ช่วงที่โรค COVID-19 กำลังดุเดือดแบบนี้ เชื่อว่าสาว ๆ ที่อยู่ออฟฟิศเขตในเมืองหรือแนวรถไฟฟ้าคงเริ่มได้รับคำสั่งให้ Work From Home เพื่อลดความเสี่ยงในการเผชิญโรคระบาดกันใช่มั้ยล่ะคะ โรคระบาดก็กลัว แต่งานก็ยังต้องส่ง วันนี้ Wongnai Beauty มาแชร์เทคนิคสำหรับชาวออฟฟิศ ทำยังไงให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพเหมือนอยู่ออฟฟิศ แถมชิลกว่าเพราะได้อยู่กับบ้าน ไปดูกันเลยยยย
ตื่นให้ทันเวลางาน
สวรรค์อย่างนึงในการ Work From Home ของหลายคนก็คือการได้ตื่นสายนี่แหละค่ะ แต่เพื่อการ Work From Home ไม่ควรตื่นสายจนเกินเวลาเข้างานไปนะคะ เอาให้มีเวลาอาบน้ำ แต่งตัว ทานข้าวเช้า แล้วได้เริ่มทำงานในเวลางานปกติจะดีกว่า
ไม่ทำงานในชุดนอน
ต้องบอกเลยว่าแม้ว่าเราจะ Work From Home ไม่มีใครรู้หรอกว่าเราอยู่ในชุดนอน แต่สาว ๆ ควรพยายามทำให้ตัวเองอยู่ในสภาพที่พร้อมทำงานจะดีกว่าค่ะ เพื่อกระตุ้นให้ตัวเองอยากทำงาน แทนที่จะรู้สึกง่วงงุนไปตลอดวันจนเสียงานหมด
อยู่ห่างจากเตียง
แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ชุดนอนหรอกค่ะ ส่ิงที่ควรระวังในการ Work From Home ก็คือเตียงของเรานี่แหละ ถ้าใครเคยเป็นในสมัยเรียนหนังสือที่เมื่อเริ่มเข้าใกล้เตียงเมื่อไหร่ ก็พร้อมจะล้มตัวลงนอนได้ทันที ขอบอกว่าในชีวิตการทำงานก็ไม่ต่างกันนักค่ะ
เคลียร์โต๊ะทำงานให้โล่ง
อีกหนึ่งเทคนิคในการ Work From Home ให้ได้ประสิทธิภาพก็เหมือนกับเวลาอยู่ออฟฟิศนั่นแหละค่ะ ควรเคลียร์โต๊ะรก ๆ ให้โล่ง เพื่อให้ไม่รู้สึกถึงความยุ่งเหยิง กระตุ้นให้อยากทำงานมากขึ้นนั่นเอง ถือโอกาสได้เก็บโต๊ะทำงานที่บ้านไปในตัวด้วยนะ
ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน
ข้อนี้จะบอกว่าสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ เลยก็ได้นะ ในการ Work From Home ด้วยความในวันนั้นที่เราจะกลายเป็นนายตัวเองไปโดยปริยาย ควรจะลิสต์มาเลยค่ะว่าใน 1 วัน เราต้องการให้งานชิ้นไหนเสร็จบ้าง ทำเช็กลิสต์มาเลยค่ะ
สัญญาณเน็ตต้องเร็วชัวร์
แน่นอนว่าในการ Work From Home สิ่งที่บริษัทอาจไม่ได้จัดหาให้ก็คืออินเทอร์เน็ตค่ะ เอาให้ชัวร์ว่ามีสัญญาณที่เสถียร เพียงพอต่อการคุยงาน ส่งงาน หรือทำรีเสิร์ชต่าง ๆ ไม่ติดขัดในเวลาเร่งด่วนค่ะ
เช็กโปรแกรมทำงานให้ครบ
ในการ Work From Home เราจะไม่มีการประชุมหรือคุยงานแบบปากเปล่ากันอีกต่อไป จะเป็นการคุยกันทางออนไลน์เท่านั้น ดังนั้นอย่าลืมเช็กโปรแกรมที่ใช้คุยงาน เช่น Skype, Hangout, Workplace, Zoom มีปัญหาอะไรหรือเปล่า นอกจากนี้อย่าลืมเช็กโปรแกรมที่ใช้ทำงานกันด้วยค่ะว่าสามารถเปิดกับคอมที่บ้านของเราได้ปกติหรือไม่
จัดเวลาทานข้าว
ถึงแม้ว่าในการ Work From Home เราสามารถมีอิสระในการจะทำอะไรตอนไหนก็ได้ เวลาการทานอาหารไม่แน่นอนเหมือนตอนอยู่ออฟฟิศ แต่สาว ๆ ก็ควรวางแผนเอาไว้นะคะว่าจะทานมื้อเช้าตอนไหน ทานมื้อเที่ยงตอนไหน เป็นการสร้างวินัยให้เรานิด ๆ และลดความเสี่ยงของโรคที่มาจากการทานข้าวไม่ตรงเวลาค่ะ
Social Media ต้องพักก่อน
ไม่ต้องถึงกับบอกว่าเลิกไปเลย แต่เชื่อเถอะค่ะว่าการนั่งเล่น Facebook, Twitter, Instagram ในวันที่อยู่กับบ้านนั้นมันเพลินกว่าเวลาต้องเล่น ๆ หลบ ๆ เจ้านายที่ออฟฟิศเป็นไหน ๆ ทางที่ดีควรจำกัดเวลาการเล่น ไม่ต้องเปิดหน้าต่างเหล่านี้ทิ้งไว้ ให้เวลาตัวเองเล่นเฉพาะตอนพักหรืออยากเช็กข่าวสารบ้านเมืองก็พอค่ะ
ให้รางวัลตัวเองบ้าง
Work From Home นั้นต้องได้งานเสร็จตามเป้าก็จริง แต่ก็อย่ามัวแต่นั่งหน้าคอมค่ะ หากทำงานสำเร็จตามที่มอบหมายให้ตัวเอง อาจจะให้รางวัลตัวเองเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ทำงานเสร็จ 3 ใน 5 อย่าง แว่บไปดูซีรีส์ได้ 1 ตอน หรืองีบได้ 15 นาที หรือทานของหวานได้ 1 ชิ้น เป็นต้น
ติดต่อกับเพื่อนร่วมงานเสมอ ๆ
ในการ Work From Home ในงานหลายสาขามักจะต้องมีการแชร์ไอเดีย รับฟีดแบ็ก อัปเดตเรื่องราวที่จำเป็นกันเสมอ ถ้ามีปัญหาจะได้แจ้งให้ทีมทราบและหาแนวทางแก้ไข หรือถ้ามีอะไรด่วนเราจะได้ไม่พลาดค่ะ ข้อนี้ถ้าสาว ๆ คนไหนเป็นลูกทีมก็อย่าละเลยการคุยกับทีม ส่วนคนไหนเป็นหัวหน้าทีม ก็อย่าลืมจัด Conference Call ให้บ่อยครั้งเพื่อรักษาความสัมพันธ์ในทีมกันนะคะ โปรแกรมที่แนะนำก็คือ Skype, Hangout, Workplace, Zoom ขึ้นอยู่กับว่าโดยปกติแล้วทีมใช้โปรแกรมไหนคุยงานเลยค่ะ
เช็กข่าวสารที่จำเป็น
ไม่ใช่ว่าทำแต่งานค่ะ ในภาวะที่สังคมไม่ปกติอย่างการมีโรคระบาด สิ่งที่ควรทำเพื่อให้รู้เท่าทันโรคระบาดไปด้วยก็คือการติดตามข่าวสารอยู่เสมอ เพื่อดูแนวโน้มของการหยุดแพร่ของโรคระบาด นำไปสู่การยุติ Work From Home นั่นเองค่ะ
รู้เทคนิคในการ Work From Home แล้วอย่าลืมนำไปปรับใช้เพื่อให้งานของสาว ๆ ออกมามีประสิทธิภาพ ไม่ขาดตกบกพร่องกันค่ะ ถ้าเกิดว่าโชคดีทางบริษัทเห็นว่าการ Work From Home แบบนี้เวิร์คกว่าที่คิด ในช่วงสถานการณ์ปกติอาจจะได้มีการปรับให้ได้ Work From Home กันสัปดาห์ละครั้งแบบที่หลายบริษัทชอบทำกันก็ได้นะคะ
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่
