เคล็ดลับง่าย ๆ สำหรับคนชอบกินของหวาน แต่ไม่อยากอ้วน
  1. เคล็ดลับง่าย ๆ สำหรับคนชอบกินของหวาน แต่ไม่อยากอ้วน

เคล็ดลับง่าย ๆ สำหรับคนชอบกินของหวาน แต่ไม่อยากอ้วน

เคล็ดลับง่าย ๆ สำหรับคนที่กังวลว่าตัวเองกินอะไรก็จะอ้วน โดยเฉพาะของหวานอาหารโปรดสำหรับใครหลาย ๆ คน
writerProfile
19 เม.ย. 2018 · โดย

เชื่อเลยว่าของหวานเป็นอาหารโปรดสำหรับทุกคน หลาย ๆ คนชอบกินของหวานหลังจากที่กินของคาวเสร็จไม่ว่าจะมื้อไหนก็ตาม จนเพื่อน ๆ ชอบแซวว่า กินคาวไม่กินหวาน.......... ก็แหงแหละใครจะไม่ชอบกินของหวานบ้างล่ะ ทั้งบิงซู ปังเย็น ไอศกรีม แค่เห็นภาพต่อมน้ำลายก็ทำงานขึ้นมาทันทีเลยค่ะ แต่ยิ่งกินของหวานทีไรน้ำหนักก็ขึ้นทุกที วันนี้เราจึงมีวิธีการกินอย่างไรให้ไม่อ้วน แถมยังมีสุขภาพที่ดีอีก จะมีเคล็ดลับแบบไหนบ้างไปดูกันเลยคร่าาา 

ของหวาน

1. ดูค่าพลังงานบนฉลาก

เพื่อให้สุขภาพดีก่อนที่เราจะกินขนมแบบซอง หรือไอศกรีมเราจะต้องดูค่าพลังงานบนฉลากก่อน ซึ่งค่าพลังงานจะต้องน้อยกว่าหรือเท่ากับ 130 กิโลแคลอรี่ต่อหนึ่งหน่วยบริโภค มาดูค่าน้ำตาล ไขมัน และโซเดียมกันบ้าง ค่าน้ำตาลจะต้องน้อยกว่าหรือเท่ากับ 20 กรัมต่อ 100 กรัม ส่วนค่าไขมันอิ่มตัวต้องน้อยกว่าหรือเท่ากับ 5 กรัมต่อ 100 กรัม และโซเดียมต้องน้อยกว่าหรือเท่ากับ 100 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม ซึ่งพลังงานทั้งหมดก็เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาสัญลักษณ์ทางเลือกเพื่อสุขภาพอีกด้วยค่ะ 

อ้วน
อ้วน

ซึ่งในการบริโภคอาหาร ดร.ทิพย์วรรณ ปริญญาศิริ ผู้อำนวยการสำนักอาหาร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา แนะนำให้พลังงานสูงสุดที่ร่างกายรับได้ไม่ควรเกิน 2,000 กิโลแคลอรี่ ส่วนไขมันไม่ควรเกิน 65 กรัม น้ำตาลไม่ควรเกิน 65 กรัม และโซเดียมไม่ควรเกิน 2,400 มิลลิกรัมต่อวัน และที่สำคัญเลยคือในหนึ่งวันเราจะต้องกินอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ 

อ้วน
อ้วน

2. เลือกกินของหวานที่มีสัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพ

หลาย ๆ คนอาจจะยังงงว่าสัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพคืออะไร คือสัญลักษณ์ที่แสดงถึงผลิตภัณฑ์อาหารที่ได้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาแล้วว่ามีนํ้าตาล ไขมัน และเกลือ (โซเดียม) ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้ผู้บริโภคได้บริโภคผลิตภัณฑ์อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ซึ่งสัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพไม่ได้มีแค่ในฉลากขนมหรือไอศกรีมเท่านั้น แต่สัญลักษณ์นี้มีในของกินทุกประเภทที่ผ่านเกณฑ์รับรองค่ะ บอกเลยว่าหากเราขี้เกียจอ่านค่าพลังงานบนฉลาก เราก็แค่สังเกตของกินที่มีสัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพได้ค่ะ 

อ้วน
ไอศกรีม

3. ออกกำลังกายวันละ 30 นาที 

แน่นอนเลยค่ะ ตราบใดที่เราเอาแต่กินโดยที่ไม่ได้ออกกำลังกายนอกจากร่างกายเราจะบวม พุงเราจะย้อยแล้ว เราก็จะเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ อีกด้วย การออกกำลังกายที่น้อยที่สุดต่อวันที่ป้องกันไม่ให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น คือ การเดินหรือวิ่ง 30 นาทีต่อวัน ไม่ว่าจะเดินวิ่งบนพื้นธรรมดาหรือถ้ามีเวลาก็เข้าฟิตเนสเดินวิ่งบนลู่ นอกจากนี้เราสามารถออกกำลังกายเผาผลาญไขมันด้วยวิธีอื่นก็ได้ตามที่เราชอบและสะดวกเลยค่ะ 

อ้วน
อ้วน

อย่างที่บอกนะคะว่าเราสิ่งสำคัญเลยคือการเลือกของกิน ต้องกินของที่มีประโยชน์ไม่เพียงของหวานเท่านั้นแต่ของทุกอย่างที่เรากินต้องผ่านการเลือกคัดสรรเป็นอย่างดี มีสัญลักษณ์ทางเลือกเพื่อสุขภาพ และสำหรับคนที่ชอบทานหวานโดยเฉพาะไอศกรีมเราขอแนะนำ ไอศกรีมที่มีสัญลักษณ์ทางเลือกเพื่อสุขภาพอย่างไอศกรีมเนสท์เล่ ซึ่งมีให้เลือกหลายแบบ ทั้งรสผลไม้ อย่างเช่น ไอศกรีมเนสท์เล่ลาฟรุ๊ตต้าโยเกิร์ตลิ้นจี่ มีพลังงานเพียง 70 kcal อร่อยแถมยังไม่อ้วนด้วย นอกจากนี้ยังมี รสช็อกโกแลต รสวานิลลา และอีกหลากหลายรสชาติที่ครองใจหลาย ๆ คนอร่อยแถมยังสุขภาพดีอีกด้วยค่ะ 

อ้วน
อ้วน
อ้วน

ถึงแม้ว่าจะได้รับการรองว่ามีสัญลักษณ์ทางเลือกเพื่อสุขภาพแต่เราก็ควรกินในปริมาณที่พอเหมาะ และอย่าลืมออกกำลังกายด้วยค่ะ 

Source : 1, 2, 3, 4