การปรับตัวของร้านอาหารยุค New Normal ที่เดลิเวอรีไม่ใช่แค่ทางเลือก !
  1. การปรับตัวของร้านอาหารยุค New Normal ที่เดลิเวอรีไม่ใช่แค่ทางเลือก !

การปรับตัวของร้านอาหารยุค New Normal ที่เดลิเวอรีไม่ใช่แค่ทางเลือก !

จากวิกฤติ COVID-19 ที่ผ่านมา มีร้านอาหารเปิดใช้งานเดลิเวอรีเพิ่มขึ้นกว่า 300% หากเพื่อน ๆ อยากจะปรับตัวมาเปิดเดลิเวอรีให้ทันยุค New Normal มาดูกันว่าต้องทำอย่าง
writerProfile
11 มิ.ย. 2020 · โดย
  • วิกฤติ COVID-19 เข้ามาเป็นตัวเร่งให้ทุกคนก้าวเข้าสู่โลกออนไลน์ ทำให้เกิด New Normal ที่ผู้คนต่างคุ้นชินกับการใช้บริการเดลิเวอรีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
  • ร้านอาหารมีอัตราการเปิดใช้งานเดลิเวอรีเพิ่มขึ้นกว่า 300% ในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งเป็นเดือนที่มีประกาศใช้มาตรการ “ปิดร้านอาหาร” เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ COVID-19
  • ร้านประเภทอาหารกล่อง/ข้าวกล่อง ซึ่งเน้นการทำเดลิเวอรีเป็นหลัก ที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นสูงที่สุด ซึ่งสูงถึง 802% !

สำหรับร้านอาหารแล้ว หากพูดถึง “เดลิเวอรี” เมื่อก่อนอาจจะคิดว่าเป็นเพียงทางเลือกที่ใช้เพิ่มยอดขาย หรือเป็นอีกช่องทางที่ทำให้ร้านเข้าถึงลูกค้าให้มากขึ้น ซึ่งถ้าอยากจะเริ่มทำ ต้องใช้การปรับตัวค่อนข้างสูง อาจเป็นเรื่องยาก และเป็นสิ่งที่ยังไม่จำเป็นมากนักสำหรับบางร้าน

แต่เมื่อเกิดวิกฤติ COVID-19 ขึ้นมา เหตการณ์นี้ได้เข้ามาเป็นตัวเร่งให้ทุกคนก้าวเข้าสู่โลกออนไลน์ เรามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป อยู่ห่างกันมากขึ้น และใช้เทคโนโลยีในการสื่อสาร และการดำรงชีวิตมากขึ้น ซึ่งแม้ว่าขณะนี้สถานการณ์ COVID-19 จะดีขึ้นแล้ว แต่พฤติกรรมดังกล่าวก็ยังคงอยู่ เกิดเป็น “New Normal” ที่ผู้คนต่างคุ้นชินกับการใช้เทคโนโลยีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และหนึ่งในนั้นคือการใช้บริการเดลิเวอรี ซึ่งนั่นหมายความว่าต่อจากนี้เดลิเวอรีอาจไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นเพียงทางรอดของร้านอาหารในยุค New Normal นี้

จากข้อมูลทางสถิติที่ผ่านมา พบว่าในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเดือนที่มีประกาศใช้มาตรการ “ปิดร้านอาหาร” เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ COVID-19 ส่งผลให้มีร้านอาหารมีอัตราการเปิดใช้งานเดลิเวอรีเพิ่มขึ้นถึง 300% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของการเปิดเดลิเวอรีในปี 2019

10 อันดับประเภทร้านอาหารที่มีอัตราการเปิดใช้งานเดลิเวอรีมากที่สุ
ได้แก่

  • อาหารกล่อง/ข้าวกล่อง เดลิเวอรี เพิ่มขึ้น 802.4%
  • อาหารเหนือ เพิ่มขึ้น 612.0%
  • อาหารตามสั่ง เพิ่มขึ้น 590.7%
  • เบเกอรี / เค้ก เพิ่มขึ้น 558.7%
  • ติ่มซำ เพิ่มขึ้น 479.5%
  • ปิ้งย่าง/ชาบู เพิ่มขึ้น 468.0%
  • ของหวาน เพิ่มขึ้น 413.3%
  • อาหารเกาหลี เพิ่มขึ้น 398.3%
  • อาหารเช้า เพิ่มขึ้น 388.7%
  • พิซซ่า เพิ่มขึ้น 387.3%
5 อันดับประเภทร้านอาหารที่เปิดเดลิเวอรีมากที่สุดในช่วง COVID-19

จะเห็นร้านอาหารแทบทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นร้านเปิดมานานหรือเป็นร้านที่เพิ่งเปิดใหม่ในช่วง COVID-19 ก็ต่างปรับตัวเข้ามาใช้เดลิเวอรี เพื่อเอาตัวรอดกันทั้งนั้น โดยเฉพาะร้านประเภท “อาหารกล่อง/ข้าวกล่อง ซึ่งเน้นการทำเดลิเวอรีเป็นหลัก” ที่มีอัตราการเปิดใช้งานเดลิเวอรีเพิ่มขึ้นสูงถึง 802% แสดงให้เห็นว่าตอนนี้วงการเดลิเวอรีกำลังร้อนแรงมากทีเดียว

แม้กระทั่งร้านที่น่าจะปรับตัวลำบาก เพราะเป็นร้านที่มีจุดเด่นที่การทานที่ร้าน อย่าง “ปิ้งย่าง/ชาบู” ก็มีเปิดเดลิเวอรีเพิ่มขึ้นถึง 468% ในขณะเดียวกันลูกค้าเองก็เคยชินกับการสั่งอาหารในช่วงที่กักตัวอยู่ที่บ้าน หรือ Work From Home แม้ว่าตอนนี้กลับมาทำงานกันแล้ว แต่ยอดการสั่งเดลิเวอรีก็ยังสูงกว่าปกติอยู่ ดังนั้นเพื่อน ๆ กำลังลังเลอยู่ ว่าจะเปิดร้านเดลิเวอรีดีหรือไม่ คงต้องรีบตัดสินใจแล้วครับ เพราะตอนนี่อาจเป็นทางรอดทางเดียวในสงครามที่เดลิเวอรีได้เข้ามากลายเป็นส่วนหนึ่งของพฤติกรรมผู้บริโภคเรียบร้อยแล้ว

แล้วจะเริ่มทำเดลิเวอรีอย่างไร ?

อันดับแรกเลย เพื่อน ๆ ควรจะกลับมาวิเคราะห์ร้านตัวเองก่อน ว่าร้านเราขายอะไร เมนูไหนขายดี แล้วเหมาะกับเดลิเวอรีหรือเปล่า จากนั้นต้องคำนวนต้นทุนของแต่ละเมนู แล้วเลือกเมนูที่มี Margin สูงมาทำเดลิเวอรี เพื่อให้ทางร้านยังมีกำไร หลังจากหักต้นทุนแพ็คเกจจิ้ง ค่าขนส่ง หรือค่าบริการ GP เมื่อเข้าร่วมกันพาร์ทเนอร์เดลิเวอรี จากนั้นต้องเลือกแพ็คเกจจิ้งที่เหมาะสมกับประเภทของอาหาร รวมทั้งควรทดลองส่ง เพื่อสังเกตว่าอาหารที่ส่งไปยังอยู่ในสภาพที่ดี และมีรสชาติที่ดีพอหรือไม่ เพื่อรักษามาตราฐานของร้านเอาไว้

เมื่อตัดสินใจได้แล้ว ควรเริ่มศึกษาการทำเดลิเวอรี ว่าร้านของเพื่อน ๆ เหมาะกับเดลิเวอรีแบบใด หากเป็นร้านที่มีพนักงานน้อย ลูกค้าหน้าร้านเยอะ การเลือกเข้าร่วมกับพาร์ทเนอร์เดลิเวอรีที่ทำให้ทางร้านสามารถทำเดลิเวอรีได้อย่างสะดวกสบาย และยังทำให้ร้านเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นด้วย อย่างเช่น LINE MAN ที่ให้ทางร้านสามารถเข้าร่วมทำเดลิเวอรีได้ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หากเพื่อน ๆ สนใจก็สามารถดูวิธีการเปิดหน้าร้านบน LINE MAN ได้ที่นี่

แต่หากร้านของเพื่อน ๆ มีฐานลูกค้าประจำอยู่แล้ว หรือเป็นร้านที่พนักงานค่อนข้างเยอะ สามารถขับไปส่งลูกค้าได้ หรืออยู่ในจังหวัดที่ไม่มีพาร์ทเนอร์เดลิเวอรี อาจจะเลือกทำระบบเดลิเวอรีเป็นของร้านเอง เพื่อให้ทางร้านสามารถควบคุมค่าส่งและจัดการการส่งเองได้ ซึ่งฟีเจอร์ “Self Delivery” ตอบโจทย์มาก เนื่องจากทำให้ร้านสามารถรับออเดอร์จาก LINE OA ของทางร้าน ผ่านแอปฯ Wongnai Merchant App (WMA) โดยตรง พร้อมดูหลักฐานการชำระเงินและข้อมูลสถานที่ของลูกได้ได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาไปดูใน LINE ที่ละออเดอร์เลย ที่สำคัญคือใช้ฟรีถึงวันที่ 31 มิถุนายน หลังจากนั้นเสียค่าบริการระบบเพียง 5% เท่านั้น หากเพื่อน ๆ สนใจใช้ Self Delivery สามารถสมัครได้ที่นี่

การทำเดลิเวอรีจริง ๆ แล้วไม่ยากเลยครับ แอดมินอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ เจ้าของร้านอาหารรีบปรับตัวมาทำเดลิเวอรี เพื่อให้เราทุกคนก้าวเข้าสู่ยุค New Normal ไปด้วยกันนะครับ

ติดตามบทความเกี่ยวกับธุรกิจร้านอาหารเพิ่มเติม