ใช้ผิดชีวิตเปลี่ยน! How to ใช้ Cleansing Oil ให้ถูกกันหน้าพัง ลดสิวครบ
  1. ใช้ผิดชีวิตเปลี่ยน! How to ใช้ Cleansing Oil ให้ถูกกันหน้าพัง ลดสิวครบ

ใช้ผิดชีวิตเปลี่ยน! How to ใช้ Cleansing Oil ให้ถูกกันหน้าพัง ลดสิวครบ

ใช้ Cleansing Oil แล้วสิวขึ้น ควรไปต่อหรือพอแค่นี้? ชวนมาหาคำตอบ พร้อมแนะนำวิธีการใช้ที่ถูกต้องเพื่อให้หน้าสะอาดใส ปราศจากสิวอุดตันกวนใจ!
writerProfile
8 พ.ย. 2024 · โดย

กลายเป็นประเด็นที่กำลังถกเถียงกันในโลกโซเชียลเกี่ยวกับการใช้ Cleansing Oil แล้วสิวอุดตันบุก!! ด้วยเหตุนี้นอกจากจะทำให้คลีนซิ่งออยล์กลายเป็นจำเลยแล้ว ยังส่งผลให้หลายคนกลัวการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าประเภทนี้ไปโดยปริยาย จากประเด็นนี้ Wongnai Beauty เลยถือโอกาสพาทุกคนมาทำความรู้จักกับคลีนซิ่งออยล์ พร้อมแนะนำวิธีการใช้ที่ถูกต้องเพื่อให้หน้าเนียนใส ไร้สิวอุดตันกวนใจกันค่ะ

Cleansing Oil คือ?

Cleansing Oil, สิว, คลีนซิ่งออยล์, สิวอุดตัน

Cleansing Oil คือ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ที่ประกอบด้วยส่วนผสมของน้ำและน้ำมัน มีคุณสมบัติช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรก ฝุ่นละออง รวมถึงเครื่องสำอางทั้งแบบปกติและแบบกันน้ำ ด้วยความที่มีส่วนผสมของน้ำมัน จึงช่วยคงความชุ่มชื้นและคงความมันตามธรรมชาติของผิวหน้าไว้ได้เป็นอย่างดี โดยไม่ทำให้ผิวหน้าแห้งกร้านหลังเช็ดทำความสะอาด

เหตุผลที่ควรใช้คลีนซิ่งออยล์

ทั้งหมดนี้เป็นข้อดีและเหตุผลที่คลีนซิ่งออยล์ควรเป็นหนึ่งในไอเทม ที่ควรมีในขั้นตอนการทำความสะอาดผิว

Cleansing Oil, สิว, คลีนซิ่งออยล์, สิวอุดตัน
  • คลีนผิวได้ไม่ง้อสำลี : การเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าจำเป็นต้องใช้คลีนซิ่งร่วมกับสำลี ซึ่งหากถูแรงจนเกินไป ก็อาจจะทำให้เกิดการเสียดสีระหว่างผิวกับสำลี ส่งผลให้สูญเสียเซลล์ผิวด้านบน และความชุ่มชื้นผิวถูกดึงออกไป อีกทั้งยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวและริ้วรอยก่อนวัยอีกด้วย แต่สำหรับการใช้คลีนซิ่งออยล์สามารถทำความสะอาดผิวได้ง่าย ๆ ด้วยการลูบเนื้อผลิตภัณฑ์ลงบนผิวหน้า จากนั้นนวดวนเบา ๆ ให้ทั่วผิวหน้า แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด เพียงเท่านี้ผิวก็สะอาดหมดจดโดยไม่ต้องง้อสำลีแล้วค่ะ นอกจากจะสะดวกต่อการใช้งานแล้ว ยังช่วยลดการเสียดสีได้เป็นอย่างดี
  • ทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน : คลีนซิ่งออยล์สามารถขจัดคราบเครื่องสำอาง ฝุ่นละออง และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ได้อย่างหมดจด โดยไม่ทำลายชั้นน้ำมันบนผิว และไม่ส่งผลกระทบกับระดับค่า pH ของผิว จึงไม่ทำให้ผิวแห้งกร้านและเกิดการระคายเคืองหลังเช็ดทำความสะอาด
  • จัดการสิ่งสกปรกได้อย่างหมดจด : นอกจากจะช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกบนผิวหน้าแล้ว คลีนซิ่งออยล์ยังมีคุณสมบัติในการขจัดคราบเครื่องสำอางได้อย่างล้ำลึกและหมดจด ไม่เว้นแม้แต่เครื่องสำอางกันน้ำที่เช็ดออกยาก โดยเนื้อออยล์จะแทรกซึมลึกเข้าไปในรูขุมขน พร้อมละลายเมคอัพและสิ่งสกปรกให้หลุดออกอย่างง่ายดาย
  • ช่วยคงความชุ่มชื้นให้ผิว : หากใครเคยมีประสบการณ์ใช้คลีนซิ่งแล้วผิวแห้งกร้าน แนะนำให้ลองเปิดใจให้กับคลีนซิ่งออยล์ที่สามารถทำความสะอาดผิวได้โดยไม่ทำลายสมดุลน้ำมันและค่า pH ตามธรรมชาติของผิว พร้อมล็อกความชุ่มชื้นไว้ในผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงไม่ทำให้ผิวแห้งกร้านหลังเช็ดทำความสะอาด อีกทั้งยังช่วยบำรุงให้ผิวหน้าเนียนนุ่มขึ้นด้วย
  • รักษาสมดุลความมันบนใบหน้า : เชื่อว่ามีหลายคนยังเข้าใจผิดว่าการใช้คลีนซิ่งออยล์จะยิ่งเพิ่มความมันบนผิวหน้า ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวและอุดตันผิว แต่จริง ๆ แล้วนอกจากจะไม่ทำให้หน้ามันเพิ่มแล้ว คลีนซิ่งออยล์ยังช่วยสร้างความสมดุลให้ผิว และควบคุมการผลิตน้ำมันบนผิว ทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้น ดูสุขภาพดี

ใช้ Cleansing Oil แล้วสิวอุดตันบุก เพราะอะไร?

เคยสงสัยกันมั้ยว่าทำไมบางคนใช้คลีนซิ่งออยล์แล้วหน้าสะอาดใส แต่บางคนใช้แล้วสิวอุดตันบุกหนักมาก ในหัวข้อนี้เราเลยจะพาทุกคนมาหาคำตอบ พร้อมเปิดเรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับคลีนซิ่งออยล์กันค่ะ

Cleansing Oil, สิว, คลีนซิ่งออยล์, สิวอุดตัน
  • เลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว : มีคนจำนวนไม่น้อยประสบปัญหาใช้คลีนซิ่งออยล์แล้วสิวขึ้น โดยเฉพาะสิวผดและสิวอุดตัน ซึ่งมีสาเหตุจากน้ำมันในคลีนซิ่งออยล์บางประเภท เมื่อไปรวมตัวกับสิ่งสกปรกในรูขุมขนก็อาจก่อให้เกิดการอุดตันตามมาได้ โดยปัญหานี้จะพบมากในผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ผิวมันและผิวผสม ทางออกที่ดีที่สุดคือการเลือกใช้คลีนซิ่งออยล์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันประเภทที่มีโอกาสอุดตันน้อย เช่น โจโจ้บาออยล์ (Jojoba Oil) และน้ำมันเมล็ดองุ่น (Grape Seed Oil) เป็นต้น หรือมองหาผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า Non-Comedogenic ปราศจากส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขน
  • แพ้ส่วนผสมบางประเภท : สำหรับใครที่มีปัญหาสิวตั้งแต่ครั้งแรกที่เริ่มใช้คลีนซิ่งออยล์ หรือมีอาการผิดปกติ เช่น รู้สึกแสบคัน ผิวแห้งลอก มีผื่นแดงหรือตุ่มแดงเล็ก ๆ ขึ้นบนใบหน้า นั่นอาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณกำลังแพ้ส่วนผสมบางประเภท หรือผลิตภัณฑ์นั้น ๆ มีส่วนผสมของสารก่อระคายเคือง อาทิ พาราเบน (Parabens) ซัลเฟต (Sulfate) แอลกอฮอล์ (Alcohol) และน้ำหอม (Perfume) เป็นต้น
  • ใช้คลีนซิ่งออยล์ผิดวิธี : บางคนอาจไม่ได้แพ้แต่ตกม้าตาย เพราะใช้คลีนซิ่งออยล์ผิดวิธี เช่น หลังจากนวดเนื้อผลิตภัณฑ์ลงบนผิวแล้วใช้มือวักน้ำล้างหน้าทันที โดยไม่นวดซ้ำเพื่อให้ออยล์เปลี่ยนเป็นเนื้อน้ำนม ซึ่งอาจทำให้ออยล์ตกค้างอยู่บนผิวและเกิดการอุดตันตามมาได้ หรือบางคนอาจใช้สำลีเช็ดทำความสะอาดผิวหน้า หลังจากนวดเนื้อผลิตภัณฑ์บนผิว ทำให้เกิดการเสียดสีระหว่างผิวหน้าและสำลี และการไม่ใช้โฟมล้างหน้าล้างทำความสะอาดผิวอีกครั้ง หลังจากทำความสะอาดผิวหน้าด้วยคลีนซิ่งออยล์ เป็นต้น

4 Steps ใช้ Cleansing Oil อย่างถูกต้อง

Cleansing Oil, สิว, คลีนซิ่งออยล์, สิวอุดตัน
  • Step 1 : ปั๊มคลีนซิ่งออยล์ประมาณ 3 - 4 ครั้ง ลงบนฝ่ามือแห้งหมาด จากนั้นวอร์มเนื้อผลิตภัณฑ์ด้วยการถูมือทั้งสองข้างไปมา
  • Step 2 : ใช้ปลายนิ้วแตะที่เนื้อผลิตภัณฑ์แล้วแต้มคลีนซิ่งออยล์ให้ทั่วผิวหน้า จากนั้นใช้ปลายนิ้วนวดวนเบา ๆ ให้ทั่วใบหน้า
  • Step 3 : ใช้มือแตะน้ำสะอาดแล้วนวดวนเบา ๆ ให้ทั่วใบหน้าอีกครั้ง จนออยล์เปลี่ยนเป็นเนื้อน้ำนมสีขาวนวล ขั้นตอนนี้จะเป็นการชำระล้างคราบเครื่องสำอาง ฝุ่นละออง และสิ่งสกปรกให้หลุดออกโดยไม่ต้องใช้สำลีเช็ด
  • Step 4 : ล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด แล้วซับหน้าให้แห้งด้วยผ้าขนหนู เพียงเท่านี้ผิวหน้าก็สะอาดหมดจด ไร้สิวอุดตันกวนใจ

เลือก Cleansing Oil อย่างไรให้เหมาะกับผิว

หลายคนมักจะเข้าใจผิดว่าคลีนซิ่งออยล์ไม่เหมาะกับคนผิวมัน เพราะจะยิ่งเพิ่มความมันบนใบหน้า แต่ความจริงแล้วคลีนซิ่งออยล์เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่เหมาะกับทุกสภาพผิว ไม่เว้นแม้แต่ผิวมันและผิวผสม เพียงแค่ต้องเลือกเนื้อสัมผัสและส่วนผสมให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง

Cleansing Oil, สิว, คลีนซิ่งออยล์, สิวอุดตัน
  • ผิวมัน - ผิวผสม : สำหรับคนผิวมันและผิวผสมที่กังวลเรื่องการอุดตันของผิว ควรเลือกคลีนซิ่งออยล์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันประเภทที่มีโอกาสอุดตันน้อย เช่น โจโจ้บาออยล์ (Jojoba Oil) และน้ำมันเมล็ดองุ่น (Grape Seed Oil) เป็นต้น หรือมองหาผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า Non-Comedogenic ปราศจากส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขน
  • ผิวแห้ง : คนผิวแห้งสามารถเลือกใช้คลีนซิ่งออยล์ได้ทุกประเภท แต่ต้องหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่อาจก่อการระคายเคืองต่อผิว เช่น พาราเบน (Parabens) ซัลเฟต (Sulfate) แอลกอฮอล์ (Alcohol) และน้ำหอม (Perfume) เป็นต้น
  • ผิวบอบบางแพ้ง่าย : ผิวบอบบางแพ้ง่ายจะต้องให้ความสำคัญกับการเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวมากเป็นพิเศษ ควรเลือกคลีนซิ่งออยล์ที่ผลิตจากไขมันหรือน้ำมันจากธรรมชาติ ที่มีความใกล้เคียงกับชั้นไขมันของผิวเรามากที่สุด เพื่อคงความชุ่มชื้นของผิวหน้าไว้ จึงไม่ทำให้ผิวแห้งกร้านและเกิดการระคายเคืองหลังเช็ดทำความสะอาดผิว อีกทั้งยังต้องปราศจากสารก่อการระคายเคืองทุกชนิดด้วย

หลังจากทำความรู้จักกับคลีนซิ่งออยล์กันไปแล้ว หวังว่าจะทำให้ใครหลาย ๆ คนที่กำลังกังวลกับการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวประเภทนี้อยู่สบายใจขึ้นได้นะคะ เพราะต้องบอกเลยว่าคลีนซิ่งออยล์ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ในทางกลับกันยังมีข้อดีมากมาย ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทุกคนควรเปิดใจลองใช้