5 วิธีซ่อม “ระบบเผาผลาญพัง” อ้วนแค่ไหนก็ผอมได้
  1. 5 วิธีซ่อม “ระบบเผาผลาญพัง” อ้วนแค่ไหนก็ผอมได้

5 วิธีซ่อม “ระบบเผาผลาญพัง” อ้วนแค่ไหนก็ผอมได้

เคยสงสัยกันไหมคะ ว่าทำไมออกกำลังกายก็แล้ว ควบคุมอาหารก็แล้ว แต่ไขมันและน้ำหนักกลับไม่ลดลงเลย เผลอ ๆ เด้งขึ้นมาด้วยซ้ำ นั่นอาจเป็นเพราะระบบเผาผลาญพังนั่นเอง!!
writerProfile
3 ต.ค. 2019 · โดย

เชื่อว่าหลาย ๆ คนอาจจะกำลังท้อแท้กับการลดน้ำหนักและลดความอ้วนกันอยู่ เพราะไม่ว่าจะออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงหรือควบคุมอาหารอย่างเคร่งครัด เจ้าไขมันตัวร้ายและน้ำหนักกลับไม่ลดลงเลย เผลอ ๆ ขึ้นมาด้วยซ้ำ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้อาจเป็นเพราะ “ระบบเผาผลาญพัง” นั่นเองค่ะ แต่เอาจริง ๆ ก็ไม่ถึงกับพังหรอก แต่แค่มันไม่ดีเท่านั้นเอง งั้นวันนี้เราไปดูกันค่ะว่าระบบเผาผลาญพังมันคืออะไร มีสาเหตุมาจากอะไร อาการเป็นยังไง และมีวิธีซ่อมเจ้าระบบเผาผลาญพังแบบไหนได้บ้าง พร้อมแล้วเลื่อนลงไปอ่านเลย 

ระบบเผาผลาญพังคืออะไร ? มาทำความรู้จักกัน !

ระบบเผาผลาญพังคืออะไร

ระบบเผาผลาญพัง คือ การที่ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญสารอาหารที่รับประทานเข้าไป มาใช้เป็นพลังงาน หรือ ATP ได้ ทำให้ยังมีสารอาหารตกค้างและไปสะสมเป็นไขมันตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งจุดสำคัญที่มักจะเกิดการสะสมของไขมันมีด้วยกัน 4 จุด ได้แก่

1. ช่องท้อง : การสะสมของไขมันบริเวณช่องท้องจะทำให้เกิดภาวะอ้วนลงพุง และถ้าหากมีไขมันสะสมมากเกินไป ไขมันจะไปเบียดอวัยวะภายในช่องท้อง ซึ่งอาจทำให้อวัยวะนั้นทำงานผิดปกติ และเกิดโรคร้ายตามมาได้

2. ใต้ผิวหนัง : สามารถพบการสะสมไขมันในส่วนนี้ได้มากตามบริเวณ หน้าท้อง เอว ก้น สะโพก ต้นแขน ต้นขา หรือที่รู้จักกันดีในนามเซลลูไลต์หรือผิวเปลือกส้มนั่นเอง 

3. กล้ามเนื้อ : การสะสมของไขมันบริเวณกล้ามเนื้อมักจะเจอในคนที่อ้วนมาก ๆ และมักเจอในคนที่เป็นโรคเบาหวาน

4. รอบอวัยวะภายใน : อย่างที่บอกไปค่ะ ว่าหากมีการสะสมของไขมันบริเวณช่องท้องมาก ๆ ไขมันก็มีโอกาสไปเบียดและไปพอกอวัยวะภายในได้ เช่น อาจจะเกิดไขมันพอกตับ 

สาเหตุ & ปัจจัยที่ทำให้ระบบเผาผลาญพัง

สาเหตุที่ทำให้ระบบเผาผลาญพัง
  • อายุมากขึ้น : เป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้วที่พออายุมากขึ้น ระบบต่าง ๆ ในร่างกายก็จะเริ่มแย่ลง ระบบเผาผลาญเองก็เช่นกัน มันจะแย่ลงตามอายุที่เพิ่มขึ้นนั่นเองค่ะ
  • ความเครียด : ความเครียดเป็นปัจจัยตัวร้าย ที่ไม่ว่ายังไงก็หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยจริง ๆ โดยความเครียดนั้นทำให้ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ ซึ่งจะส่งผลให้หลั่งไทรอยด์ฮอร์โมนออกมาได้น้อย และส่งผลให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ไม่ดี
  • ขาดไทรอยด์ฮอร์โมน : หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมขาดไทรอยด์ฮอร์โมนถึงทำให้ระบบเผาผลาญไม่ดี นั่นก็เพราะว่าไทรอยด์ฮอร์โมนนั้นเกี่ยวข้องกับกระบวนการเผาผลาญ ที่สามารถช่วยให้การเผาผลาญเพิ่มขึ้นได้ ถ้าขาดไปการเผาผลาญก็จะลดลงนั่นเอง
  • อดอาหาร : ใครที่พยายามอดอาหารหรือควบคุมอาหารแบบผิดวิธี ร่างกายมันจะคิดว่าเรากำลังขาดอาหาร ร่างกายเลยปรับตัวเองให้เข้าสู่สภาวะจำศีล โดยปรับการเผาผลาญให้น้อยลง เพื่อกักเก็บไขมันและพลังงานนั่นเอง 
  • สารเคมีและอาหารแย่ ๆ ที่ตกค้างในร่างกาย : พวกสารเคมีและอาหารแย่ ๆ ที่ตกค้างในร่างกาย เช่น ยาฆ่าแมลงจากผัก ผลไม้ มันจะไปรบกวนกระบวนการเผาผลาญของร่างกาย ทำให้การเผาผลาญน้อยลง

อาการของระบบเผาผลาญพังเป็นยังไง 

อาการของระบบเผาผลาญพัง

มาดู 5 วิธีซ่อม “ระบบเผาผลาญพัง” กันเลยย !!

สำหรับใครที่อยากรู้วิธีเพิ่มอัตราการเผาผลาญ หรือ ซ่อมระบบเผาผลาญพังนั้น ขอบอกว่าไม่ใช่เรื่องยากเลย เริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน การออกกำลังกายนิด ๆ หน่อย ๆ ระบบเผาผลาญก็อาจจะดีขึ้นโดยไม่รู้ตัว แถมสุขภาพดีขึ้นอีกต่างหาก ถ้าอยากรู้ว่ามีวิธีอะไรบ้าง ไปอ่านเลย

1. ออกกำลังกายแบบ Weight Training ควบคู่กับ Cardio

ซ่อมระบบเผาผลาญพังด้วยการออกกำลังกาย

สำหรับคนที่ระบบเผาผลาญพัง ควรเน้นการออกกำลังกายแบบ Weight Training เช่น ยกเวท โดยทำกระจายทุกส่วนเพื่อสร้างความแข็งแรงและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ เนื่องจากกล้ามเนื้อสามารถดึงน้ำตาลในกระแสเลือดมาเปลี่ยนเป็นพลังงาน หรือ ATP ได้ ทำให้น้ำตาลไม่ไปสะสมเป็นไขมันตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ดังนั้นยิ่งร่างกายมีกล้ามเนื้อมากเท่าไร การเผาผลาญก็จะยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งควรออกควบคู่กับ Cardio เช่น เดิน วิ่ง กระโดด เพื่อเร่งการเผาผลาญไขมันด้วย

Tips เพิ่มการเผาผลาญและสลายไขมัน

  • Weight Training : ควรใช้เวลา 2-4 วันต่อสัปดาห์ สลับเปลี่ยนท่าให้กล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายได้ออกเเรง  
  • Cardio : ใช้เวลาประมาณ 30-60 นาทีต่อวัน และทำ 3-5 วันต่อสัปดาห์ 

2. เน้นรับประทานโปรตีนเป็นหลักเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ

เน้นกินโปรตีนซ่อมระบบเผาผลาญ

คนที่ระบบเผาผลาญพัง แนะนำให้เน้นกินโปรตีนเพื่อที่จะได้เอาไปช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อค่ะ เพราะอย่างที่บอกไปว่ากล้ามเนื้อเป็นตัวช่วยเพิ่มการเผาผลาญได้ดี ฉะนั้นต้องกินโปรตีนเสริมกล้ามเนื้อกันหน่อย แต่อย่างไรก็ตามห้ามขาดพวก คาร์โบไฮเดรต (แป้งไม่ขัดขาว ข้าวโอ๊ต วีทเจิร์ม ข้าวกล้อง) เพื่อใช้เป็นพลังงานในการออกกำลังกาย, ไขมันดี (ไขมันจากถั่ว ปลาทะเล งาดำ) เพื่อให้ร่างกายนำไปใช้สังเคราะห์ฮอร์โมน และ ผัก ผลไม้ 

3. เพิ่มความเผ็ดร้อนให้อาหาร

กินอาหารรสเผ็ดร้อนซ่อมระบบเผาผลาญ

ใครชอบทานอาหารรสชาติเผ็ดร้อนแบบเรายกมือขึ้น ! เค้ามีงานวิจัยบอกว่า สารแคปไซซิน (Capsaicin) ในพริกชนิดต่าง ๆ เนี่ยสามารถเพิ่มอัตราการเผาผลาญของร่างกายได้เป็นอย่างดี ดังนั้นการทานอาหารรสเผ็ดร้อนบ้างก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีอยู่นะ แต่ไม่ใช่สักจะกินเผ็ด กินรสจัดทุกมื้อและทุกวันนะ เพราะแทนที่มันจะมีประโยชน์ต่อร่างกาย กลับให้โทษแทนได้นะเออ ฉะนั้นกินแบบพอดี ๆ จะดีที่สุด

Source : 1

4. ดื่มน้ำเยอะ ๆ

ดื่มน้ำเยอะ ๆ ซ่อมระบบเผาผลาญ

การดื่มน้ำถือเป็นอะไรที่ง่ายและเบสิกสุด ๆ แต่สำหรับใครที่ไม่ค่อยดื่มน้ำหรือดื่มน้ำน้อย ระวังจะอ้วนไม่รู้ตัวนะ เพราะมีงานวิจัยบอกว่า คนที่ดื่มน้ำมาก ๆ จะมีอัตราการเผาผลาญสารอาหารไปเป็นพลังงานได้มากกว่าคนที่ดื่มน้ำน้อย โดยการดื่มน้ำ 500 ml. นั้นสามารถเพิ่มอัตราการเผาผลาญได้ถึง 30% เลยทีเดียว รู้อย่างนี้แล้วก็หันมาดื่มให้มาก ๆ กันนะคะ

Tips ดื่มน้ำให้ครบ 8 แก้ว

  • หลังตื่นนอน 1 แก้ว 
  • ช่วงสาย 2 แก้ว 
  • ช่วงบ่ายหลังกินข้าว 2 แก้ว 
  • ตอนเย็นก่อนกินข้าว 2 แก้ว
  • ก่อนนอน 1 แก้ว 

Source : 1

5. ดื่มชา จิบกาแฟ ชิล ๆ บ้างก็ดีนะ 

ดื่มชา กาแฟซ่อมระบบเผาผลาญ

หลายคนมักจะคิดว่าการดื่มชาหรือกาแฟเป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อร่างกาย แต่มีงานวิจัยบอกมานะคะว่า สารคาเทชิน (Catechin) ในชาเขียวและคาเฟอีน (Caffeine) ในกาแฟ สามารถช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญสารอาหารได้ แต่ชาเขียวและกาแฟที่ว่านี้ ไม่ใช่ชาเขียวหรือกาแฟใส่นม ใส่น้ำตาลที่เรา ๆ ชอบกินกันนะ อันนั้นจะยิ่งทำให้ระบบเผาผลาญแย่และไขมันสะสมเพิ่มเข้าไปอีก ดังนั้นต้องเป็นชาเขียวแบบชาเขียวจริง ๆ และกาแฟก็ควรจะเป็นกาแฟดำนะคะ

Source : 1, 2

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับ 5 วิธีซ่อมระบบเผาผลาญพัง ที่ Wongnai Beauty ได้แนะนำไป ทำตามได้ง่ายมาก ๆ เลยใช่มั้ยล่ะคะ เราเชื่อว่าถ้าทุกคนตั้งใจและทำตามอย่างเคร่งครัด สม่ำเสมอ ระบบเผาผลาญต้องกลับมาดี หุ่นต้องกลับมาฟิตและเฟิร์มแน่นอนค่าา และสำหรับใครที่อ่านจนจบและได้ลองทำตามทั้ง  5 วิธีแล้ว อย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะว่าผลลัพธ์เป็นยังไงบ้าง 

 บทความแนะนำ