เสียงคือคลื่นสัญญาณไฟฟ้าที่ถูกส่งไปยังสมองโดยตรง การฟังเพลงและคลื่นเสียงก็เหมือนกับได้ออกกำลังกายสมอง ส่งคลื่นไฟฟ้าไปยังสมอง กระตุ้นการทำงาน อารมณ์ รวมไปถึงความจำ ซึ่งสมองแต่ละส่วนก็ทำงานต่างกันไป
ดังนั้นเพลงที่ต่างกันก็จะไปช่วยกระตุ้นสมองต่างส่วนกันด้วย งานแต่ละประเภทจึงควรเลือกฟังเพลงและคลื่นต่างกัน เพื่อกระตุ้นสมองให้ถูกส่วนนะคะ เพราะหากเลือกเพลงหรือคลื่นเสียงได้ตรงประเภทงานแล้ว Productivity หรือผลงานก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย ส่วนเพลงและคลื่นเสียงแบบไหนช่วยเรื่องอะไรบ้าง และเหมาะเปิดฟังตอนทำงานอะไรบ้าง เตรียมหูฟังให้พร้อมแล้วตามมาเลยค่า
Classic Music ตัวช่วยชั้นเริดสำหรับงานใช้ตรรกะและความจำ
เพลงคลาสสิกเหมาะกับงานที่ต้องใช้ตรรกะในการคิดแก้ปัญหา การคำนวณตัวเลขเยอะ ๆ เพราะเพลงและคลื่นเสียงแบบนี้จะกระตุ้นความคิดและความจำได้เป็นอย่างดี แถมยังกระตุ้นอารมณ์ให้ผ่อนคลายขึ้นด้วย และใช่....นั่นหมายความว่าเพื่อน ๆ จะแก้โจทย์ คำนวณตัวเลข เพิ่ม Productivity ด้านตัวเลขกันอย่างเต็มที่
Source : 1
Nature Music ผ่อนคลายสมองเมื่อต้องทำงานยาว ๆ
ไม่ว่าจะเป็นงานประเภทไหน ถ้าต้องทำต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง เราอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ พักสมองด้วยเสียงธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตก ฝนตก นกร้อง เพราะสมองจะผ่อนคลายเป็นที่สุด อาการปวดหัวจากความเครียดจะลดต่ำลง จากนั้นกระบวนการคิดก็จะเริ่มกลับเข้ารูปเข้ารอย สติไม่กระเจิงอีกต่อไป ช่วยให้มีสมาธิจดจ่อกับงานมากขึ้น แล้ว Productivity เพื่อน ๆ ก็จะกลับมาสูงเช่นเดิม
Source : 1
White Noise กันเสียงรบกวนรอบข้าง โฟกัสได้มากขึ้น
ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อนะคะว่าเสียง White Noise หรือเสียงรอบ ๆ ตัวอย่างเช่น เสียงในร้านกาแฟ เสียงเครื่องบิน รถไฟ พัดลม เครื่องซักผ้า จะช่วยเป็นกำแพงเสียงกันเสียงอื่น ๆ ไม่ให้รบกวนสมาธิของเราได้ แถมยังเพิ่ม Productivity ได้ด้วย นั่นเพราะว่าเสียงเหล่านี้ดังในโทนที่ใกล้เคียงกันและสม่ำเสมอ สมองเราจึงผ่อนคลายและมีสมาธิมากยิ่งขึ้น ถ้าต้องคิดงานสร้างสรรค์หรือทบทวนแผนงาน เพลงแนวนี้เหมาะมาก!
Source : 1
Epic Music ปลุกพลังการเคลียร์งานกองโต
ถ้ารู้สึกว่าวันนี้ช่างยาวนานเหลือเกิน แก้งานมาทั้งวันแล้ว แต่ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะเสร็จเสียที Productivity ก็ต่ำเตี้ยเรี่ยดินเหลือเกิน ขอแนะนำให้เปิดเพลงหรือคลื่นเสียงแนว Epic Music เพราะมันกระตุ้นพลังได้ดีมาก ๆ รู้สึกฮึกเหิมมากจนเห็นงานตรงหน้าเป็นเรื่องเล็กขี้ปะติ๋วไปเลย ถ้าหากว่าเพื่อน ๆ ต้องเคลียร์งานกองโตเท่าภูเขา ขอให้รีบเปิดเพลงแนวนี้ให้กระหึ่มไปเลยค่ะ
Source : 1
Game Music สำหรับงานออกแบบและวางแผนสุดท้าทาย
งานออกแบบและวางแผนมักท้าทายอยู่เสมอ สมองต้องคิดอะไรนอกกรอบและท้าทายตัวเองอยู่เสมอ เพื่อให้ผลงานโดดเด่นเหนือใคร ๆ ดังนั้นเพลงที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นสมองให้ตื่นเต้นท้าทายก็เห็นจะไม่พ้นเพลงประกอบเกมต่าง ๆ เพราะแต่ละบีทจะกระตุ้นการเต้นของหัวใจและสมองไปพร้อม ๆ กัน เริ่มจากช้า ๆ เบา ๆ ไปจนกระทั่งถึงจุดพีคสุด ส่งผลให้เพื่อน ๆ กล้าคิดและทำในสิ่งที่คิดว่าทำไม่ได้ยังไงล่ะ
Source : 1
Pump Up Song บีทแรง ๆ กับงานและการแข่งสุดหิน
เพลงบีทแรง ๆ จะกระตุ้นสมองให้ฮึกเหิมแบบสุดพลัง เพิ่มแรงกายและแรงใจเต็มแม็กซ์จนถึงขีดสุด จึงเหมาะกับวันที่ต้องนำเสนองานชิ้นใหญ่ สัมภาษณ์ต่าง ๆ รวมไปถึงเหมาะสำหรับนักกีฬาที่ต้องลงแข่งด้วย และใช่ค่ะ ยังรวมไปถึงตอนออกกำลังกายในฟิตเนสด้วยค่ะ รับรองเลยว่า Productivity ของคุณจะพุ่งทะลุปรอทเลย!
Source : 1
Ambient Music ตัวช่วยงานที่เน้นสมาธิ ใช้สมองเยอะและนาน
แอมเบียนต์ (Ambient) คือเพลงที่เน้นเสียงมากกว่าโน้ตหรือเสียงร้อง มักเป็นเมโลดี้เรียบ ๆ แต่เน้นบรรยากาศโดยรอบ เหมือนเพลงที่เปิดคลอเบา ๆ ไม่หวือหวา ไม่โหวกเหวก สมองจึงรู้สึกสบาย ๆ ไม่ถูกกดดัน ไม่ถูกบังคับให้ต้องทำงานหนัก ๆ แม้ว่าความจริงจะใช้งานหนักมากก็ตาม เพื่อน ๆ จะรู้สึกปลอดโปร่ง มีสมาธิ ทำงานที่เน้นสมาธิได้อย่างต่อเนื่องและนานมาก ๆ ถ้ารู้ว่าต้องลุยงานยาว ๆ ต้องเปิดเพลงแนวนี้เพิ่ม Productivity ไปเลย!
Source : 1
Instrumental Music เสริมทัพตอนทำงานเน้นความละเอียด
ถ้าต้องทำงานด่วนจี๋ล่ะก็ ขอให้เลือกเพลงแนวบรรเลงไม่มีเนื้อร้องเป็นอาวุธคู่กายนะคะ เพราะเพลงแนวนี้เปรียบเสมือนยาระงับประสาทที่ช่วยให้กังวลน้อยลง ประหม่าน้อยลง วิตกน้อยลง สิ่งที่เหลือก็คือสมาธิอันแน่วแน่ บวกกับยังช่วยกระตุ้นความจำได้ดีเป็นเลิศด้วย ไม่ว่างานละเอียดขนาดไหนก็ไม่พลาด แถมถ้าเปิดฟังตอนสอบ คะแนนก็อาจเพิ่มขึ้นด้วยนะคะ Productivity ขั้นสุดเลย!
Source : 1
Tibetan Meditation Sound เพิ่มสมาธิขั้นสูง พร้อมรับมืองานยาก
เชื่อว่าเพื่อน ๆ ที่เป็นชาวพุทธคงจะคุ้นเคยกับเสียงแนวนี้เป็นอย่างดี เพราะ Tibetan Meditation Sound คือเสียงเคาะขันหรือระฆังตอนทำสมาธิยังไงล่ะ อย่าประเมินเสียงนี้ต่ำเพราะความเคยชินนะคะ เสียงนี้ช่วยสร้างสมาธิได้เป็นอย่างดี ก็แน่ละซิ เพราะใช้ตอนนั่งสมาธิใช่มั้ยคะ แต่เท่านั้นยังไม่พอ เพราะเมื่อเราเข้าสู่สมาธิขั้นสูงแล้ว สัญชาตญาณการรับรู้ของเราจะเพิ่มมากขึ้น สมองปลอดโปร่ง มีสติ จึงจัดการงานยาก ๆ ได้เป็นขั้นเป็นตอน ไม่ล่ก ไม่วอกแวก และไม่เสียสติไปเสียก่อน นอกจากจะได้ Productivity กลับมาแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยแล้ว งานยังเนี้ยบเป๊ะเว่อร์ด้วย
เพื่อน ๆ ก็คงเลือกเพลงที่จะช่วยกระตุ้นสมองให้ทำงานได้มากกว่าเดิมแล้วใช่มั้ยคะ แต่อย่าลืมว่าต้องเปิดเพลงด้วยความดังที่เหมาะสมด้วย หากเปิดเบาหรือดังไป เพลงและคลื่นเสียงเหล่านั้นอาจจะกลายเป็นอุปสรรคแทนได้นะคะ