ขอออกตัวก่อนเลยว่าปกติเราไม่ใช่คนวิ่งเก่งอะไร แล้วก็เหนื่อยง่ายมาก วิ่งแป๊บ ๆ ก็มีเหนื่อย มีหอบ ขนาดออกกำลังกายค่อนข้างบ่อยแล้วนะ จนเราไปเจอมาว่า เฮ้ย ที่ผ่านมาเราวิ่งผิดท่า หายใจผิดจังหวะอยู่ก็เลยเหนื่อยง่าย วันนี้ก็เลยอยากจะแชร์ทริควิ่งยังไงไม่ให้เหนื่อยเร็ว แถมยังเบิร์นได้เยอะให้เพื่อน ๆ กันค่ะ!
1. วอร์มอัพก่อนออกสตาร์ท
ก่อนออกกำลังกายทุกครั้งไม่ว่าจะออกกำลังกายประเภทไหนก็ตาม เราควรจะวอร์มอัพก่อนทุกครั้ง ส่วนเหตุผลที่มันสำคัญก็เพราะว่ากล้ามเนื้อเราจะได้ถูกยืดขยายและทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อน เวลาเราออกกำลังกายจริง ๆ กล้ามเนื้อจะได้ไม่ช็อก หด เกร็ง จนเกิดบาดเจ็บเป็นตะคริวได้
และการวอร์มอัพที่ดีก็ควรทำให้ได้ 5-10 นาทีเพื่อให้ร่างกายตื่นตัวก่อนค่ะ ทีนี้พอกายพร้อมใจพร้อมแล้วค่อยมาลุยกันต่อ!
2. ค่อย ๆ เพิ่มระยะทาง
พอวอร์มอัพเสร็จปุ๊บ ขั้นต่อไปเราก็จะมาเช็กความพร้อมของอุปกรณ์กันหน่อย ก่อนวิ่งทุกครั้งต้องดูให้แน่ใจว่าเชือกรองเท้าผูกดีหรือยัง ถ้าแน่นเกินไปหรือหลวมเกินไปก็ปรับให้สบายที่สุด จากนั้นเริ่มออกวิ่ง โดยค่อย ๆ เพิ่มระยะทางให้กับตัวเอง อย่าหักโหมไปรวดเดียว เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าฟิตอยู่ได้แค่ไม่กี่วัน เพราะเหนื่อย ท้อ ตั้งเป้าไว้เลยว่าวันนี้วิ่ง 2 km. หรือวันนี้วิ่ง 15 นาที พรุ่งนี้ค่อยขยับเป็น 2.5 km. หรือ 20 นาที ทำแบบนี้เพื่อหลอกสมองและร่างกายของเราให้ฟิตอยู่ตลอด แถมสนุกเหมือนได้ทำมิชชั่นสำเร็จด้วยนะเออ
อีกเคล็ดลับนึงคือ เวลาที่วิ่งอยู่เราจะใส่หูฟัง แล้วกด Playlist เพลงช่วยวิ่ง แนะนำให้เลือกเพลงที่มีจังหวะกลาง ๆ ไม่เร็วไป และไม่ช้าเกินไป เพื่อให้เราวิ่งได้เป็นจังหวะสม่ำเสมอกันตลอดทาง แถมการฟังเพลงขณะวิ่งยังช่วยให้มีสมาธิจดจ่อกับการวิ่งมากขึ้นด้วย รู้ตัวอีกทีก็ผ่านไปหลายเพลง วิ่งเพลินกันเลยทีเดียว
3. วิ่งสลับเดินเร็ว
อันนี้บอกเลยว่าเป็นวิธีสำหรับคนขี้เหนื่อยอย่างเรา คือออกกำลังกายนั่นแหละแต่ไม่หักโหมมาก เอาเท่าที่ร่างกายรับไหวพอ วิธีที่เราใช้ก็คือเราจะวิ่งสลับกับเดินเร็ว อย่างถ้าวิ่งไปสักพัก แล้วเรารู้สึกว่าเหนื่อยเกินไป หัวใจเริ่มเต้นเร็วเราก็จะค่อย ๆ ผ่อนจังหวะลงจนเปลี่ยนมาเป็นเดินเร็วแทนค่ะ
4. ฝึกหายใจให้ถูกวิธี
การหายใจให้ถูกเนี่ยสำคัญมากกับการออกกำลังกายเลยนะ อย่างเวลาวิ่งจ๊อกกิงตอนเช้าในหมู่บ้าน เราจะใช้วิธีหายใจแบบ 3 : 3 หรือก็คือ วิ่งไป 3 ก้าว จากนั้นหายใจเข้า ทีนี้วิ่งไปอีก 3 ก้าว แล้วผ่อนลมหายใจออก เวลาหายใจเข้าให้หายใจเข้าลึก ๆ ทางจมูก ส่วนหายใจออกก็ให้เป่าปากช่วยได้เลย ทำแบบนี้จะช่วยให้ไม่หอบขณะวิ่ง แถมวิ่งได้อึดขึ้นด้วยนะ
และนี่ก็เป็นทริคง่าย ๆ สำหรับการวิ่ง อย่างเราที่เพิ่งเริ่มวิ่งก็ต้องค่อย ๆ ฝึกฝนไปเหมือนกัน อย่างการหายใจและฟังเพลงเนี่ยช่วยได้เยอะมาก ทำให้มีสมาธิด้วย แถมช่วยทำให้เราเหนื่อยช้าลงและยังเบิร์นได้เยอะด้วยนะ ส่วนนอกจากวิ่งแล้ว เราก็มีอีกหนึ่งเคล็ดลับที่อยากจะมาบอกนั่นก็คือ ปลายฟ้า เจลลี่เสริมอาหารรูปแบบใหม่เป็น Stick พกพาง่าย สะดวกมาก วันที่ไปวิ่งก็คือพกใส่กระเป๋าไปได้เลย ที่สำคัญคือกินง่ายมาก แค่ฉีกซองก็พร้อมทานทันที รสชาติก็อร่อย เหมือนกินขนมชาเขียวเลย
แถมเขามีมาให้ 2 สูตรด้วยนะ อย่างสูตรแรกก็คือ ปลายฟ้า กรีนที เจลลี่ แอล คาร์นิทีน มีความชาเขียวมาก ใครชอบกินชาเขียวก็คือหลงรักตัวนี้แน่นอน แนะนำให้ทานก่อนออกกำลังกายนะ เพราะว่าเขาจัดสารสกัดจากชาเขียวเข้มข้นมาให้ถึง 3 ตัว ทั้ง L-Carnitine, Green Tea Extract และ Green Coffee Bean Extract ช่วยเร่งเบิร์นไขมันส่วนเกินได้ไวและขับออกมาในรูปแบบของเหงื่อ ดักจับไขมันมาใช้เป็นพลังงานและช่วยเรื่องการเผาผลาญได้อย่างดี เพิ่มมวลกล้ามเนื้อด้วย กินไปก่อนวิ่งก็คือผอมเร็ว เผาผลาญเริ่ด และจะบอกว่าที่ดีอีกอย่างคือ เขาไม่มีน้ำตาลด้วย เหมาะมากกับสายเฮลตีอย่างเรา
ส่วนอีกสูตรก็จะเป็น ปลายฟ้า แคลเซียม เจลลี่ กลิ่นโยเกิร์ต ที่บอกเลยว่าหลังวิ่งเสร็จควรจัด เพราะสูตรนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากเสริมแคลเซียม บำรุงกระดูกให้แข็งแรง คนที่ชอบออกกำลังกายหนัก ๆ ก็ควรมีเก็บไว้เลย แถมกินได้ง่าย ไม่อ้วนด้วยนะ หาซื้อก็ง่ายมีขายที่ Watsons ทุกสาขาแล้ว หรือจะสั่งซื้อที่หน้าเพจเฟซบุ๊ก Plyfah Brand ก็ได้เลยค่า!
ช่องทางการติดต่อ
Facebook : Plyfah Brand
Line : @plyfah
