หลายคนมักมีคำถามและมีข้อสงสัยว่า “ของใช้ในชีวิตประจำวันต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อกันหนาว กางเกงยีนส์ ผ้าเช็ดตัว ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน หรือแม้แต่แปรงแต่งหน้า มันต้องใช้ไปกี่ครั้ง กี่วันถึงจะซักกันนะ” วันนี้ Wongnai Beauty เลยขออาสาพาทุกคนไปไขข้อสงสัยว่าจริง ๆ แล้วของใช้ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันของเรา อะไรควรใช้กี่ครั้งถึงจะซัก เพื่อสุขอนามัยที่ดี ไปดูกันเลย!
หมวดเสื้อผ้า
- เสื้อใน กางเกงใน ถุงเท้า : สำหรับเมืองหนาวอาจใส่ซ้ำได้อย่างไม่มีปัญหา แต่บ้านเรามันเมืองร้อน เหงื่อออก แบคทีเรียสะสม มีความสกปรกมากกว่าจึงควร ซักทุกครั้ง หลังสวมใส่ค่ะ และควรซักด้วยมืออย่างทะนุถนอมเพื่อป้องกันการเสียทรง และการยืดค่ะ
- ชุดนอน : เชื่อว่าหลายคนใส่ชุดนอนซ้ำอย่างน้อยก็ 2 ครั้งละ เพราะคิดว่าแค่ใส่นอนเฉย ๆ คงไม่สกปรกอะไร แต่ความจริงแล้วเวลาเรานอนอาจมีคราบเหงื่อและความชื้นจากร่างกายออกมาเลอะชุดนอน ซึ่งเป็นสาเหตุของการสะสมของแบคทีเรียต่าง ๆ ฉะนั้นแนะนำให้ ซักทุกครั้ง หลังสวมใส่ค่ะ
- เสื้อกันหนาวแบบบาง : เช่น สเวตเตอร์ ด้วยอากาศที่ร้อนอย่างบ้านเราคงไม่ค่อยได้หยิบเสื้อกันหนาวมาใส่ ฉะนั้นซักเดือนละครั้งก็ได้ค่ะ แต่สำหรับใครที่ใส่ทุกวันควรจะ ซักทุก 1 สัปดาห์ ค่ะ
- เสื้อกันหนาวแบบหนา : เช่น เสื้อแแจ็กเก็ต เสื้อโค้ต หรือเสื้อขนเป็ด สามารถใส่ได้จนหมดฤดูกาล หรือ ซักเดือนละ 1 ครั้ง
- เสื้อคลุมชั้นนอก : เสื้อสูท หรือเสื้อคลุมแบบบาง ๆ สามารถใส่ได้ถึง 5 ครั้ง แต่สำหรับเสื้อยีนส์ สามารถใส่ได้ 1-2 เดือนแล้วค่อยซัก แต่ต้องเอาออกมาตากแดดเพื่อขจัดกลิ่นอับ และฆ่าเชื้อแบคทีเรียบ้างนะ
- กางเกงยีนส์ : ทุกคนรู้ไหมคะว่า CEO ของบริษัทกางเกงยีนส์ยักษ์ใหญ่อย่างลีวายส์ (Levi’s) เค้าไม่แนะนำให้ซักกางเกงยีนส์บ่อยค่ะ เพราะการซักแต่ละครั้งต้องใช้น้ำจำนวนหลายลิตร ฉะนั้นควร ซักหลังใส่แล้ว 5-6 ครั้ง
หมวดผ้าขนหนู
ในความเป็นจริงพวกผ้าขนหนูที่ใช้เช็ดตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย แบคทีเรียจะสะสมได้ง่าย และอาจก่อให้เกิดโรคผิวหนังตามมาได้ ฉะนั้นซักบ่อยเท่าไรยิ่งดีค่ะ แต่เราคงไม่มีเวลาว่างซักทุกวันจริงไหมคะ งั้นไปดูกันค่ะว่าต้องใช้ไปอย่างน้อยกี่ครั้ง กี่วันถึงจะซัก
- ผ้าเช็ดหน้า : ซักทุกครั้งหลังใช้
- ผ้าเช็ดผม : ซักหลังใช้ 3-5 ครั้ง
- ผ้าเช็ดตัว : ซักหลังใช้ 3-5 ครั้ง
- ผ้าเช็ดเท้า : ซักทุก 1-2 สัปดาห์
- ผ้าขี้ริ้ว : สำหรับผ้าขี้ริ้วบางคนอาจจะไม่เคยซักเลย เพราะคิดว่าเอาไว้เช็ดพวกสิ่งสกปรก ซักไปก็สกปรกอยู่ดี ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดมาก! มันควรซักทุกครั้งหลังการใช้ค่ะ
หมวดเครื่องนอน
เนื่องจากของใช้หมวดเครื่องนอนเป็นของชิ้นใหญ่ การนำไปซักแต่ละครั้งค่อนข้างลำบากไปสักนิดนึง ทำให้หลายคนขี้เกียจ และดองไว้นานกว่าจะซัก ช่างเป็นอะไรที่ไม่ถูกสุขอนามัยเอาเสียเลย ดังนั้นสละความขี้เกียจทิ้งไป แล้วไปดูกันดีกว่าว่าเครื่องนอนแต่ละชิ้น ใช้กี่วันถึงจะซัก
- ปลอกหมอน : จริง ๆ ปลอกหมอนซักบ่อย ๆ จะดีมากค่ะ เพราะปลอกหมอนถือเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวได้ แต่ถ้าไม่มีเวลาซักทุกวัน อย่างน้อยก็ควรซักทุก 1 สัปดาห์ค่ะ
- ผ้าปูที่นอน : ซักทุก 1 สัปดาห์
- ผ้าห่ม : ซักทุก 1-2 สัปดาห์
- ผ้าคลุมเตียง : ซักทุก 1 สัปดาห์
- หมอน : ซักทุก 1-3 เดือน
อุปกรณ์แต่งหน้า
แปรงแต่งหน้า
- แปรงลงรองพื้น แปรงลงคอนซีลเลอร์ แปรงปัดแก้ม : แปรงเหล่านี้จะสัมผัสกับผิวหน้าโดยตรง ฉะนั้นควรทำความสะอาด ทุก 1-2 สัปดาห์ เพื่อลดโอกาสการเกิดสิว
- แปรงเขียนคิ้ว แปรงทาปาก : ทำความสะอาดทุก 1-2 สุปดาห์
- แปรงอายแชโดว์ แปรงอายไลเนอร์ : เนื่องจากตาเป็นอวัยวะที่สำคัญ แถมเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียได้ง่าย ฉะนั้นเราควรทำความสะอาดแปรงที่ใช้บริเวณรอบดวงตาให้บ่อยที่สุด หรืออย่างน้อยหลังใช้ 5 ครั้ง
ฟองน้ำ : ทำความสะอาดทุกครั้งหลังใช้ หรือวันเว้นวัน
พัฟฟ์ : ทำความสะอาดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง แต่เดี๋ยวนี้เค้ามีพัฟฟ์ขายแยกแบบจำนวน ๆ เยอะแล้วนะ ซึ่งเราสามารถใช้แล้วเปลี่ยนทิ้งได้ทุกสัปดาห์ ไม่ต้องทำความสะอาดให้ยุ่งยากเลย
คราวนี้ก็รู้แล้วใช่ไหมคะว่าของใช้แต่ละอย่าง อะไรใช้ไปกี่ครั้ง กี่วันถึงควรจะซัก ซึ่งของบางอย่างเนี่ยอาจจะต้องซักบ่อยสักนิดนึง แต่สาว ๆ ก็อย่าเพิ่งขี้เกียจกันนะคะ หันมาขยันซักของใช้บ่อย ๆ เพื่อสุขอนามัยที่ดีทั้งของตัวเราเอง และคนในครอบครัวค่ะ
บทความแนะนำ