นับตั้งแต่ที่เพื่อน ๆ เข้าสู่ไลฟ์สไตล์การเป็นชาวออฟฟิศ เป้าหมายหลัก ๆ ที่คงจะวาดฝันกันไว้คือการประสบความสำเร็จเพื่อเป็นใบเบิกทางให้สิ่งอื่น ๆ ตามมากันใช่มั้ยคะ แต่ถ้าว่ากันตามตรงมันก็ไม่ง่ายสักเท่าไร เพราะมันอาจจะมีอุปสรรคมากมายที่คอยทดสอบเราในภายภาคหน้า รวมไปถึงเรื่องเล็ก ๆ (ที่อาจไม่เล็กในอนาคต) อย่างนิสัยส่วนตัวบางอย่างของเราด้วย ก่อนอื่นก่อนใด Wongnai Beauty อยากจะชวนเล่นเกมบิงโกสนุก ๆ เพื่อลองเช็กว่าใน 24 ข้อนี่เนี่ย เพื่อน ๆ เคยแอบทำอะไรไปบ้างนะ...
ถึงเวลาสนุก! บิงโกเช็กนิสัยเสียที่เพื่อน ๆ ชาวออฟฟิศเคยแอบทำ!!
- ใช้คอมออฟฟิศเพื่อเรื่องส่วนตัว จริง ๆ อันนี้ก็ไม่ได้ผิดอะไรหรอกค่ะ บางครั้งอาจจะมีความจำเป็นจริง ๆ ที่เราต้องใช้คอมออฟฟิศเพื่อทำธุระส่วนตัว แต่ถ้าเสพติดพฤติกรรมนี้นาน ๆ ไปก็อาจส่งผลกับหน้าที่การงานได้แหละ
- ใช้โทรศัพท์บ่อยเกินความจำเป็น ถ้าหากเพื่อน ๆ ติดการใช้โทรศัพท์ ไม่ว่าจะเพื่อคุยธุระ เช็กโซเชียลมีเดีย หรือเพื่อการอื่นใดจนเกินไปมันอาจจะสร้างความรำคาญให้กับผู้อื่นได้ ยิ่งถ้าติดหนักจนเสียการงาน ระวังโดนเมนเทอร์เรียกเข้าห้องดำน้าาา
- คิดลบตลอดเวลา เราเข้าใจค่ะว่าสังคมในออฟฟิศส่วนมากเหมือนเล่นหวย ถ้าใครเจอดีก็โชคดี เจอไม่ดีก็แย่เลย แต่ถ้าเรามองทุกอย่างในนั้นเป็นแง่ลบจนเกินไปอาจจะทำให้เราไม่มีความสุขและไม่มีเพื่อนร่วมงานคนไหนอยากเข้าใกล้หรือให้ความช่วยเหลือในยามจำเป็นเลยค่ะ
- จับกลุ่มเมาธ์มอยจนไม่ทำงาน อันนี้เรามั่นใจว่าเพื่อน ๆ หลายคนแอบทำเพราะใน 1 วันอาจจะมีท็อปปิกมากมายให้คุยกับคนรอบตัว แต่ถ้ามากไปก็อาจทำให้คนอื่นไม่พอใจและเสียการเสียงานได้เลยละ
- ชอบบงการคนรอบตัว ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจว่าคนในออฟฟิศมีหลายรูปแบบ หลากสไตล์การทำงาน เอาเป็นว่าถ้ามันไม่หนักเกินไปเราควรจะปล่อยให้เขาได้ทำในสิ่งที่ถนัดและทำให้งานเสร็จลุล่วง ดีกว่าไปจู้จี้จุกจิกหรือบงการให้เขาไม่สบายใจดีกว่าค่ะ
- ปาร์ตี้จัดหนักแทบจะทุกวัน เราเข้าใจนะคะว่าบางทีงานอาจจะทำให้เพื่อน ๆ เครียดจนใกล้บ้า พอปาร์ตี้ทีไรก็หมดทุกความเศร้าความโศก แต่ถ้าเล่นไปแฮงก์เอาต์ทุกวันแล้วมาหมดแรงในเวลาทำงานใครก็มองแรงใส่ค่ะ!
- จัดเวลาตัวเองไม่ดีจนทำงานไม่ทัน บางทีเราอาจจะเอนจอยกับสิ่งรอบตัวมากไปหน่อยจนลืมจัดตารางงานตัวเอง แล้วพอทำไม่ทันก็โดนด่าอีก! โดนด่าไม่พอคนอื่นก็ต้องมารอเราด้วย ไม่ดีเลยค่ะ
- Say “NO” แบบไม่หยุดหย่อน เพราะบางทีอาจมีสถานการณ์ที่ทำให้เราไม่พอใจและรู้สึกว่าดีที่ไม่เอาตัวเองเข้าไปข้องเกี่ยว แต่ถ้าเล่นปฏิเสธทุกสิ่งทุกอย่าง Say NO แบบรัว ๆ วนไป คนรอบตัวก็อาจบึนปากใส่เอานะคะ
- ไม่เปิดกว้าง ไม่รับคำติชม ในบางสายงานของเพื่อน ๆ ฟีดแบ็คหรือคำติชมเป็นเรื่องจำเป็นมาก ๆ เพื่อให้ทุกอย่าง Move On ได้อย่างสวยงาม แต่ถ้าเพื่อน ๆ เล่นไม่ฟัง ปิดหูปิดตา คิดว่า เนกาเช้นาลากา!! (I am the best เพลงลอยมาเลยค่ะ) เพื่อนร่วมงานก็อาจบึนปากใส่อีกได้ค่ะ
- ไม่กินอาหารเช้าก่อนมาทำงาน อันนี้ดูตลกใช่มะ แต่จริง ๆ ไม่เลยค่ะ อาหารเช้าเป็นสิ่งที่จะเติมพลังให้กับเราทั้งวัน สละเวลาสักนิดก่อนเริ่มทำงานเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นกันเถอะค่ะ
- แอบไปสูบบุหรี่ 5 ครั้งขึ้นไปต่อวัน อันนี้จริง ๆ เราก็ว่าไม่ได้ เพราะเรื่องการสูบบุหรี่ก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่ถ้ามันบ่อยขนาดนี้จะเสียสุขภาพเอานะคะ แถมบางครั้งกลิ่นที่ติดตัวมาก็อาจสร้างความขุ่นเคืองใจให้ใครบางคนได้ค่ะ
- เผลอหลับในห้องน้ำนานกว่า 20 นาที เอาจริง ๆ งีบนี่ไม่ผิดนะคะ แต่ถ้านานขนาดนั้นแถมยังไปนอกออฟฟิศอีกเรื่องใหญ่เลยค่ะ
- มาสายในทุกกิจกรรม อันนี้บ่าได้เล้ยยค่ะ! ปล่อยให้คนอื่นรอเราคนเดียวมันแย่มากก
- รับบทนางบ่นนางด่านางโวยวาย เข้าใจว่าบางครั้งเก็บอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองมากไปก็ไม่ดี แต่ถ้าเล่นปล่อยและเก้วกาดขนาดนี้ระวังผลเสียจะตามมานะคะ เยอะเลยด้วย แง
- ลืมนั่นนี่ตลอดเวลา แม้กระทั่งลืมทำงาน! อันนี้ก็บ่าได้ค่า ถ้าเป็นขี้ลืมเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนางเอกหนังเกาหลีก็ยังพอขำกรุบสองกรุบ แต่ถ้าถึงขั้นลืมงานที่โดน assigned มานี่ไม่ตลกแล้วค่ะ
- คิดว่าตัวเองฉลาดที่สุดใน 3 โลก บางครั้งทำงานกับคนมาก ๆ ก็อาจทำให้หงุดหงิดไม่พอใจได้แหละ แต่ถ้าไปตัดสินเขาและคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นฉลาดกว่ามากก็ใจร้ายไปหน่อยน้า
- อยู่แต่ในคอมฟอร์ทโซนของตัวเอง บางครั้งการอยู่ที่ที่นึงนาน ๆ ก็จะสร้างความเคยชินจนกลัวจะลองอะไรใหม่ ๆ ผิดค่ะ เพราะเราจะไม่รู้เลยว่ามันอาจมีอะไรดีกว่ารออยู่ก็ได้
- รอความช่วยเหลือจากคนอื่นตลอดเวลา เพราะด้วยความที่กลัวผิดนี่ผิดนั่นเลยไม่ทำอะไรถ้าไร้คนช่วยเหลือ แต่บางครั้งก็ไม่ได้จริง ๆ ค่ะ
- เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นเสมอ ๆ ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าคนทุกคนไม่เหมือนกัน จะเอาไปเทียบกับเขาก็ยากและใจร้ายกับตัวเองไปนะ
- บ่นว่าอยากลาออกทุกวัน บางทีคนอื่นที่ได้ยินก็อาจรู้สึกแย่ได้นะคะ ในทางกลับกันเราก็ต้องมองข้อดีของงานปัจจุบันดี ๆ ก่อนตัดสินใจอีกครั้งค่ะ
- เครียดเมื่อไหร่ก็กิน ถ้ามากไปเมื่อไหร่เตรียมตัวพองได้เลย แถมด้วยโรคร้ายอีกมากมายที่จะตามมาค่ะ
- เอาตัวเองไปอยู่ในกลุ่มคนแย่ ๆ ถ้ารู้ตัวเมื่อไหร่ต้องรีบออกมาทันทีเลยนะคะ ชีวิตเรา Deserve อะไรที่ดีกว่านั้นค่ะ
- แทบจะไม่ดื่มน้ำเลย เข้าใจว่างานยุ่งจนขี้เกียจเดินไปกดน้ำ แต่ต้องหาเวลาเติมความสดชื่นด้วยน้ำเปล่าสักแก้วสองแก้วบ้างนะ
- ไม่ใส่ใจลุคและการแต่งตัว บางทีภาพลักษณ์สำคัญและจำเป็นกว่าที่คิด สละเวลาสักนิดเพื่อครีเอตลุ้ยสวยและโปรเฟสชันแนลของเพื่อน ๆ ดีกว่าค่ะ
มาถึงตรงนี้ลองดูกันซะหน่อยนะคะ ถ้าเล่นแล้วเพื่อน ๆ ดั๊นแจ็กพอตบิงโกเกินสองแถวขึ้นไปนี่เราขอบาย ไม่ยินดีด้วยนะคะ!! เพราะนั่นเป็นสัญญาณที่บอกว่าเพื่อน ๆ กำลังปล่อยให้นิสัยเสียทำร้ายชีวิตและการงานอย่างช้า ๆ โดยไม่รู้ตัวแล้ว! เอาละค่ะ ก่อนทุกอย่างในชีวิตจะตุ้บแรง เราอยากให้เพื่อน ๆ รีวิวผลอีกสักทีพร้อมกับอ่านคำแนะนำจาก 24 ข้อข้างบนอีกรอบ แล้วมาดูต่อว่าจะมีวิธีอะไรที่แก้ไขนิสัยเสียเหล่านี้ได้บ้างค่ะ…
10 สิ่งที่ควรทำ แก้นิสัยเสียสู่ชีวิตที่ดี
- รู้จักมองโลกในแง่ดี ถ้าเพื่อน ๆ รู้ว่าพลังลบในชีวิตมากเกินไป ก็ต้องมองมุมกลับ ปรับมุมมอง แล้วรู้จักคิดบวกให้มากขึ้น อ้อ บวกนี่ ไม่ใช่ไปบวกแบบตีรันฟันแทงอะค่ะ
- เข้าหาคนที่มองโลกในแง่ดีมากขึ้น เพราะบางครั้งการที่เรามองโลกในแง่ดี แต่ยังอยู่กับคนที่เต็มเปี่ยมด้วยพลังลบ ผลลัพธ์ก็เป็นศูนย์ค่ะ
- เรียนรู้ที่จะ Say YES มากขึ้น ถ้าเราเปิดใจกับสิ่งรอบตัว รู้จักจะตอบรับคำขอหรือความช่วยเหลือจากคนรอบตัวก็อาจจะเปิดมุมมองใหม่ให้กับตัวเองได้อย่างดีเลย
- อย่ากลัวที่จะช่วยเหลือคนรอบข้าง บางทีถ้าเราเรียนรู้จะทำความรู้จักกับคนรอบตัวที่ไม่เคยคุย และไม่กลัวที่จะช่วยเหลือเขา เราอาจจะได้มิตรภาพใหม่ ๆ ที่ไม่คาดคิดมาก่อนก็ได้
- รู้จักที่จะปล่อยวาง บางครั้งความเครียดความทุกข์ที่ผ่านมาอาจจะหนักเกินไป แต่ถ้าเราแบกไว้ก็ตายพอดีค่ะ
- มองหาความสงบให้จิตใจ เมื่อปล่อยวางได้แล้วก็ถึงเวลาหาโมเมนต์สงบ ๆ ให้กับตัวเองสักเล็กน้อย เพื่อคิดทบทวนและหาความสงบให้กับตัวเองค่ะ
- เริ่มต้นวางแผนให้มากขึ้น ทีนี้ก็เป็นเวลารื้อสิ่งแย่ ๆ ที่เคยทำ แล้วมาวางแผนกันว่าในแต่ละวัน สัปดาห์ เดือน หรือปีจะต้องทำอะไรบ้าง
- จดโน้ต หรือตั้งเตือนสิ่งที่จะทำในแต่ละวัน เพื่อให้การวางแผนนั้นดีขึ้น หาเวลาจดโน้ตลงสมุด กระดาษโพสต์อิท หรือตั้งเตือนในมือถือไว้ก็จะยิ่งช่วยได้ค่ะ
- รีวิวตัวเองทุกสัปดาห์ว่าทำได้มากน้อยแค่ไหน ถึงเวลาปลายสัปดาห์ก็มาดูกันว่าทั้งแผนระยะสั้นระยะยาว รวมทั้ง Task ต่าง ๆ ในการทำงานทุกวันว่าเสร็จสิ้นลุล่วงไปขนาดไหน
- ชื่นชมและให้รางวัลกับตัวเอง เพื่อไม่ให้กดดันเกินไป ถ้ารู้สีกว่าตัวเองทำได้ดีแล้วก็ฉลองแบบพอดี ๆ ซะหน่อยค่ะ จะพาตัวเองไปชอป กิน ดูหนัง หรืออะไรก็ได้แล้วแต่เลย
เราเข้าใจนะคะว่ามาถึงตรงนี้เพื่อน ๆ หลายคนอาจจะยังรู้สึกว่าทำไมมันยากจังเลย เราเห็นด้วยค่ะ เพราะเรามองว่าถ้าทำหมดนี่ทีเดียวจะรู้สึกกดดันเปล่า ๆ เราเลยอยากแนะนำว่าถ้าปรับได้ทีละนิด ๆ ชีวิตจะเปลี่ยนไปในแบบที่คิดไม่ถึงเลย ยังไงก็ขอให้เพื่อน ๆ โชคดีและมีชีวิตการงานที่เป๊ะปังยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะค้าา
อ่านบทความที่น่าสนใจอื่น ๆ
