกับซุปปูขน ที่ภายในข้าวกล่องเต็มไปด้วยไข่ปลาปรุงรส ที่มีรสเปรี้ยวหวาน ขิงดองญี่ปุ่น และเนื้อปูชิ้นพอดีคำ ตักกินพร้อมน้ำซุปมิโซะปูขนรสเข้มข้นที่ทำสดใหม่ถ้วยต่อถ้วย อร่อยเข้ากันสุด ๆ
ปิดท้ายด้วยเมนูของหวานอย่าง Mineoka Fruitsพุดดิ้งเต้าหู้เนื้อเหนียวนุ่ม ที่ใช้มิโนกะโทฟูเช่นเดียวกับเมนูออเดิร์ฟ แต่มานำประยุกต์เป็นเมนูหวาน ด้วยการราดน้ำเชื่อม และวางชิ้นผลไม้หั่นเป็นลูกเต๋าอย่างแคนตาลูป และกีวี ช่วยเพิ่มรสชาติเปรี้ยว และหวานอีกด้วย
เซ็ทปูขนทั้งหมดนี้จะขายถึงเพียงเดือนพฤจิกายนนี้เท่านั้น ดังนั้นหากคุณต้องการสามารถกินปูขนก่อนใคร ต้องมาที่นี้เท่านั้น ส่วนโปรโมชั่นช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่จะเป็นอะไรนั้น ทางร้าน Umenohana แอบอุบไว้ก่อน ใครที่เป็นเจแปนนีสเลิฟเวอร์ต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด