สาว ๆ ที่รักการทำเล็บเคยสังเกตเล็บของตัวเองกันหรือเปล่าว่าหลังจากทำเล็บมาแล้วสุขภาพหน้าเล็บของตัวเองเป็นยังไงบ้าง ถ้ายังไม่เคยเช็ค หลังจากนี้มาเช็คกันเถอะค่ะ เวลาไปทำเล็บ หน้าเล็บที่ถูกตะไบออกจะพังไปตอนที่เอาเล็บต่อหรือสีเจลออก สาว ๆ จะเห็นว่า หน้าเล็บเราจะมีความขรุขระเป็นผลจากการต่อเล็บหรือทาสีเจล วันนี้ Wongnai Beauty มีทริคสำหรับการบำรุงเล็บแบบง่าย ๆ มาฝากสาว ๆ ที่รักการทำเล็บกันค่ะ
3 วิธีเช็คว่าหน้าเล็บพัง
- เล็บฉีกง่าย ปัญหาแรกที่สาวกสาวทำเล็บต่อทาเล็บเจลควรเช็คคือ เล็บฉีกขาดหรือเจอรอยเหมือนรอยแตกบนเล็บ ถ้าสาว ๆ เจอสิ่งนี้เป็นอย่างแรกควรหยุดพักทำเล็บแล้วดูแลเล็บด้วยการตัดหรือตะไบเล็บที่พังนั้นออกไปก่อนค่ะ
- เล็บหักงอ ปัญหาต่อมาคือเล็บหักงอ สาว ๆ ที่ชอบไว้เล็บเคยลองทดสอบจิกเล็บของตัวเองกันหรือเปล่าคะ ? ถ้ายังไม่เคยลองก็ลองซะเลย ถ้าเล็บยุบง่ายล่ะก็ควรพักทำเล็บก่อน รอเล็บแข็งแรงแล้วค่อยไปทำใหม่อีกครั้ง
- หน้าเหลี่ยมเล็บหายไป หน้าเหลี่ยมเล็บบ่งบอกถึงความสมบรูณ์ของสุขภาพเล็บถ้ามีหน้าเหลี่ยมเยอะแปลว่าสุขภาพเล็บดีนะคะ ทีนี้สาว ๆ ลองเช็คหน้าเหลี่ยมเล็บดูนะคะว่าบางลงไปมากน้อยแค่ไหน ถ้าบางมากก็หยุดพักทำเล็บก่อนรอหน้าเหลี่ยมเล็บกลับมาค่อยไปทำเล็บใหม่ดีกว่านะคะ
สรุปแล้วไม่ว่าจะเช็คแล้วเจออาการแบบไหนหรือจะไม่เจอก็ตาม สาว ๆ ควรหยุดพักการทำเล็บบ้างอย่างน้อย 3 - 4 เดือนก็ยังดีเพื่อฟื้นฟูสุขภาพเล็บให้กลับมาสวยและแข็งแรงเหมือนเดิมนะคะ
วิธีการบำรุงเล็บให้กลับมาสุขภาพดี
1. บำรุงเล็บด้วยน้ำมันมะกอก
น้ำมันมะกอกมีวิตามินอีเป็นตัวช่วยในการฟื้นฟูบำรุงหน้าเล็บและช่วยปรับพื้นผิวบนเล็บให้มีความชุ่มชื้น ดังนั้นหากเราใช้น้ำมันมะกอกในการแช่เล็บเป็นประจำจะช่วยให้หน้าเล็บของเราแข็งแรงเร็วขึ้นค่ะ
วิธีทำ : เตรียมน้ำอุ่นในปริมาณพอเหมาะ เทน้ำมันมะกอกลงไป 1 ช้อนโต๊ะ จากนั้นแช่มือทิ้งไว้ 5-10 นาที ทำแบบนี้ทุกวันหรือทุก 2-3 วัน เพื่อให้เล็บของคุณแข็งแรงดังเดิม
2. บำรุงเล็บด้วยมะนาว
วิตามินเอและวิตามินซีจากมะนาวจะช่วยสร้างความนุ่มนวลให้กับเล็บของสาว ๆ อีกทั้งยังช่วยลดอาการอักเสบและยังแก้ปัญหาเล็บดำให้กับสาว ๆ ได้อีกด้วย
วิธีทำ : นำน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำมันมะกอก 3 ช้อนโต๊ะ ทำให้ส่วนผสมอุ่นเล็กน้อยและแช่เล็บทุกวัน วันละ 10 นาที สำหรับเล็บที่เปราะบางให้แยกออกมานวดเล็บนั้นเบา ๆ ด้วยน้ำมะนาวสดเป็นเวลา 5 นาที หลังจากนั้นล้างเล็บออกด้วยน้ำอุ่น ทิ้งไว้ให้แห้งและทาเล็บต่อด้วยน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันมะพร้าว
3. รับประทานอาหารที่มีไบโอติน
สาว ๆ ที่มีเล็บบอบบางแนะนำให้กินอาหารที่มีไบโอตินไปช่วยให้เล็บมีความแข็งแรง อาหารที่มีไบโอตินจำพวก ปลาแซลมอน แครอท มะเขือเทศ แตงกวา กะหล่ำ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ถั่วอัลมอนด์ ถั่วลิสง เมล็ดทานตะวัน กล้วย และถั่วเหลือง หากรู้ตัวว่าทำเล็บบ่อย ๆ ก็อย่าลืมกินของที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเล็บด้วยนะคะ
4. ทาครีมบำรุงเล็บเป็นประจำ
ถ้ามีเวลาว่างสักนิดอย่าลืมทาครีมบำรุงมือและเล็บเป็นประจำกันด้วยนะคะสาว ๆ การทาครีมบำรุงอย่างเป็นประจำจะช่วยให้เล็บของเรามีความชุ่มชื้นและสุขภาพดีอยู่เสมอค่ะ