นวดสปาสไตล์เกาหลีก็คือการนวดอโรมาออยล์แบบลงน้ำหนักมือมากกว่าปกติ เพราะปกติการนวดน้ำมันโดยทั่วไปจะเป็นการนวดเบาๆ ช้าๆ ใช่ไหมคะ แต่การนวดสไตล์เกาหลีคือเน้นเร็ว และแรง สำหรับคนไทยอย่างเราอาจจะดูแปลกใหม่ และไม่ชินกับการนวดลักษณะนี้เท่าใดนัก เพราะเหมือนการผสมเอาการนวดแผนไทยมาใช้ในการนวดน้ำมันด้วย แต่บอกเลยว่าถ้าได้ลองแล้วจะติดใจ!!!

Su Esthetic Home Spa สปาที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยสุขุมวิท 26 ซึ่งเปิดให้บริการสปาเกาหลีเต็มรูปแบบ เป็นบ้าน 2 ชั้นตกแต่งในสไตล์เรียบง่าย แต่ให้ความรู้สึกสบาย ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ ซึ่งเดินทางมาไม่ยากเลยค่ะ ถ้าเข้ามาจากปากซอยสุขุมวิท 26 ตรงเข้ามาประมาณ 500 เมตร จะเห็นซอยทางซ้ายมือชื่อว่าซอยท่านผู้หญิงพวงรัตน์ประไพ เลี้ยวเข้ามาและตรงมาเรื่อยๆ ก็จะเห็นรั้วสีอิฐแดง และป้ายสปาตัวใหญ่ รับรองว่าไม่หลงแน่นอน


เมื่อเดินเข้าไปภายในรั้วก็จะพบประตูไม้บานใหญ่ ซึ่งเมื่อเปิดเข้าไปก็สัมผัสได้ถึงความผ่อนคลาย ภายในตกแต่งอย่างหรูหรา ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่นานพนักงานของสปาก็จะนำรองเท้าสลิปเปอร์มาให้เราเปลี่ยน และนำน้ำชาตะไคร้ใบเตยหอมๆ มาให้เราดื่ม จากนั้นก็จะพาเราขึ้นไปยังห้องนวดซึ่งอยู่บนชั้น 2 ค่ะ


สำหรับสปาที่เราเลือกทำในวันนี้ คือ Signature Face & Body Massage (1 ชั่วโมงครึ่ง) จากราคาเต็ม 1,800 บาท ลด 50% เหลือเพียง 900 บาทเท่านั้น! แม่เจ้า...คุ้มสุดๆ เพราะเขามีทั้งนวดตัว ทั้งบริเวณหลัง ไหล่ แขน ขา นวดกระชับทรวงอก และนวดสลายไขมันหน้าท้อง ด้วยอโรมาออยล์ในสไตล์เกาหลี รวมถึงการทำหน้าซึ่งมีทั้งการคลีนซิ่งหน้า ดูดสิวเสี้ยนด้วยเครื่อง มาร์คหน้าด้วยวิตามินซีและคอลลาเจนถึง 2 รอบ เพื่อความกระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอย และนวดยกกระชับหน้า เอาสิ๊...ทำเสร็จไม่สวยให้มันรู้ไป!!!


เริ่มจากการเปลี่ยนชุดไปนุ่งผ้าถุงตัวจิ๋ว ที่ทางสปาได้เตรียมไว้ให้ แล้วก็ค่อยๆ นอนลงบนเตียงนวดโดยเริ่มจากการคลีนซิ่งหน้าก่อน แล้วจึงนอนคว่ำหน้าลงเพื่อนวดตัว ระหว่างทำขอบอกว่าผ่อนคลายมากค่ะ ตอนนวดตัวเทอราพิสท์ได้ผสมผสานการนวดไทยกับเกาหลีเข้าด้วยกัน สบายสุดๆ ถ้านวดตรงไหนแรงไปแล้วรู้สึกเจ็บ ก็สามารถบอกให้เทอราพิสท์เบามือลงได้


ส่วนขั้นตอนการทำหน้า เริ่มจากการมาร์ควิตามินซี ตามด้วยการดูดสิวเสี้ยน มาร์คคอลลาเจน 2 ครั้ง ระหว่างการมาร์คก็ใช้เครื่องมือทำความสะอาดหน้าเราอย่างล้ำลึก และยกกระชับใบหน้าไปพร้อมๆ กัน ซึ่งในการมาร์คครั้งสุดท้าย จะเป็นการมาร์คหน้าแบบแข็ง พอทิ้งไว้มาร์คก็จะแข็งตัวแกะออกมาเป็นหน้ากาก เหมือนกำลังทำพิมพ์หน้าเราเลย ตอนระหว่างมาร์คอยู่รู้สึกเลยว่าหน้าตึงมาก พอแกะมาร์คออกรู้สึกเลยว่าหน้านุ่มเด้งสุดอะไรสุด ขั้นตอนสุดท้ายก็เป็นการทาครีมกันแดดเป็นอันเสร็จ


ซึ่งความรู้สึกตอนทำเสร็จสบายตัวอย่างบอกไม่ถูก ตัวก็ไม่เหนียวเหนอะหนะออยล์ด้วยค่ะ เพราะระหว่างนวดเขาก็จะเอาผ้าขนหนูอุ่นๆ มาซับบริเวณที่นวดเสร็จแล้วเบาๆ เพื่อให้ออยล์ซึมเข้าไปในผิว เมื่อจัดแจงแต่งกายเรียบร้อยลงมาข้างล่าง ทางสปาก็เสิร์ฟเราด้วยน้ำชาตะไคร้ใบเตยหอมให้ดื่มอีกครั้ง เพื่อเป็นการตบท้าย


จากนั้นเราจึงได้มีโอกาสมานั่งพูดคุยกับคุณโมนิค (Monique) เจ้าของสปาซึ่งเป็นชาวฮ่องกง สามารถสื่อสารภาษาไทยได้นิดหน่อย ได้เล่าให้เราฟังว่า จริงๆ Su Esthetic Home Spa เปิดมาทั้งหมด 8 ปีแล้ว โดยชาวเกาหลีท่านหนึ่ง แต่คุณโมนิคเพิ่งจะมาเทคโอเวอร์ได้ 4 ปี เนื่องจากฐานลูกค้าส่วนมากจะเป็นคนเกาหลี ญี่ปุ่น และชาวต่างชาติบริเวณใกล้เคียง และลูกค้าต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไปนวดที่อื่นก็ไม่เหมือนที่นี่ จึงยังคงการนวดสปาในสไตล์เกาหลีเอาไว้ และเพิ่มการทำทรีทเม้นท์หน้าขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าหลัก



จุดเด่นของ Su Esthetic Home Spa นอกจากจะอยู่ที่สไตล์การนวดแบบเกาหลีที่ไม่เหมือนใครแล้ว ยังอยู่ที่ความยืดหยุ่นในการบริการสปา กล่าวคือ ลูกค้าสามารถเลือกผสมได้ว่าอยากนวดทรีทเม้นท์ตัวไหน หรือไม่อยากได้แบบไหนได้ตามความต้องการ ซึ่งต่างจากที่อื่นที่จะกำหนดคอร์สมาตายตัว อาจจะเลือกได้เพียงกลิ่นอโรมาที่อยากได้ สงสัยล่ะสิว่าเป็นยังไง บอกเลยว่าต้องไปลองเองค่ะ แถมตอนนี้ทางสปามีโปรโมชั่นลด 50% ทุกรายการ (คาดว่าน่าจะไม่มีกำหนด) บอกเลยว่าคุ้มมากนะเธอ…
แต่อย่าลืมโทรเข้าไปจองคิวก่อนนะจ๊ะ...