หากเอ่ยถึงประเทศญี่ปุ่นแล้ว นอกจากเรื่องการท่องเที่ยวและอาหารที่โดดเด่น อีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนมักจะนึกถึงเวลาที่พูดถึงแดนปลาดิบแห่งนี้คงไม่พ้นเรื่องการออกแบบและการสร้างสรรค์นวัตกรรมสุดล้ำ ไม่ใช่แค่ขึ้นชื่อเรื่องแฟชั่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ยังให้ความสำคัญกับการออกแบบสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ รวมไปถึงบรรจุภัณฑ์หรือแพคเกจจิ้ง ซึ่งเรียกได้ว่า ดึงดูดสายตา ชวนให้อยากซื้อตั้งแต่แรกเห็น
แต่กว่าจะมามีแพคเกจจิ้งสวยๆ ดีไซน์สุดว้าวขนาดนี้ได้ ต้องล้วนผ่านกระบวนการคิดและออกแบบมาเป็นอย่างดี ให้ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานและความสวยงาม วันนี้เรามาส่องไอเดียการออกแบบแพคเกจจิ้งจากประเทศญี่ปุ่น พร้อมบอกต่อ 5 แนวคิดพื้นฐานที่ถูกนำมาปรับใช้ในการออกแบบแพคเกจจิ้งสไตล์ญี่ปุ่นกันดีกว่า!
1สังเกตพฤติกรรมผู้บริโภค
หนึ่งในพื้นฐานของการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จคือ การเข้าใจผู้บริโภคหรือกลุ่มเป้าหมายของสินค้า (Consumer Behaviour) ทางผู้ผลิตต้องรู้ว่าจะขายสินค้านี้ให้กับใครเป็นหลัก เพื่อจะได้ศึกษาต่อว่ากลุ่มเป้าหมายมีพฤติกรรมการบริโภคสินค้าอย่างไร ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้มีผลต่อการออกแบบแพคเกจจิ้งสินค้าต่างๆ แน่นอนว่ารวมถึงการออกแบบแพคเกจจิ้งของอาหารเดลิเวอรี่ด้วยเช่นกัน อาหารแต่ละแบบมีวิธีการทานแตกต่างกัน รูปแบบของแพคเกจจิ้งก็ต้องเอื้อต่อการทานหรือการจัดส่งด้วย
โดยหลายๆ บริษัทในญี่ปุ่นมักจะคำนึงถึงความโดดเด่นของสินค้าในตอนที่จัดอยู่บนชั้นวาง แค่แพคเกจจิ้งดูมีลูกเล่นในการใช้งานก็ทำให้ลูกค้าเลือกหยิบขึ้นมาดูได้ไม่ยาก และแน่นอนว่าบรรจุภัณฑ์เหล่านั้นไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงความง่ายในการบริโภคอีกด้วย ตั้งแต่การถือหิ้วไปจนถึงตอนที่แกะสินค้า เช่น ถ้วยบะหมี่สำเร็จรูปในญี่ปุ่นหลายๆ ยี่ห้อจะถูกออกแบบมาให้ง่ายต่อการถือเวลาเติมน้ำร้อน รวมถึงมีตะเกียบจัดเตรียมมาคู่กันให้พร้อมทานได้ทุกเมื่อ เป็นต้น
2คำนึงถึงความสะดวกในการใช้งาน
หลายๆ ครั้งที่ร้านอาหารต้องเสียลูกค้าไปอย่างง่ายดายด้วยเหตุผล กินลำบาก กินแล้วมือเปื้อน หกเลอะเทอะง่าย เรียกได้ว่าคงน่าเสียดาย ถ้าร้านของคุณจะต้องเสียโอกาสเพียงเพราะเหตุผลเหล่านี้ เพราะเรื่องความสะดวกเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของลูกค้าและมีผลต่อประสบการณ์ของผู้ใช้งาน (User Experience) เลยทีเดียว
แพคเกจจิ้งของสินค้าญี่ปุ่นมักจะมีลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆ ที่นอกจากจะสวยแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น เช่น รูปแบบของการเปิดถุงขนมที่ช่วยให้ล้วงหยิบขนมได้ง่ายขึ้นและยังสามารถปิดเก็บไว้กินต่อโดยที่ขนมไม่หกเลอะออกมา หรือการแนบช้อนเล็กๆ ไว้ในบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น ถือว่ามีความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เป็นอย่างมาก
ในมุมของร้านอาหารเองก็ควรออกแบบแพคเกจจิ้งให้สะดวกต่อการทานมากที่สุด โดยเฉพาะร้านประเภทสตรีทฟู้ด เพื่อไม่ให้ลูกค้ารู้สึกว่าการซื้ออาหารของเราจะเป็นภาระต่อเขาในภายหลัง
3ดีไซน์สื่อเรื่องราว
พื้นฐานของการออกแบบสไตล์ญี่ปุ่นมาจากการประยุกต์เอาองค์ประกอบของสิ่งรอบตัวมาใช้ เราจะเห็นรูปทรงแพคเกจจิ้งที่มีความเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยเรื่องราวของแบรนด์ผ่านการดีไซน์นั้น เช่น การเลือกใช้สีหรือรูปทรงเพื่อสื่อถึงเอกลักษณ์ความเป็นญี่ปุ่น หรือการสร้างกิมมิคเล็กๆ ที่ทำให้ผู้บริโภคจดจำแบรนด์ได้แม้จะเห็นบรรจุภัณฑ์เพียงแค่นิดเดียว
ควรออกแบบโดยเริ่มจากการดึงจุดเด่นของแบรนด์หรือสินค้านั้นๆ นึกถึงแรงบันดาลใจที่อยากบอกเล่า Mood and Tone ที่ต้องการ ตัวอย่างเช่น อยากให้ผู้บริโภคเห็นสินค้านั้นแล้วรู้สึกอย่างไร หากเป็นสินค้าที่มีระดับและราคาแพง รูปแบบแพคเกจจิ้งก็อาจจะดูเรียบหรู เลือกใช้สีที่ไม่ฉูดฉาดเกินไป แต่หากสินค้าเป็นขนมที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็ก รูปแบบแพคเกจจิ้งอาจมีตัวการ์ตูนที่สื่อถึงสินค้าประกอบในนั้น เล่นกับการทำ pop-up เล็กๆ ให้มีลูกเล่นน่าสนใจมากขึ้น เป็นต้น
4สวยแบบฉบับน้อยแต่มาก เรียบแต่โก้
ทุกวันนี้หากพูดถึงคำว่า minimal หรือสไตล์ที่มีความเรียบง่าย ประเทศญี่ปุ่นคงเป็นประเทศแรกๆ ที่หลายๆ คนนึกถึง หากเล่าในอีกแง่มุมหนึ่ง เราอาจพูดได้ว่าการออกแบบสไตล์ญี่ปุ่นนั้นมีความสุดขั้วฉีกไปในสองทาง
เราอาจจะเคยเห็นภาพโปสเตอร์ภาพยนตร์หรือแพคเกจจิ้งขนมที่มีตัวหนังสือเรียงราย ให้รายละเอียดครบแน่นเต็มกรอบ นอกจากนี้ยังเลือกใช้สีสดๆ เพื่อความโดดเด่น แต่ขณะเดียวกันอย่างที่ได้กล่าวในหัวข้อก่อนหน้านี้ รากฐานของการออกแบบสไตล์ญี่ปุ่นมาจากธรรมชาติหรือสิ่งรอบตัว การเลือกใช้โทนสีที่ถูกดึงมาจากสีของธรรมชาติ รวมไปถึงวัสดุที่ใช้สำหรับแพคเกจจิ้งอีกด้วย เช่น การนำกระดาษญี่ปุ่นมาพับในรูปแบบ Origami ซึ่งเป็นหนึ่งในศิลปะโบราณของญี่ปุ่น ที่แฝงไปด้วยความสมัยใหม่ในตัว เป็นต้น
5เทรนด์รักษ์โลก
ผลกระทบที่เกิดจาก Global warming หรือภาวะโลกร้อนในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทำให้หลายๆ บริษัทให้ความสำคัญกับแนวทางในการช่วยลดปัญหาโลกร้อนและการย่อยสลายวัสดุต่างๆ ที่ใช้ในการผลิตมากขึ้น เน้นเรื่องของการใช้วัสดุที่สามารถนำมารีไซเคิลได้หรือใช้เวลาย่อยสลายเพียงไม่กี่ปี ทำให้เริ่มมีการรณรงค์ลดใช้ถุงพลาสติกหรือกล่องโฟมมากขึ้น
การออกแบบแพคเกจจิ้งสไตล์ญี่ปุ่นจึงเริ่มนิยมใช้กล่องกระดาษหรือถุงกระดาษมากกว่า โดยเฉพาะการนำกระดาษที่มีกระบวนการผลิตจากธรรมชาติ ลักษณะคล้ายๆ กับกระดาษสา เช่น กระดาษวาชิ (Washi) ซึ่งผลิตจากเส้นใยพืชเป็นหลัก นอกจากมีความเรียบง่ายและสวยงามแล้วยังสื่อถึงเอกลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นผ่านลวดลายต่างๆ ได้ ที่สำคัญยังรักษ์โลกอีกด้วย
เห็นแบบนี้แล้ว กว่าจะมีแพคเกจจิ้งสวยๆ ออกมาได้ต้องผ่านทั้งกระบวนการคิดและออกแบบอย่างละเอียด เพราะแพคเกจจิ้งถือเป็นส่วนหนึ่งของสินค้าที่ผู้บริโภคจะได้เห็นเป็นสิ่งแรก ซึ่งทุกคนสามารถนำแนวคิดเหล่านี้ไปปรับใช้กับการออกแบบแพคเกจจิ้งอาหารได้เช่นกัน เพื่อสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้แก่ลูกค้าจนอยากกลับมาอุดหนุนร้านอาหารของคุณอีก!
และนอกจากบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามจนน่าจับจองเป็นเจ้าของแล้ว เจ้าของร้านอาหารที่อยากเสริมสร้างรายได้สุดปังให้มียอดออเดอร์สุดเลิศ อย่าลืมรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าด้วยระบบสะสมแต้มที่นับเป็นการตอบแทนสิ่งดีๆ สู่ลูกค้าของคุณด้วยของสมนาคุณต่างๆ มากมาย เรียนรู้เทคนิคการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ที่...
บทความ 5 กลยุทธ์สุดฮิต สร้างโปรโมชั่น มัดใจลูกค้า
บทความ เชื่อมต่อสิ่งดีๆ ของร้านคุณสู่ลูกค้าด้วย Wongnai Reward Card
สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารท่านใดสนใจ ระบบจัดการร้านอาหาร Wongnai POS สามารถลงทะเบียนและรับคำปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์กับ Wongnai ฟรี! คลิกที่นี่ได้เลย
ที่มาข้อมูล: http://bit.ly/2YphBI6, http://bit.ly/2Y6BVyh, http://bit.ly/2LGCg4r
