ทุกวันนี้การศัลยกรรมเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับสาว ๆ ทุกคนที่อยากดูดี มีความมั่นใจ และเปิดโอกาสด้านต่าง ๆ ให้ตัวเองมากขึ้น และอย่างที่เค้าว่ากันว่าการ ทำจมูก เนี่ย เป็นการศัลยกรรมอีกอย่างนึงที่ช่วยให้หน้าเราดูเปลี่ยนไปได้เลย
วันนี้เราก็เลยจะมาทำความรู้จักและพูดคุยเรื่องการปรับรูปหน้าและการทำจมูกกับ คุณหมอกันน์ รัฐรุจน์ บารมีไชยภัสร์ Theerathorn Clinic กันค่ะ เผื่อสาว ๆ คนไหนกำลังมีแพลนอยากทำสวย จะได้ตัดสินใจเลือกคลินิกที่ถูกใจได้ง่ายขึ้นค่ะ


เริ่มจากการเดินทางมา Theerathorn Clinic ง่ายนิดเดียว แค่นั่ง MRT มาลงสถานีห้วยขวาง ออกทางออกที่ 4 เดินมานิดเดียวก็ถึงคลินิกแล้วค่ะ
สำหรับคนที่อยากทำศัลยกรรม เราก็ต้องคำนึงถึงความเชี่ยวชาญของคุณหมอเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนเป็นอันดับต้น ๆ ใช่ไหมล่ะคะ อย่างที่นี่จะมีคุณหมอกันน์แค่ท่านเดียว ทำให้มั่นใจได้ว่าถ้าเข้ามารับบริการก็จะได้ทำกับคุณหมอกันน์ทุกเคส ซึ่งนอกจากคุณหมอจะมีความชำนาญในการศัลยกรรมเฉพาะทางแล้ว ยังคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรกอีกด้วยค่ะ

Doctor Profile
ประวัติการศึกษา
อุดมศึกษา: ปริญญาตรี
- คณะแพทยศาสตร์ ศิริราช พยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล 2545
- เวชศาสตร์ฉุกเฉิน คณะแพทยศาสตร์ ศิริราช พยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล 2551
- เวชบำบัดความปวด คณะแพทยศาสตร์ ศิริราช พยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล 2555
- Diploma of Dermatology มหาวิทยาลัย แม่ฟ้าหลวง
- Aesthetic Surgery of Korea
ได้ยินมาว่าส่วนใหญ่คนไข้ที่นี่ฮิตมาทำกัน 2 อย่าง คือ ฉีดไขมันปรับรูปหน้า (ฉีดใต้ตา หน้าผาก ขมับ) และทำจมูก (ถ้าใครแวะเข้าไปจะเห็นเลยค่ะว่ามีรูปสาว ๆ ที่เคยมาใช้บริการที่นี่เพียบ!) วันนี้คุณหมอก็เลยจะมาให้ความรู้เรื่องการทำจมูกและการฉีดไขมันปรับรูปหน้าเล็กน้อยด้วยค่ะ
ทำจมูกแบบซิลิโคนธรรมดาสำเร็จรูปกับซิลิโคนแบบเหลาต่างกันยังไง?


ซิลิโคนสำเร็จรูปจะผิวเรียบกว่า ส่วนถ้าเป็นซิลิโคนแบบเหลาจะค่อนข้างใช้เวลา ประมาณ 1 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับรูปจมูกของแต่ละคน) เช่น ถ้าปลายจมูกบางอาจต้องใช้กระดูกอ่อนหู ที่จะช่วยทำให้ระยะระหว่างปลายจมูกห่างกัน เสี่ยงจมูกทะลุน้อยลง ซึ่งใช้เวลาทำประมาณ 2 ชั่วโมง (คุณหมอบอกว่าที่นี่ทำจมูกมาประมาณ 7 ปี ใช้เทคนิคนี้มาประมาณ 2 ปี คนที่มีปัญหาน้อยมากค่ะ)
หรือจะเป็นเทคนิคการใช้เนื้อก้นทำจมูกสำหรับเคสแก้และสำหรับคนที่ผิวบริเวณดั้งบาง ก็เป็นเทคนิคที่ทำไปแล้วคนไข้ไม่มีใครกลับมาแก้ เพราะทรงของจมูกแทบไม่เปลี่ยนเหมือนกันค่ะ
ฉีดไขมันปรับรูปหน้าต่างจากฉีดฟิลเลอร์ยังไง?


คุณหมอบอกว่าการฉีดไขมันต่างจากฟิลเลอร์ตรงที่บางคนหน้าขาดเนื้อไขมันปริมาณมาก ถ้าฉีดฟิลเลอร์จะแพงมาก (ประมาณ 100,000-300,000 บาท) เพราะฉะนั้นการฉีดไขมันเพื่อเพิ่มปริมาณมวลรวมหน้าน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า แถมไขมันยังมี Stem cells ที่ทำให้หน้าดูมีน้ำมีนวล ดูเด็กลงด้วยค่ะ


ที่สำคัญคือการฉีดฟิลเลอร์มากไป จะทำให้หน้าดูไม่เป็นธรรมชาติด้วย เช่น ถ้าฉีดบริเวณหน้าผากแล้วลองเอานิ้วจิ้มมันอาจบุ๋มลงไปแล้วเด้งกลับขึ้นมาค่ะ การฉีดไขมันดีตรงที่ฉีดได้ทั้งหน้า แต่ทำให้หน้าดูยกขึ้นเหมือนฟิลเลอร์ไม่ได้ ส่วนไขมันจะอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี ถ้าฉีดสองรอบอาจอยู่ได้ 3-5 ปีค่ะ
บรรยากาศภายในห้องให้บริการ


ส่วนใครที่ไม่ต้องปรับเยอะจะฉีดฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ ลดกราม ลิฟต์หน้าผากให้เป็นรูปไข่ก็ได้เหมือนกันค่ะ โดยที่นี่จะดูทีละจุด เช่น บางจุดปรับด้วยโบท็อกซ์ได้ ก็จะใช้โบท็อกซ์ บางจุดใช้ฟิลเลอร์ได้ก็ฟิลเลอร์ในปริมาณที่เหมาะสมค่ะ
บรรยกาศภายในคลินิกเพิ่มเติม




สำหรับสาว ๆ ที่สนใจสามารถเข้าไปปรึกษาและสอบถามรายละเอียดได้
Tel: 088-959-5924 (Hotline)
Line ID: @theerathornclinic
IG: @theerathornclinic
Website: www.theerathornclinic.com