สาว ๆ ที่ทำเล็บบ่อย ๆ อาจจะมีอาการเล็บเหลืองได้เป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ได้ร้ายแรงอะไร เพราะสามารถรักษาได้ แต่อาการเล็บเหลืองที่ Wongnai Beauty จะมาบอกถึงการรักษาในวันนี้คือ อาการเล็บเหลืองที่เกิดจากเชื้อรา ทำให้เล็บมีลักษณะเป็นแผ่นหนา และงอ ผิดปกติ หรืออาการเล็บเหลืองเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรงอย่างโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ และโรคอื่น ๆ ที่ต้องปรึกษาแพทย์ค่ะ
อาการเล็บเหลือง หรือ Yellow Nail Syndrome

อาการเริ่มแรก เล็บจะเป็นสีเหลือง หรือค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลือง และมีความหนาขึ้น นอกจากนี้ยังมีอาการหนังกำพร้าหลุด เล็บมีรูปร่างโค้ง งอ หยุดการเจริญเติบโต และเล็บค่อย ๆ หลุดออก เสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้นบริเวณเนื้อเยื่ออ่อนของเล็บ เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ยากกับคนที่มีสุขภาพแข็งแรง ส่วนใหญ่มักเกิดกับคนที่อายุมาก คนที่ขาดวิตามินอี และมีโรคร้ายแรง หากมีอาการเล็บเหลือง และมีอาการป่วยอื่น ๆ เช่นอาการขาบวม แขนบวมร่วมด้วยควรรีบไปพบแพทย์
ผู้ป่วยที่มักจะพบว่ามีภาวะเล็บเหลือง

- พบในผู้ป่วยที่มีภาวะต่อมน้ำเหลืองโต (Lymphedema)
- โรคถุงลมโป่งพอง
- โรคไซนัสอักเสบ
- ภาวะน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด
- ไทรอยด์เป็นพิษ
- โรคปอด
- โรคเบาหวาน
- โรคสะเก็ดเงิน
- มะเร็ง
- โรคระบบทางเดินหายใจ
- โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
เล็บเหลือง รักษาได้อย่างไร

- หากเล็บเหลืองจากโรคที่เป็น เช่น มะเร็ง โรคข้ออักเสบ หรือโรคเอดส์ อาการเล็บเหลืองจะหายไปหลังจากรักษาโรคนั้น ๆ แล้ว
- ใช้วิตามินอี สำหรับกินหรือทาเฉพาะที่
- การกินยาเพื่อรักษาอาการตามแพทย์สั่ง เช่น การกินยาต้านเชื้อรา การกินยาปฏิชีวนะ คอร์ติโคสเตียรอยด์
- การกินยาขับปัสสาวะ เพื่อกำจัดของเหลวส่วนเกิน
- หากภาวะเล็บเหลืองจากภาวะน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด รักษาด้วยการระบายของเหลวออกจากช่องเยื่อหุ้มปอด
- การนวดระบายน้ำเหลือง เพื่อเพิ่มการไหลเวียนและลดอาการบวม
วิธีการรักษาเล็บเหลืองที่เกิดจากเชื้อราหรือแบคทีเรีย
สาเหตุเล็บเหลืองที่เกิดจากการทำเล็บบ่อย ๆ เป็นเพราะเชื้อราหรือแบคทีเรียที่เล็บ เพราะว่าใส่รองเท้าที่ไม่ระบายอากาศ วิธีรักษาอย่างง่าย ๆ คือการพักการทำเล็บไปก่อน ซักรองเท้า หรือเปลี่ยนรองเท้าที่ระบายอากาศได้ดี และรักษาด้วยวิธีดังต่อไปนี้ค่ะ

สูตรที่ 1 รักษาเชื้อราด้วยน้ำส้มสายชู
อุปกรณ์
- น้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วย
- น้ำอุ่น 4 ถ้วย
วิธีทำ
- ผสมทั้งสองอย่างให้เข้ากันและแช่มือหรือแช่เท้าในน้ำ 30 นาที
- หลังจากแช่เสร็จแล้ว ให้ซับมือให้แห้ง
- ใช้เวลา 2 อาทิตย์ อาการก็จะดีขึ้นค่ะ
สูตรที่ 2 รักษาเชื้อราที่เล็บด้วยเบกกิ้งโซดา
อุปกรณ์
- น้ำอุ่น 4 ถ้วย
- Hydrogen Peroxide 3% จำนวน 1/4 ถ้วย
- เบกกิ้งโซดา 1/2 ถ้วย
- น้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วย
- เกลือ ½ ถ้วย
วิธีทำ
- ผสมทุกอย่างให้เข้ากันและแช่มือหรือแช่เท้าในน้ำ วันละ 10 นาที
- หลังจากแช่มือแล้วให้ล้างมือด้วยน้ำเปล่าแล้วเช็ดให้แห้ง
- ทำวันละ 2 ครั้ง ประมาณ 2 สัปดาห์
สูตรที่ 3 รักษาเชื้อราที่เล็บด้วย Tea Tree Oil
อุปกรณ์
- Tea Tree Oil
วิธีทำ
- ก่อนนอน ใช้ Tea Tree Oil ทาบนเล็บทุกวันให้ทั่ว ทำทุกวันจนกว่าเล็บจะดีขึ้น
สูตรที่ 4 รักษาเชื้อราที่เล็บด้วย Tea Tree Oil + น้ำมันมะพร้าว
อุปกรณ์
- Tea Tree Oil 1 หยด
- น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- ผสมน้ำมันเข้าด้วยกัน
- ใช้คอตตอนบัดส์จุ่มน้ำมันที่ผสมแล้ว ทาบริเวณเล็บ ทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วเช็ดออก
- ทำวันละ 3-4 ครั้งจนกว่าเล็บจะดีขึ้น
Reference :
Deborah Weatherspoon, Ph.D., R.N., CRNA. 2021. "Yellow nail syndrome" [Online] เข้าถึงได้จาก : https://www.healthline.com/health/nail-abnormalities-2#yellow-nail-syndrome สืบค้นเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2564
Jennifer Berry. 2017. "What is yellow nail syndrome?" [Online] เข้าถึงได้จาก : https://www.medicalnewstoday.com/articles/319054#symptoms สืบค้นเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2564
Natural Cures. 2016. "How to Get Rid of Toenail Fungus Fast and Naturally" [Online] เข้าถึงได้จาก : https://www.youtube.com/watch?v=UT0i9zvcGIU สืบค้นเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2564
ถึงแม้ว่าอาการเล็บเหลือง หรือ Yellow Nail Syndrome จะเป็นโรคที่ไม่ร้ายแรง สามารถรักษาให้หายได้ และไม่ใช่โรคติดต่อทางกรรมพันธุ์ แต่ก็ต้องหมั่นตรวจสอบและสังเกตเล็บของตัวเองบ่อย ๆ นะคะ เผื่อว่าถ้ามีโรคแทรกซ้อน จะได้รักษาได้ทันเวลา ส่วนใครที่เล็บเหลืองจากการเป็นเชื้อรา ก็ลองใช้วิธีรักษาด้วยตัวเองง่าย ๆ ได้เลย ขอให้เพื่อน ๆ สุขภาพดี แข็งแรงกันทุกคนเลยค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ