7 จุดสุดฮิต ลดได้ง่าย ๆ ด้วย 'เมโสแฟต'
  1. 7 จุดสุดฮิต ลดได้ง่าย ๆ ด้วย 'เมโสแฟต'

7 จุดสุดฮิต ลดได้ง่าย ๆ ด้วย 'เมโสแฟต'

แก้ม พุง ต้นขา ต้นแขน จุดยุทธศาสตร์เหล่านั้นคือแหล่งรวมตัวชั้นดีของเหล่าไขมัน… ซึ่งต่อจากนี้ไปจะต้องไร้ที่อยู่ด้วยการฉีดเมโสแฟต สลายไขมันเฉพาะจุด !!!
writerProfile
29 มี.ค. 2018 · โดย

Meso Fat (เมโสแฟต) คือ เทคนิคการผลักวิตามินเข้าสู่ชั้นไขมัน เพื่อประโยชน์ในการลดกระชับสัดส่วนให้ได้รูปตามต้องการ เป็นวิธีการลดไขมันและลดเซลลูไลต์เฉพาะที่ แบบไม่ใช้วิธีการผ่าตัด โดยการฉีดสารหลัก ๆ คือ Phosphatidylcholine (สกัดจากถั่วเหลืองหรือไข่แดง) และวิตามินหลายชนิดเข้าไปยังบริเวณที่มีการสะสมของไขมัน 

เมโสแฟต เป็นวิธีที่ถือว่ามีความปลอดภัยมาก เพราะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ สลายออกจากร่างกายได้ดี ดังนั้นจึงหมดห่วงเรื่องของอาการแพ้ ด้วยการที่แพทย์จะใช้เข็มฉีดยา ฉีดส่งยา ซึ่งมีสรรพคุณสลายไขมันที่สะสมในชั้นไขมัน และทำให้เกิดการขัดขวางการสะสมของไขมัน ยังช่วยการกระตุ้นให้ไขมันสะสมถูกปล่อยออกมา เพิ่มการไหลเวียนของเลือด และระบบต่อมน้ำเหลือง จึงทำให้เนื้อเยื่อโดยรอบแข็งแรงขึ้น กระชับขึ้น

นอกจากนั้น ยังไม่ต้องกังวลว่าไขมันที่โดนสลายจะไหลไป ตามบริเวณข้างเคียง หรือทำให้ผิวหนังแข็งเป็นก้อน เนื่องจากไขมันจะแตกตัวจนสลาย ออกเป็นไขมันเหลว แล้วถูกขับออกทางปัสสาวะ (ส่วนมาก) และทางอุจจาระ

เพราะปัญหาไขมันส่วนเกินจัดเป็นปัญหาด้านความงามของคนวัยตั้งแต่ 20 ปีเป็นต้นไป เพราะการสะสมของไขมันในจุดที่ไม่พึงประสงค์ เช่น แก้ม คาง ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง เอว สะโพก ย่อมทำให้ขาดความมั่นใจ ในการที่จะโชว์สรีระต่อหน้าคนอื่น ๆ

เมโสแฟต
เมโสแฟต

ในปัจจุบันนี้ ได้มีการพัฒนาตัวยาฉีดสลายไขมัน สำหรับทำเมโสแฟตให้สะดวก และทันสมัยยิ่งขึ้น ได้ผลมากขึ้น เร็วขึ้น และผลข้างเคียง เรื่อง การฟกช้ำหลังฉีดน้อยลง ใช้เวลาในการทำน้อยลง เพียง 2 อาทิตย์ต่อครั้ง ทำให้การทำ Carboxytherapy อาจจะเป็นทางเลือกหลัง ๆ เพราะเจ็บกว่า ใช้เวลาทำนานกว่า และต้องทำบ่อยกว่าคือ อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง

ตำแหน่งที่นิยมทำการสลายไขมันด้วยวิธีเมโสแฟต ได้แก่

1.ลดไขมันที่แก้มให้หน้าเรียวเล็ก
2.ลดไขมันที่คาง (เหนียง)
3.ลดไขมันที่ต้นขา ต้นแขน
4.ลดไขมันที่พุง หน้าท้อง
5.ลดไขมันที่จมูก (บาน) ทำให้เล็กลง
6.ลดไขมันที่หนังตาบนหย่อนคล้อย
7.ลดไขมันที่น่อง

เมโสแฟต
เมโสแฟต

ข้อห้ามในการทำเมโสแฟต

1.อายุน้อยกว่า 18 ปี
2.สตรีมีครรภ์ หรือภาวะให้นมบุตร
3.คนไข้โรคเบาหวานที่ต้องฉีดอินซูลินเป็นประจำ
4.คนไข้ที่มีประวัติโรคระบบหลอดเลือดผิดปกติในสมอง เช่น เส้นเลือดสมองตีบ หรืออุดตัน
5.คนไข้ที่มีประวัติโรคหัวใจ และทำการรักษาด้วยยาหลายขนาน
6.คนไข้ที่มีโรคติดเชื้อ หรือคนไข้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง

ขั้นตอนการฉีดยาสลายไขมันเมโสแฟต

แพทย์ผสมยาและการฉีดน้ำยาสลายไขมันในปริมาณสารที่ฉีด 0.2-0.5 ซีซี ฉีดลึกไปประมาณ 5-10 มม. ในบริเวณที่ต้องการลดไขมันในแต่ละจุด โดยแต่ละจุดห่างกันประมาณอย่างน้อย 2 ซม. และมีการฉีดซ้ำทุก ๆ 5-7 วัน

หลังจากฉีดสลายไขมันเข้าที่บริเวณผิวหนังแล้ว โดยธรรมชาติไขมันจะเริ่มหดตัว หรือเริ่มลดจำนวนเซลล์ไขมันลง ประมาณ 10-20% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และไขมันจะสลายตัวประมาณ 50-80% เมื่อทำครบคอร์ส ในบางรายอาจทำให้ขนาดแก้มในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก จะดูใหญ่กว่าที่ต้องการได้ เนื่องจากคนไข้บางรายมีการแตกตัวของไขมันได้ช้า แต่หลังจากนั้นเมื่อน้ำยาทำการสลายไขมันให้เริ่มแตกตัวได้ แก้มจะค่อย ๆ ยุบตัวเรื่อย ๆ จนกระทั่งได้แก้มที่พอดีตามต้องการ

อาการหลังฉีดยาสลายไขมันเมโสแฟต

หากมีความเป็นกังวลเรื่องแผล ก็ไม่ต้องกังวลเลย เพราะแผลจะมีขนาดเล็กมาก ตามรอยเข็มเล็ก ๆ ที่ฉีดเท่านั้น ส่วนบริเวณที่รับการฉีดสลายไขมัน อาจมีรอบเขียวช้ำบ้าง หากโดนเส้นเลือดฝอยเล็ก ๆ ซึ่งบริเวณที่ฉีดสลายไขมัน อาจมีอาการบวมน้ำยาเป็นเวลาประมาณ 2-4 ชั่วโมงเท่านั้น เมื่อหายบวมน้ำยาแล้ว จะไม่มีรอยเปลี่ยนแปลง ผิวหนังจะยุบเอง ไม่เป็นคลื่น หรือไม่เป็นรอยบุ๋มของผิวให้ต้องหงุดหงิดหัวใจ

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดเมโสแฟต

1. ควรดื่มน้ำวันละอย่างน้อย 2 ลิตร เพราะไขมันเหลวที่โดนสลายด้วยการฉีดสลายไขมันจะถูกขับออกทางปัสสาวะเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นการดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยขับไขมันส่วนเกินที่สลายให้ออกจากร่างกายได้มากขึ้น

2. ควรเดินออกกำลังกายเบา ๆ หลังทำ เช่น การเดินเร็ว โยคะ แอโรบิก อย่างน้อยวันละ 30-45 นาที อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อให้กล้ามเนื้อกระชับและรีดไขมันให้ออกจากร่างกายเร็วขึ้น ลดการสะสมของไขมันใหม่

เมโสแฟต
ออกกำลังกายเบา ๆ
เมโสแฟต
ควบคุมอาหาร

3. เปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร เพื่อควบคุมน้ำหนักและไขมันส่วนเกินไม่ให้กลับมาสะสมได้อีก เพราะการสลายไขมันด้วยการฉีดยาไร้ประโยชน์ ถ้าไม่ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร และมีวินัยในการควบคุมน้ำหนักให้มากขึ้น

4. ช่วงที่เว้นการฉีดยาสลายไขมัน แนะนำให้ทำ RF เพื่อช่วยรีดไขมันออกจากร่างกายเร็วขึ้น และทำให้กล้ามเนื้อกระชับได้มากขึ้น ลดการหย่อนคล้อยหลังฉีด นอกจากนี้อาจจะเสริมด้วยการฉีดสลายไขมันด้วยเครื่อง Slimming Machine และการอบสลายไขมันด้วยตู้อินฟาเรด

5. อาจจะพบอาการบวมซ้ำ หรืออาการเจ็บปวดบ้างเล็กน้อย ขณะที่ทำและหลังทำ 1-3 วัน ดังนั้นควรเลียงการ เข้าอบซาวน่า การนวด การดื่มแอลกอฮอล์ หรือการทำทรีตเมนต์ใด ๆ หลังทำประมาณ 1 อาทิตย์ เพื่อลดการฟกซ้ำให้น้อยลง

อ้างอิงข้อมูลจาก www.fewfat.com
cr. pics : Pinterest