Update: ปอดอักเสบโคโรนา COVID-19 ดูแลตัวเองยังไง เมื่อไวรัสครองโลก!!
  1. Update: ปอดอักเสบโคโรนา COVID-19 ดูแลตัวเองยังไง เมื่อไวรัสครองโลก!!

Update: ปอดอักเสบโคโรนา COVID-19 ดูแลตัวเองยังไง เมื่อไวรัสครองโลก!!

ในวันที่การระบาดหนักของไวรัสเกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลกแบบนี้ เรามาดูกันดีกว่าว่าเราจะรับมือและป้องกันดูแลตัวเองและครอบครัวยังไงให้ผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปได้!
writerProfile
22 มี.ค. 2020 · โดย

นาทีนี้ไม่มีอะไรน่าห่วงเท่ากับสถานการณ์โลกที่กำลังเผชิญกับเหตุการณ์ระบาดหนักครั้งใหญ่ของไวรัสโคโรนาที่มีผู้ติดเชื้อไปเกือบหนึ่งแสนคนแล้ว แถมยังไม่มีแนวโน้มว่าจะหยุดการแพร่ระบาดเลย วันนี้เรามาอัปเดตวิธีดูแลตัวเองยังไงกันใหม่ในยุคที่ ไวรัสปอดอักเสบโคโรนา "COVID-19" กำลังครองโลก!!

มาทำความรู้จัก "ไวรัสโคโรนา COVID-19” สายพันธุ์ใหม่กันสักนิด

ไวรัสโคโรนา คือ

สำหรับโรคปอดอักเสบที่กำลังระบาดอยู่ทั่วโลกตอนนี้ มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยการระบาดเกิดขึ้นในกลุ่มคนที่มีประวัติการเดินทางไปยังตลาดค้าสัตว์และอาหารทะเลที่มีชื่อว่า “South China Seafood Market” ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน เมื่อช่วงปลายปี 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนที่ทางการจีนจะออกมาระบุว่าไวรัสนี้มาจากสัตว์ชนิดใดกันแน่ ได้มีนักเทคนิคการแพทย์ของไทย "ดร.สุภาภรณ์ วัชรพฤษาดี" รองหัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ ได้ค้นพบว่า ไวรัสโคโรนาเกิดจากสัตว์ป่าอย่างค้างคาว และตั้งชื่อโดยองค์การอนามัยโลกว่า 2019-nCoV หรือ 2019 novel Coronavirus และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น "COVID-19" หรือชื่อเต็มว่า "Coronavirus Disease 2019" จนถึงปัจจุบัน

ลักษณะของ "ไวรัสโคโรนา” เป็นไวรัสกลุ่มใหญ่ที่พบได้ทั้งในคนและในสัตว์ มีรูปร่างทรงกลม มีก้านยื่นออกมารอบตัวเหมือนมงกุฎ และจากที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อเกิดขึ้น ทางการจีนจึงทำการถอดรหัสพันธุกรรมของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้ แล้วพบว่าหน้าตาของมันเหมือนกับไวรัสโคโรนาดั้งเดิม แต่รหัสพันธุกรรมกลับไม่เหมือนเดิม จึงตั้งชื่อว่าเป็นไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นั่นเอง 

เดิมมีไวรัสโคโรนาอยู่ 6 สายพันธุ์ย่อย ซึ่งในจำนวนนี้มี 2 สายพันธุ์ที่ก่อโรครุนแรง คือ โรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือโรคซาร์ส (SARS) และโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือโรคเมอร์ส (MERS) และสำหรับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นสายพันธุ์ที่ 7 แถมมีระดับความรุนแรงและน่ากลัวมากกว่า เห็นได้ชัดจากจำนวนผู้เสียชีวิตที่ SARS เคยคร่าชีวิตผู้คนไปถึง 700 คน แต่ COVID-19 มียอดผู้ติดเชื้อสูงถึง 80,000 กว่าคนและยอดยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกวัน!

ช็อกกว่าเดิม!!

ปัจจุบันมีรายงานและยืนยันเรื่องช็อก ๆ เกี่ยวกับไวรัสอันตรายอย่าง ไวรัสโคโรนา COVID-19 เพิ่มเติม ดังนี้...

ไวรัสโคโรนา covid 19

1. ยืนยันแล้วว่า COVID-19 ติดต่อได้แม้ไม่แสดงอาการ :  Dr.William Schaffner ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อจากศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัย Vanderbilt ที่กล่าวไว้ว่า “เป็นไปได้ที่เราจะติดเชื้อโคโรนาไวรัส และไม่ป่วย” และมีกรณีเกิดขึ้นแล้วเมื่อหญิงสาวชาวอู่ฮั่นไปเยี่ยมญาติที่เมืองอันหยาง และญาติของเธอที่อันหยางถูกตรวจพบเชื้อ COVID-19 และมีอาการป่วยทั้ง 5 คน ในขณะที่หญิงสาวก็ยังไม่แสดงอาการติดเชื้อใด ๆ จนมาพบทีหลังจากการตรวจครั้งต่อมา ซึ่งเวลาได้ล่วงเลยมาจนเกินระยะฟักตัวของเชื้อแล้ว เลยทำให้เคสนี้เป็นที่ยืนยันแล้วว่า COVID-19 สามารถแพร่เชื้อได้แม้ผู้ป่วยจะไม่แสดงอาการ

2. ทางการหูเป่ยยืนยัน ผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการป่วยนานถึง 27 วัน : หน่วยงานปกครองท้องถิ่นของมณฑลหูเป่ย ศูนย์กลางการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ หรือ COVID-19 ยืนยันในวันเสาร์ที่ 22 ก.พ. 2563 ว่า พวกเขาพบชายชราอายุ 70 ปีคนหนึ่ง ที่ติดเชื้อไวรัสมรณะนี้แต่กลับไม่แสดงอาการป่วยนานถึง 27 วัน จึงเกิดคำถามขึ้นเป็นวงกว้างว่า การกักตัวผู้ต้องสงสัยติดเชื้อตามทฤษฎีระยะฟักตัวของโรค (Incubation Period) แค่ 14 วันนั้น เพียงพอหรือไม่ ?

3. คนที่รักษาหายแล้วก็ยังสามารถแพร่เชื้อได้อยู่! : ในขณะเดียวกันเจ้าเจียนผิง ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจชาวจีนและหัวหน้าทีมแพทย์ที่ทำงานในพื้นที่มณฑลหูเป่ยของจีนเตือนว่า ผู้ป่วยบางรายที่ได้รับการรักษาจนหายดีแล้ว ก็ยังมีโอกาสที่จะแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้ เรื่องนี้ถือว่ายังเป็นเรื่องที่อันตรายเพราะผู้ป่วยที่รักษาหายดีแล้วจะไม่สามารถให้อยู่โรงพยาบาลต่อได้ เนื่องจากพื้นที่ไม่เพียงพอ ทำให้ไม่มีทางรู้เลยว่าผู้(หาย)ป่วยเหล่านี้จะไปอยู่ที่ไหน และพบเจอใครบ้าง!

4. ไทยพบผู้ป่วยเพิ่มอีก 5 ราย เป็นคนไทยทั้งหมด : ข่าวร้อนของประเทศเราก็คือ พบผู้ป่วยที่ปิดบังประวัติการเดินทางไปในประเทศที่ประกาศเสี่ยง ทำให้ตอนนี้ไทยมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็น 40 ราย แถมการที่ผู้ป่วยรายนี้ปกปิดประวัติการเดินทางยังทำให้บุคลากรทางการแพทย์เสี่ยงต่อการติดเชื้ออีก 30 คน!!

5. แพร่เชื้อแล้วกว่า 40 ประเทศทั่วโลก!! :และยังคงควบคุมไม่ได้ในหลายพื้นที่ ตอนนี้สถานการณ์ในไทยเองก็ยังน่าเป็นห่วง และเป็นหน้าที่ที่เราต้องช่วยกัน ไม่ให้ไทยเข้าสู่ Phase 3 ไม่อย่างนั้นทุกอย่างอาจสายเกินควบคุมโรคจากไวรัสตัวนี้ได้

อัปเดต! สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบโคโรนา

โรคระบาดไวรัสโคโรนา covid 19

อัปเดตวันที่ 1 มีนาคม 2563

ทั่วโลกติดเชื้อ  86,992 คน เสียชีวิต 2,979 คน (รักษาหายแล้ว 42,334 คน)

ประเทศจีนมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ยอดผู้ติดเชื้อ 79,826 คน เสียชีวิต 2,870 คน (รักษาหายแล้ว 41,825 คน)

ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 14 ยอดผู้ติดเชื้อ 42 คน เสียชีวิต 1 (รักษาหายแล้ว 28 คน)

ประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกต้องเจออะไรบ้าง ?

อย่างที่เรารู้กันว่าตอนนี้ ไวรัสโคโรนา COVID-19 กำลังขยับเข้าใกล้สู่ระดับการระบาดใหญ่ หรือ Pandemic และนี่คือสิ่งที่ประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกต้องพบเจอและร่วมต่อสู้ในศึกไวรัสระบาดหนักครั้งนี้!

โรคระบาดไวรัสโคโรนา covid 19
  • อิตาลีน่าห่วง สถานการณ์เลวร้ายสุดในยุโรป
  • เกาหลีใต้เจอติดเชื้อวันเดียวกว่า 60 คน รวมติดเชื้อเกือบ 1,000 คน (เสียชีวิตแล้ว 11 คน)
  • สำนักข่าวไอแอลเอ็นพี กึ่งทางการของอิหร่านรายงานว่ายอดผู้เสียชีวิตสูงถึง 50 รายแล้ว
  • (ตัวเลขที่เป็นทางการอยู่ที่ 12 ราย)
  • รัฐมนตรีช่วยสาธารณสุขของอิหร่านติดเชื้อ ไม่ยอมลางาน แต่กักตัวเองในบ้านพัก
  • ยืนยันพบผู้ป่วย 2 รายใหม่ที่ออสเตรีย
  • พบผู้ป่วยรายแรกที่สวิตเซอร์แลนด์แล้ว
  • WHO เตือนให้โลกเตรียมพร้อมรับมือกับภาวะการระบาดครั้งใหญ่ (Pandemic)

5 อาการเฝ้าระวังโรคปอดอักเสบไวรัสโคโรนา COVID-19

สำหรับอาการหลัก ๆ ที่บ่งชี้ว่าอาจเป็นโรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา คือ มีไข้ ไอมีเสมหะ เจ็บคอ มีน้ำมูก และหายใจหอบเหนื่อย

อาการโรคปอดอักเสบไวรัสโคโรนา

หากใครเพิ่งกลับจากประเทศ จีน ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ อิตาลีและอิหร่าน ภายใน 14 วัน และพบว่ามีอาการของโรคตาม 5 ข้อนี้ ควรรีบสวมหน้ากากอนามัยและไปพบแพทย์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที หรือโทรสายด่วน 1422 เพื่อเข้ารับการรักษา 

วิธีป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา COVID-19

ยังไงตอนนี้ก็ต้องขอให้ทุกคนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด งดเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ดังนี้

ล้างมือยังไง, โคโรนารักษาที่ไหน
  • ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์ ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น
  • สวมหน้ากากอนามัย และไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยไอจาม
  • รับประทานอาหารปรุงสุกร้อน
  • ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว แก้วน้ำ
  • คนที่เพิ่งกลับจากจีน ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ อิตาลีและอิหร่าน ขอความร่วมมือเฝ้าระวังอาการตนเองอย่างน้อย 14 วัน ถ้ามีอาการควรพบแพทย์ทันที พร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง

ขอบคุณข้อมูลวิธีป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนาจาก ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค

รักษาที่ไหนดี ?

  • รพ.จุฬาลงกรณ์
    โทร 0 2649 4000 ค่าบริการ 3,000-6,000 บาท

  • รพ.ราชวิถี
    โทร 0 2354 8108 ค่าบริการ 3,000-6,000 บาท

  • รพ.เปาโล ทุกสาขา
    โทร 0 2271 7000 ค่าบริการ 5,000-13,000 บาท

  • รพ.รามาธิบดี
    โทร 0 2201 1000 ค่าบริการ 5,000 บาท

  • รพ.บางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล
    โทร 0 2109 9111 ค่าบริการ 5,000 บาท

  • รพ.พญาไท 2
    โทร 0 2271 6700 ค่าบริการ 6,500 บาท

  • รพ.แพทย์ รังสิต
    โทร 0 2998 9999 ค่าบริการ 7,000 บาท

  • รพ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์
    โทร 0 2419 7000 ค่าบริการ 9,900 บาท

COVID-19 กระทบอะไรไปแล้วบ้าง ?

โลกเจอศึกหนักขนาดนี้ แค่ไวรัสโคโรนา COVID-19 เรื่องเดียวก็ได้ส่งผลกระทบกับทุก ๆ วงการไม่มากก็น้อย เลยขอสรุปย่อ ๆ ถึงธุรกิจที่ได้รับผลกระทบและเสียหายเป็นอันดับต้น ๆ มาให้ดูดังนี้ค่ะ 

ไวรัสโคโรนา covid 19
  • กระทบต่ออุตสาหกรรมและธุรกิจการท่องเที่ยว เช่น ไกด์ บริษัทนำเที่ยว บริษัททัวร์ รถทัวร์ รถเช่า เรือโดยสารท่องเที่ยว ร้านขายของฝาก ไปจนถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ
  • พนักงานสายการบินทั่วโลกตกงาน
  • ผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าเกษตร
  • อุตสาหกรรมยานยนต์-อิเล็กทรอนิกส์ที่ผลิตจากอู่ฮั่นหยุดชะงัก
  • กระทบกับธุรกิจที่พัก โรงแรม รีสอร์ต ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ ร้านนวด-สปา และร้านอาหาร 

นอกจาก COVID-19 ทั่วโลกกำลังเผชิญกับการระบาดครั้งใหญ่!

ไวรัสโคโรนา COVID-19 ไม่ใช่โรคระบาดร้ายแรงชนิดเดียวที่กำลังคุกคามชีวิตผู้คน แต่ตอนนี้ทั่วโลกกำลังต่อสู้กับโรคระบาดอีกหลายชนิด ซึ่งจะเรียกว่าเป็นยุคที่โวรัสครองโลกก็ไม่ผิดนัก!

โควิด

อีโบลา - ดีอาร์คองโก : ปัจจุบันอีโบลายังคงระบาดอยู่ในสาธารณรัฐคองโก โดยเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาองค์การอนามัยโลกพบผู้ติดเชื้อ 3,433 ราย และผู้เสียชีวิต 2,253 ราย อีโบลามีอัตราการเสียชีวิตร้อยละ 66

ไข้เลือดออก - บราซิล : ขณะนี้ไข้เลือดออกกำลังระบาดหนักในบราซิล โดยพบผู้ติดเชื้อกว่า 16,700 ราย และมีผู้เสียชีวิตกว่า 590 คน ไข้เลือดออกมีอัตราการเสียชีวิตร้อยละ 15-20

เมอร์ส - สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ : จนถึงปัจจุบัน องค์การอนามัยพบผู้ติดเชื้อทั่วตะวันออกกลางกว่า 2,506 คน และผู้เสียชีวิต 862 คน ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 2 รายในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไวรัสเมอร์สมีอัตราการเสียชีวิตร้อยละ 34

ไข้หวัดใหญ่ - สหรัฐอเมริกา : ปัจจุบันไข้หวัดใหญ่กำลังระบาดหนักในสหรัฐอเมริกา โดยตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2019 พบผู้ติดเชื้อกว่า 23,000,000 ราย และเสียชีวิตกว่า 25,000 ราย ไข้หวัดใหญ่มีอัตราการเสียชีวิตในผู้ใหญ่ร้อย 10 และร้อยละ 15 ในเด็ก

อหิวาตกโรค - โซมาเลีย : ตั้งแต่ปี 2017 จนถึงปัจจุบันอหิวาตกโรคกำลังระบาดหนักในโซมาเลีย โดยทางการพบผู้ติดเชื้อกว่า 10,113 ราย และมีผู้เสียชีวิต 51 ราย อหิวาตกโรคมีอัตราผู้เสียชีวิตร้อยละ 5

ขอบคุณข้อมูลเรื่องโรคระบาดทั่วโลกจาก Facebook Page รอบโลก by กรุณา บัวคำศรี

อยากจะขอเตือนเพื่อน ๆ อีกครั้งว่า ต้องดูแลสุขภาพร่างกายตัวเองให้ดี สวมหน้ากากอนามัย และหมั่นล้างมือให้สะอาด เพื่อเฝ้าระวัง และป้องกันตัวเองเบื้องต้นจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา COVID-19 และโรคไวรัสอื่น ๆ ที่กำลังระบาดหนักอยู่ทั่วโลกในตอนนี้!

บทความที่น่าสนใจอื่น ๆ