กลายเป็นประเด็นที่กำลังถกเถียงกันในโลกโซเชียลเกี่ยวกับการใช้ Cleansing Oil แล้วสิวอุดตันบุก!! ด้วยเหตุนี้นอกจากจะทำให้คลีนซิ่งออยล์กลายเป็นจำเลยแล้ว ยังส่งผลให้หลายคนกลัวการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าประเภทนี้ไปโดยปริยาย จากประเด็นนี้ Wongnai Beauty เลยถือโอกาสพาทุกคนมาทำความรู้จักกับคลีนซิ่งออยล์ พร้อมแนะนำวิธีการใช้ที่ถูกต้องเพื่อให้หน้าเนียนใส ไร้สิวอุดตันกวนใจกันค่ะ
Cleansing Oil คือ?
Cleansing Oil คือ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ที่ประกอบด้วยส่วนผสมของน้ำและน้ำมัน มีคุณสมบัติช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรก ฝุ่นละออง รวมถึงเครื่องสำอางทั้งแบบปกติและแบบกันน้ำ ด้วยความที่มีส่วนผสมของน้ำมัน จึงช่วยคงความชุ่มชื้นและคงความมันตามธรรมชาติของผิวหน้าไว้ได้เป็นอย่างดี โดยไม่ทำให้ผิวหน้าแห้งกร้านหลังเช็ดทำความสะอาด
เหตุผลที่ควรใช้คลีนซิ่งออยล์
ทั้งหมดนี้เป็นข้อดีและเหตุผลที่คลีนซิ่งออยล์ควรเป็นหนึ่งในไอเทม ที่ควรมีในขั้นตอนการทำความสะอาดผิว
- คลีนผิวได้ไม่ง้อสำลี : การเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าจำเป็นต้องใช้คลีนซิ่งร่วมกับสำลี ซึ่งหากถูแรงจนเกินไป ก็อาจจะทำให้เกิดการเสียดสีระหว่างผิวกับสำลี ส่งผลให้สูญเสียเซลล์ผิวด้านบน และความชุ่มชื้นผิวถูกดึงออกไป อีกทั้งยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวและริ้วรอยก่อนวัยอีกด้วย แต่สำหรับการใช้คลีนซิ่งออยล์สามารถทำความสะอาดผิวได้ง่าย ๆ ด้วยการลูบเนื้อผลิตภัณฑ์ลงบนผิวหน้า จากนั้นนวดวนเบา ๆ ให้ทั่วผิวหน้า แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด เพียงเท่านี้ผิวก็สะอาดหมดจดโดยไม่ต้องง้อสำลีแล้วค่ะ นอกจากจะสะดวกต่อการใช้งานแล้ว ยังช่วยลดการเสียดสีได้เป็นอย่างดี
- ทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน : คลีนซิ่งออยล์สามารถขจัดคราบเครื่องสำอาง ฝุ่นละออง และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ได้อย่างหมดจด โดยไม่ทำลายชั้นน้ำมันบนผิว และไม่ส่งผลกระทบกับระดับค่า pH ของผิว จึงไม่ทำให้ผิวแห้งกร้านและเกิดการระคายเคืองหลังเช็ดทำความสะอาด
- จัดการสิ่งสกปรกได้อย่างหมดจด : นอกจากจะช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกบนผิวหน้าแล้ว คลีนซิ่งออยล์ยังมีคุณสมบัติในการขจัดคราบเครื่องสำอางได้อย่างล้ำลึกและหมดจด ไม่เว้นแม้แต่เครื่องสำอางกันน้ำที่เช็ดออกยาก โดยเนื้อออยล์จะแทรกซึมลึกเข้าไปในรูขุมขน พร้อมละลายเมคอัพและสิ่งสกปรกให้หลุดออกอย่างง่ายดาย
- ช่วยคงความชุ่มชื้นให้ผิว : หากใครเคยมีประสบการณ์ใช้คลีนซิ่งแล้วผิวแห้งกร้าน แนะนำให้ลองเปิดใจให้กับคลีนซิ่งออยล์ที่สามารถทำความสะอาดผิวได้โดยไม่ทำลายสมดุลน้ำมันและค่า pH ตามธรรมชาติของผิว พร้อมล็อกความชุ่มชื้นไว้ในผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงไม่ทำให้ผิวแห้งกร้านหลังเช็ดทำความสะอาด อีกทั้งยังช่วยบำรุงให้ผิวหน้าเนียนนุ่มขึ้นด้วย
- รักษาสมดุลความมันบนใบหน้า : เชื่อว่ามีหลายคนยังเข้าใจผิดว่าการใช้คลีนซิ่งออยล์จะยิ่งเพิ่มความมันบนผิวหน้า ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวและอุดตันผิว แต่จริง ๆ แล้วนอกจากจะไม่ทำให้หน้ามันเพิ่มแล้ว คลีนซิ่งออยล์ยังช่วยสร้างความสมดุลให้ผิว และควบคุมการผลิตน้ำมันบนผิว ทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้น ดูสุขภาพดี
ใช้ Cleansing Oil แล้วสิวอุดตันบุก เพราะอะไร?
เคยสงสัยกันมั้ยว่าทำไมบางคนใช้คลีนซิ่งออยล์แล้วหน้าสะอาดใส แต่บางคนใช้แล้วสิวอุดตันบุกหนักมาก ในหัวข้อนี้เราเลยจะพาทุกคนมาหาคำตอบ พร้อมเปิดเรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับคลีนซิ่งออยล์กันค่ะ
- เลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว : มีคนจำนวนไม่น้อยประสบปัญหาใช้คลีนซิ่งออยล์แล้วสิวขึ้น โดยเฉพาะสิวผดและสิวอุดตัน ซึ่งมีสาเหตุจากน้ำมันในคลีนซิ่งออยล์บางประเภท เมื่อไปรวมตัวกับสิ่งสกปรกในรูขุมขนก็อาจก่อให้เกิดการอุดตันตามมาได้ โดยปัญหานี้จะพบมากในผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ผิวมันและผิวผสม ทางออกที่ดีที่สุดคือการเลือกใช้คลีนซิ่งออยล์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันประเภทที่มีโอกาสอุดตันน้อย เช่น โจโจ้บาออยล์ (Jojoba Oil) และน้ำมันเมล็ดองุ่น (Grape Seed Oil) เป็นต้น หรือมองหาผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า Non-Comedogenic ปราศจากส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขน
- แพ้ส่วนผสมบางประเภท : สำหรับใครที่มีปัญหาสิวตั้งแต่ครั้งแรกที่เริ่มใช้คลีนซิ่งออยล์ หรือมีอาการผิดปกติ เช่น รู้สึกแสบคัน ผิวแห้งลอก มีผื่นแดงหรือตุ่มแดงเล็ก ๆ ขึ้นบนใบหน้า นั่นอาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณกำลังแพ้ส่วนผสมบางประเภท หรือผลิตภัณฑ์นั้น ๆ มีส่วนผสมของสารก่อระคายเคือง อาทิ พาราเบน (Parabens) ซัลเฟต (Sulfate) แอลกอฮอล์ (Alcohol) และน้ำหอม (Perfume) เป็นต้น
- ใช้คลีนซิ่งออยล์ผิดวิธี : บางคนอาจไม่ได้แพ้แต่ตกม้าตาย เพราะใช้คลีนซิ่งออยล์ผิดวิธี เช่น หลังจากนวดเนื้อผลิตภัณฑ์ลงบนผิวแล้วใช้มือวักน้ำล้างหน้าทันที โดยไม่นวดซ้ำเพื่อให้ออยล์เปลี่ยนเป็นเนื้อน้ำนม ซึ่งอาจทำให้ออยล์ตกค้างอยู่บนผิวและเกิดการอุดตันตามมาได้ หรือบางคนอาจใช้สำลีเช็ดทำความสะอาดผิวหน้า หลังจากนวดเนื้อผลิตภัณฑ์บนผิว ทำให้เกิดการเสียดสีระหว่างผิวหน้าและสำลี และการไม่ใช้โฟมล้างหน้าล้างทำความสะอาดผิวอีกครั้ง หลังจากทำความสะอาดผิวหน้าด้วยคลีนซิ่งออยล์ เป็นต้น
4 Steps ใช้ Cleansing Oil อย่างถูกต้อง
- Step 1 : ปั๊มคลีนซิ่งออยล์ประมาณ 3 - 4 ครั้ง ลงบนฝ่ามือแห้งหมาด จากนั้นวอร์มเนื้อผลิตภัณฑ์ด้วยการถูมือทั้งสองข้างไปมา
- Step 2 : ใช้ปลายนิ้วแตะที่เนื้อผลิตภัณฑ์แล้วแต้มคลีนซิ่งออยล์ให้ทั่วผิวหน้า จากนั้นใช้ปลายนิ้วนวดวนเบา ๆ ให้ทั่วใบหน้า
- Step 3 : ใช้มือแตะน้ำสะอาดแล้วนวดวนเบา ๆ ให้ทั่วใบหน้าอีกครั้ง จนออยล์เปลี่ยนเป็นเนื้อน้ำนมสีขาวนวล ขั้นตอนนี้จะเป็นการชำระล้างคราบเครื่องสำอาง ฝุ่นละออง และสิ่งสกปรกให้หลุดออกโดยไม่ต้องใช้สำลีเช็ด
- Step 4 : ล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด แล้วซับหน้าให้แห้งด้วยผ้าขนหนู เพียงเท่านี้ผิวหน้าก็สะอาดหมดจด ไร้สิวอุดตันกวนใจ
เลือก Cleansing Oil อย่างไรให้เหมาะกับผิว
หลายคนมักจะเข้าใจผิดว่าคลีนซิ่งออยล์ไม่เหมาะกับคนผิวมัน เพราะจะยิ่งเพิ่มความมันบนใบหน้า แต่ความจริงแล้วคลีนซิ่งออยล์เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่เหมาะกับทุกสภาพผิว ไม่เว้นแม้แต่ผิวมันและผิวผสม เพียงแค่ต้องเลือกเนื้อสัมผัสและส่วนผสมให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง
- ผิวมัน - ผิวผสม : สำหรับคนผิวมันและผิวผสมที่กังวลเรื่องการอุดตันของผิว ควรเลือกคลีนซิ่งออยล์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันประเภทที่มีโอกาสอุดตันน้อย เช่น โจโจ้บาออยล์ (Jojoba Oil) และน้ำมันเมล็ดองุ่น (Grape Seed Oil) เป็นต้น หรือมองหาผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า Non-Comedogenic ปราศจากส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขน
- ผิวแห้ง : คนผิวแห้งสามารถเลือกใช้คลีนซิ่งออยล์ได้ทุกประเภท แต่ต้องหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่อาจก่อการระคายเคืองต่อผิว เช่น พาราเบน (Parabens) ซัลเฟต (Sulfate) แอลกอฮอล์ (Alcohol) และน้ำหอม (Perfume) เป็นต้น
- ผิวบอบบางแพ้ง่าย : ผิวบอบบางแพ้ง่ายจะต้องให้ความสำคัญกับการเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวมากเป็นพิเศษ ควรเลือกคลีนซิ่งออยล์ที่ผลิตจากไขมันหรือน้ำมันจากธรรมชาติ ที่มีความใกล้เคียงกับชั้นไขมันของผิวเรามากที่สุด เพื่อคงความชุ่มชื้นของผิวหน้าไว้ จึงไม่ทำให้ผิวแห้งกร้านและเกิดการระคายเคืองหลังเช็ดทำความสะอาดผิว อีกทั้งยังต้องปราศจากสารก่อการระคายเคืองทุกชนิดด้วย
หลังจากทำความรู้จักกับคลีนซิ่งออยล์กันไปแล้ว หวังว่าจะทำให้ใครหลาย ๆ คนที่กำลังกังวลกับการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวประเภทนี้อยู่สบายใจขึ้นได้นะคะ เพราะต้องบอกเลยว่าคลีนซิ่งออยล์ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ในทางกลับกันยังมีข้อดีมากมาย ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทุกคนควรเปิดใจลองใช้