นอกจากหาเงินเก่งแล้ว เพื่อน ๆ ชาว Wongnai Beauty ก็ต้องลงทุนเป็นด้วยนะคะ แถมช่วงนี้ราคาทองคำก็พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 9 ปี ขึ้นแรงจนทะลุบาทละ 29,000 บาทไปแล้ว จนหลาย ๆ คนเทเงินลงทุนมายังตลาดทองคำอย่างรวดเร็ว และหากว่าเพื่อน ๆ สนใจอยากลงทุนทองคำดูบ้าง เรามีคำแนะนำมาฝากค่า
ทำไมต้องลงทุนทองคำ Now!

ทำไมต้องเป็นทองคำล่ะ ทุกวันนี้ตัวเลือกการลงทุนมีเยอะมาก ทั้งเงินฝากดอกเบี้ยสูง ฝากประจำ สลากออมสิน กองทุน หรือหุ้น แล้วทำไมต้องเป็นทองคำ คำตอบอยู่ด้านล่างนี้แล้วค่ะ
- ราคาทองคำพุ่งสูงสุดในรอบ 9 ปี ไม่ใช่แค่เพียงราคาทองคำในตลาดไทยเท่านั้นนะคะ ราคาขึ้นทั่วโลกเลย และยังมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ
- ราคาทองคำเดือนสิงหาคม 2563 เฉลี่ยสูงถึง 29,000 บาท
- พุ่งสูงขึ้นทุกครั้งที่เกิดวิกฤติโลก และปัจจุบันนี้โลกยังเผชิญหน้ากับปัญหา COVID-19 หรือไวรัสโคโรนาที่ยังไม่มียารักษาหรือป้องกันโดยตรง
- ผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อ ยิ่งเงินเฟ้อมากเท่าไร ราคาทองคำก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้นมากเท่านั้น ซึ่งถ้าจะอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ เงินเฟ้อคือ ราคาสินค้าแพงมากขึ้น ส่วนเงินก็มูลค่าน้อยลง จำนวนเงินเท่ากัน แต่ซื้อของได้น้อยกว่าเดิม
- เพิ่มความมั่นคงและลดความเสี่ยงไปพร้อม ๆ กัน เพราะทองคำลดความเสี่ยงจากค่าเงินบาท ตลาดหุ้นผันผวน หรือหากเกิดภาวะสงคราม เงินจะกลายเป็นเพียงเศษกระดาษ หุ้นจะกลายเป็นเพียงตัวเลข แต่ทองคำ ยังไงก็คือทองคำ ยังมีค่าเสมอ ใช้แลกสิ่งที่ต้องการได้
วิกฤติทั่วโลกแต่ราคาทองคำพุ่งขึ้นสูง!

ไวรัสโคโรนาหรือ COVID-19 คือเป็นโรคติดต่อร้ายแรง เพราะยังไม่มียารักษาและป้องกันได้โดยตรง มีแต่การรักษาตามอาการ นอกจากนี้เมื่อรับเชื้อแล้วจะยังไม่แสดงอาการใด ๆ ถึง 2 สัปดาห์ หรืออาจเป็นพาหะได้โดยไม่จำเป็นต้องมีอาการไข้ การติดต่อก็ง่ายมาก เหมือนกับไข้หวัดทั่วไป คือติดต่อผ่านทางละอองที่มีเชื้อ COVID-19 เพราะติดต่อง่ายขนาดนี้จึงทำให้ยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ทั่วโลกพุ่งสูงขึ้น และยังมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นวิกฤติระดับโลกอย่างรวดเร็ว
เมื่อเกิดวิกฤติขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสงครามหรือโรคระบาด ไม่ว่าจะสั้นหรือยาว ก็จะส่งผลให้เศรษฐกิจชะงัก ค่าเงินและตลาดหุ้นผันผวน นักลงทุนจึงต้องการนำเงินที่มีไปลงทุนในทรัพย์สินที่ปลอดภัย ซึ่งนั่นก็คือทองคำ ทรัพย์สินที่มีความมั่นคงและมีค่ามากที่สุด เมื่อมีคนต้องการซื้อมาก ราคาทองคำก็จะพุ่งสูงขึ้นตามต้องการ ตามหลักอุปสงค์อุปทาน
ลงทุนทองคำมีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง?

ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนแบบไหนก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เพื่อน ๆ ควรพิจารณาด้วยความถี่ถ้วนก่อนจะลงเงินที่หามาด้วยความเหนื่อยยากลงไป แน่นอน...การลงทุนทองคำก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียเช่นกัน
ข้อดี
- มีสภาพคล่องสูง ซื้อง่าย ขายไว เปลี่ยนเป็นเงินสดได้ง่าย
- เป็นที่ยอมรับทั่วโลก
- ใช้เป็นหลักประกันการกู้ยืมได้
- ทยอยซื้อได้ หากลงทุนโปรแกรมออมทองคำหรือกองทุนทองคำ
ข้อเสีย
- ความผันผวนค่อนข้างสูง เสี่ยงสูง
- เสี่ยงต่อการถูกโจรกรรม หากสะสมเป็นทองคำแท่ง
ราคาทองคำย้อนหลัง

หลังจากมีผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่เมืองอู่ฮัน ประเทศจีนเมื่อต้นเดือนมกราคม ปี 2563 และเริ่มแพร่กระจายไปทั่วเอเชียและทั่วโลกจนกลายเป็นวิกฤติอย่างรุนแรง ราคาทองคำก็พุ่งขึ้นสูงอย่างเห็นได้ชัดในเวลาสั้น ๆ แถมยังพุ่งสูงสุดในรอบ 9 ปีอีกด้วย โดยราคาเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนสิงหาคมพุ่งแรงจนฉุดไม่อยู่
- มกราคม = 22,344.44 บาท
- สิงหาคม = 29,000 บาท
นอกจากนี้ราคาทองคำที่สูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ไหนประเทศไทยเท่านั้น เพราะราคาทองคำในตลาดโลกก็พุ่งสูงขึ้นด้วยเช่นกัน สูงถึง 1,969 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์เลยทีเดียว!
อยากลงทุนทองคำ ต้องทำยังไง?

- ทำความเข้าใจเสียก่อน
เพื่อน ๆ ต้องหาข้อมูลเรื่องการลงทุนทองคำให้ดีก่อนนะคะ อย่าใจร้อนทุ่มเงินลงไปทั้งที่ยังไม่ได้ทำความเข้าใจกลไกตลาด ประเภทของการลงทุนโดยเด็ดขาด มันเสี่ยงเกินไปค่ะ - ประเมินตัวเอง
การลงทุนในทองคำมีความเสี่ยงสูงมาก เกือบจะเป็นการลงทุนที่เสี่ยงที่สุดก็เป็นได้ เมื่อเสี่ยงมาก ผลตอบแทนก็มีโอกาสสูงมากกว่าการลงทุนประเภทอื่นด้วยเช่นกัน ดังนั้นลองถามตัวเองก่อนว่ายอมรับความเสี่ยงหากราคาทองคำตกลงอย่างรุนแรงในเวลาสั้น ๆ และยังสามารถถือทองเก็บเอาไว้ได้นานมากน้อยแค่ไหน - เลือกวิธีการลงทุนทองคำที่เหมาะสม
การลงทุนทองคำมี 3 ประเภทด้วยกัน คือ ทองคำแท่ง โปรแกรมออมทอง และกองทุนทองคำ ซึ่งจะอธิบายต่อในหัวข้อถัดไป - ทุนระยะสั้นหรือยาว?
เพื่อน ๆ สามารถลงทุนทองคำแบบเก็งกำไรระยะสั้นได้ รีบซื้อรีบขาย หรือหากต้องการลงทุนระยะยาวคือซื้อแล้วเก็บไว้ก่อน ไม่รีบใช้เงิน เมื่อได้ราคาที่ต้องการแล้วจึงค่อยขายก็ได้เช่นกัน - ขายตอนไหนดี?
ราคาทองคำมีขึ้นลงทุกวันขึ้นอยู่กับสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจในประเทศและโลก แต่สำหรับประเทศไทย หากว่าไม่มีวิกฤติเกิดขึ้น ช่วงเวลาที่ราคาทองสูงมาก ๆ มักเป็นช่วงตรุษจีน ปีใหม่ และสงกรานต์ ซึ่งเป็นช่วงที่คนต้องการซื้อทองเป็นของขวัญให้แก่กัน เมื่อความต้องการสูง ราคาก็สูงตาม จึงเป็นช่วงจังหวะที่ควรขายเพื่อทำกำไรมากที่สุด
ลงทุนทองคำแบบไหนได้บ้าง?

การลงทุนทองคำมีให้เลือก 3 แบบด้วยกัน คือ ทองคำแท่ง โปรแกรมออมทองคำ และกองทุนรวมทองคำ ซึ่งแต่ละประเภทมีรายละเอียดดังนี้
ทองคำแท่ง
- ไม่ยุ่งยาก ไม่ซับซ้อน ซื้อมาขายไป จบ!
- ไม่เสียค่ากำเน็จเหมือนทองรูปพรรณ ไม่มีค่าเสื่อมราคาเมื่อนำมาขายคืน
- ทองคำแท่งมีหลายขนาดให้เลือก เช่น 5, 10, 20, 50 บาท เลือกตามกำลังทรัพย์ที่เพื่อน ๆ มีได้เลยค่ะ
- หากไม่ต้องการเก็บทองคำแท่งไว้กับตัว ก็มีทางเลือกอื่น ๆ เช่น ถือสัญญาถือครองหรือตั๋วทอง หรือฝากทองคำแท่งไว้กับร้านทองที่ไว้ใจได้
โปรแกรมออมทอง
- ซื้อทองเก็บทีละน้อย ขั้นต่ำเดือนละ 1,000-1,500 บาท ได้ปริมาณทองตามราคาตลาด ณ วันนั้น
- ออกเป็นเอกสารครอบครองทองคำตามปริมาณที่คุณซื้อ
- เปลี่ยนเอกสารเป็นทองคำแท่งได้เมื่อสะสมได้ครบตามปริมาณ “บาท” ที่กำหนด
- ปลอดภัย ไม่จำเป็นต้องเก็บเงินจริง
- ซื้อขายง่าย หากเลือกเก็บเป็นเอกสารรับรอง
กองทุนรวมทองคำ
- กองทุนรวมที่นำเงินไปลงทุนในตลาดทองคำ
- ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นทองคำแท่งได้
- ซื้อขายง่าย สะดวก!
- ไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องการลงทุนมาก เพราะมีผู้จัดการกองทุนคอยดูแล
- มีกองทุนให้เลือกหลายกองทุน
ลงทุนทองคำแท่งที่ไหนดี?

หากว่าเพื่อน ๆ อยากซื้อทองคำแท่งเพื่อลงทุน ควรเลือกซื้อจากร้านทองที่มีชื่อเสียง ได้รับการยอมรับในวงการร้านทองด้วยกัน เพราะเมื่อนำมาขายคืนก็จะได้ราคาดีค่ะ
นอกจากนี้ร้านทองชื่อดังมักมีโปรแกรมออมทองคำรายเดือนเพื่อจูงใจอีกด้วย แม้ไม่มีเงินก้อนโตก็สามารถซื้อทองคำได้ ค่อย ๆ ทยอยสะสมทีละน้อยก็มีโอกาสได้ทองคำแท่งก้อนโตในอนาคตค่ะ
- ฮั่วเซ่งเฮง จำหน่ายทองคำแท่งเริ่มต้นที่ 1 สลึง โปรแกรมออมทองคำเริ่มต้นที่ 1,000 บาท โทร. 02-225-0202
- จีแคป จำหน่ายทองคำแท่งเริ่มต้นที่ 1 สลึง โปรแกรมออมทองคำเริ่มต้นที่ 1,000 บาท โทร. 02-611-0500
- ออสสิริส จำหน่ายทองคำแท่งเริ่มต้นที่ 1 กรัม โปรแกรมออมทองคำเริ่มต้นที่ 1,000 บาท โทร. 02-611-0500
- โกลเบล็ก จำหน่ายทองคำแท่งเริ่มต้นที่ 5 บาท โปรแกรมออมทองคำเริ่มต้นที่ 1,500 บาท โทร. 02-672-5995
ซื้อกองทุนรวมทองคำได้ที่ไหนบ้าง?

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเพื่อน ๆ ซื้อกองทุนรวมทองคำได้ง่ายมาก ๆ เพียงแค่เดินเข้าไปยังธนาคารแล้วขอซื้อกองทุนที่สนใจ เพราะส่วนมากแล้วธนาคารต่าง ๆ จะมีบริษัทหลักทรัพย์ของตัวเองเพื่อดูแลกองทุนเหล่านี้อยู่แล้ว เพื่อน ๆ เพียงแค่เตรียมเอกสารเหล่านี้และทำตามขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้
- บัตรประชาชน
- ยื่นเอกสารขอเปิดบัญชีกองทุน
- ทำแบบประเมินความเสี่ยงการลงทุน ซึ่งจะบอกว่าคุณยอมรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน จาก 1-8 ซึ่ง 8 คือเสี่ยงมากที่สุด
- ซื้อกองทุนที่ต้องการ
รายชื่อกองทุนทองคำที่น่าสนใจ
- TMBGOLD - กองทุนเปิดทหารไทย โกลด์
- กองทุนเปิดธนชาตทองคำแท่ง - TGoldBullion-H
- กองทุนเปิดบัวหลวงโกลด์ฟันด์ - BGOLD
- KF-GOLD - กองทุนเปิดกรุงศรีโกลด์
- SCBGOLD - กองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลด์
- UOBSG-N - กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท โก
ข้อสำคัญก็คือ อย่าลืมกระจายความเสี่ยงในการลงทุน แบ่งเงินลงทุนเป็นหลาย ๆ ส่วนแล้วนำไปลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย คละความเสี่ยงต่ำ กลาง สูง เช่น เงินฝากดอกเบี้ยสูง หุ้น สลากออมสิน อย่าใส่ไข่ไว้ในตะกร้าใบเดียวเด็ดขาด เพราะหากมันหลุดมือ ไข่อาจจะแตกหมดทั้งตะกร้าก็ได้ค่ะ