พอจะมีเวลาสัก 5 นาทีไหม ? เพราะวันนี้เราจะมาเผยเทคนิคการทอดสุดพิเศษ ไว้ใช้ในเมนูเด็ดต่าง ๆให้ถูกวิธี สามารถนำไปใช้ได้กับทุกบ้านทุกครัวเรือน! จะมือใหม่หัดเข้าครัวหรือมือเก่าจนเก๋าประสบการณ์รู้เอาไว้ก็ใช้เป็น

1ทอดปลาหมึก
ทอดยังไงไม่ให้แป้งหลุดจากเนื้อ ?
แม้การทอดปลาหมึกชุบแป้งทอดจะเป็นโจทย์ที่ไม่ง่ายสำหรับมือใหม่หัดเข้าครัว แต่ถ้าลองนำปลาหมึกไป "ลวก" ให้พอสุกเล็กน้อย เพื่อนำน้ำออกจากตัวปลาหมึก แล้วนำมาซับให้แห้ง คลุกแป้งแห้งหนึ่งครั้ง ก่อนนำไปชุบแป้งผสมน้ำแล้วนำไปทอดก็จะช่วยให้แป้งไม่หลุดได้

เคล็ดลับเพราะรักจึงบอก: เพราะในเนื้อปลาหมึกสดมีน้ำอยู่เป็นปริมาณมากการลวกให้สุก จะทำให้น้ำในปลาหมึกลดลงส่วนนึง ส่วนการชุบแป้งแห้งจะช่วยดูดซับน้ำที่จะออกมาจากเนื้อปลาหมึกอีกส่วนขณะทอดได้ดียิ่งขึ้น ทำให้แป้งไม่หลุดร่อนออกจากปลาหมึก

2ทอดอาหารแช่แข็ง
ทอดยังไงไม่ให้น้ำมันกระเด็น ?
แล้วคุณจะไม่โดนน้ำมันกระเด็นใส่ตอนทอดอีกต่อไป เพียงนำอาหารแช่แข็งออกจากช่องฟรีซ แล้วนำไป "เข้าไมโครเวฟ" ประมาณ 2 นาที ก่อนนำลงทอดในน้ำมัน ใช้ไฟกลาง จะทำให้อาหารสุกทั่วถึงพอดี

เคล็ดลับเพราะรักจึงบอก: การที่น้ำมันกระเด็นจากการทอดอาหารแช่แข็งเป็นเพราะ เมื่อเกล็ดน้ำแข็งที่ติดมากับอาหารลงไปสัมผัสกับน้ำมันที่ร้อนจัด น้ำแข็งจะละลายและระเหยอย่างรวดเร็ว กลายเป็นไอน้ำและแทรกตัวผ่านน้ำมันขึ้นมา ทำให้เกิดน้ำมันกระเด็น แต่ถ้าเราละลายอาหารแช่แข็งเล็กน้อยก่อนนำไปทอด จะช่วยลดการกระเด็นของนำมันได้ อีกทั้งยังช่วยให้อุณหภูมิของน้ำมันคงที่มากกว่าทอดตอนที่ยังแข็งอยู่ ทำให้อาหารสุกอย่างทั่วถึง

3ทอดหมู
ทอดยังไงไม่ให้เนื้อแข็งกระด้าง ?
มีวิธีง่าย ๆ โดยเลือกใช้สันคอหมู หั่นชิ้นหนาพอดีคำ แล้วนำไปหมักกับเครื่องปรุง "ผงฟู" และแป้งข้าวโพดคลุกให้เข้ากัน ทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมงนอกตู้เย็น แล้วนำไปทอด จะได้เนื้อหมูนุ่ม ไม่แข็งกระด้าง

เคล็ดลับเพราะรักจึงบอก: เบคกิ้งโซดาหรือผงฟูนั้น ส่งผลทำให้เนื้อหมูที่หมักมีความสามารถในการอุ้มน้ำสูงกว่าเนื้อหมูที่ไม่ได้ผ่านการหมัก อีกทั้งเมื่อผงฟูที่แทรกอยู่ในเนื้อหมูได้รับความร้อนจากการทอดแล้วจะทำให้เกิดฟองแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้น ทำให้โครงสร้างทางกายภาพของเนื้อหมูนั้นมีความพรุน จากฟองแก๊สดังกล่าว ซึ่งมีผลทำให้ผิวสัมผัสของเนื้อหมูนั้นมีความนุ่ม และไม่แข็งกระด้าง

4ทอดเบคอน
ทอดยังไงให้สวยไม่หงิกงอ ?
เบื่อไหม ? ทอดเบคอนกี่ทีก็ไม่มีทีท่าจะตรงสวยเหมือนที่เคยเห็นตามร้านอาหาร วิธีช่วยง่าย ๆ ลองนำเบคอน "จุ่มนมสด" ทั่วแผ่น ใช้ไฟปานกลางตอนทอด และใช้น้ำมันเพียงเล็กน้อยหรือไม่ใช้เลยก็ได้จะช่วยให้เบคอนที่ทอดมีรูปทรงสวยงาม ไม่หงิกงอ

เคล็ดลับเพราะรักจึงบอก: โดยปกติแล้วเวลาทอดเบคอน เบคอนจะเสียไขมันและความชุ่มชื้นไป ทำให้มีลักษณะหงิกงอไม่น่ารับประทาน แต่ถ้าเรานำเบคอนไปชุบนมก่อนนำไปทอด ความชุ่มชื้นและโปรตีนของนมจะเคลือบผิวของเบคอนไว้ ทำให้เบคอนเป็นทรงที่สวยงาม ไม่หงิกงอ และน่ารับประทาน

5ทอดไข่
ทอดยังไงให้ฟูสวยและเนื้อนุ่ม ?
ใคร ๆ ก็ทอดไข่ได้ แต่จะทอดอย่างไรให้ได้ไข่ที่ฟูสวยและเนื้อนุ่ม วิธีง่าย ๆ เพียงแค่ใช้ "มะนาว" บีบตอนกำลังตีไข่ และต้องเทไข่จากที่สูงลงในกระทะ ให้จำไว้ว่ายิ่งเทสูงไข่จะยิ่งฟูนุ่มน่ากินมากขึ้น

เคล็ดลับเพราะรักจึงบอก: เนื่องจากน้ำมะนาวมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ทำให้โปรตีนในไข่เสียสภาพบางส่วน โปรตีนจึงเกาะกลุ่มกันได้ดีขึ้น เมื่อตีไข่จนขึ้นฟูโปรตีนที่เกาะกันจะช่วยให้โครงสร้างคงตัวมากกว่าเดิม พอนำไปผ่านความร้อนไข่ที่ได้ก็จะฟูอยู่นานกว่านั่นเอง

เคล็ดลับการทอด วิธีใช้น้ำมันอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพ
1. ใช้อุณหภูมิน้ำมันที่เหมาะสม
ในการทอดอาหารเราจะพบเห็น “ควัน” เป็นประจำเพราะความร้อนที่เพิ่มขึ้นจนถึงระดับอุณหภูมิหนึ่งจะทำให้น้ำมันเริ่มกลายสภาพเป็นควันน้ำมันขึ้น เราเรียกอุณหภูมิ ณ จุดนี้ว่า จุดเกิดควัน (Smoke Point) ซึ่งควันที่เกิดขึ้นนี้อาจส่งผลร้ายต่อร่างกายได้เพราะมีงานวิจัยในไต้หวันพบว่าการสูดควันน้ำมันเข้าไปมาก ๆ จะส่งผลให้เกิดโรคมะเร็งปอดได้ เราจึงควรเลือกน้ำมันที่มีจุดเกิดควันสูง (High Smoke Point) อย่างเช่น น้ำมันรำข้าวคิง (King Rice Bran Oil) ที่ทนความร้อนได้สูงสุด 254 °C ซึ่งมากกว่าน้ำมันพืชทั่วไปที่มีจุดเกิดควันอยู่ที่ 180 °C ช่วยให้ทอดอาหารได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น

2. เลือกน้ำมันที่ดีและมีประโยชน์กับร่างกาย
น้ำมันพืชทุกชนิด 1 กรัม จะให้พลังงาน 9 กิโลแคลอรี่เท่ากัน แต่ถ้าเรารู้จักเลือกน้ำมันที่ใช้ทอดอาหารก็จะได้รับวิตามินและสารอาหารที่จะช่วยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการให้เรามากยิ่งขึ้น ซึ่งในน้ำมันรำข้าว อย่างน้ำมันรำข้าวคิง (King Rice Bran Oil) ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในน้ำมันเพื่อสุขภาพ เพราะสกัดมาจากรำข้าวและจมูกข้าวซึ่งเป็นส่วนที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงที่สุดของเมล็ดข้าว น้ำมันรำข้าวคิงจึงอุดมไปด้วยวิตามินและสารอาหารตามธรรมชาติหลากหลายชนิดและมีในปริมาณมาก ได้แก่ สารโอรีซานอล (Oryzanol) มากกว่า 8,000 ppm ซึ่งสารโอรีซานอลพบเฉพาะในน้ำมันรำข้าวเท่านั้น โดยมีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระดีกว่าวิตามินอี ถึง 6 เท่า และช่วยลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL-C) นอกจากนี้ในน้ำมันรำข้าวยังมี สารไฟโตสเตอรอล (Phytosterol) มากกว่า 18,000 ppm ช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลในร่างกายและมีวิตามินอี กลุ่มโทโคฟีรอล และกลุ่มโทโคไตรอีนอล ช่วยต้านอนุมูลอิสระและช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดซึ่งในน้ำมันพืชโดยทั่วไปจะมีแต่วิตามินอี กลุ่มโทโคฟีรอลเท่านั้น

ได้รู้เคล็ดลับการทอดดี ๆ กันไปแล้ว สิ่งสำคัญไม่ว่าจะใช้เทคนิคไหนก็ตาม การกินอาหารทอดในปริมาณที่พอเหมาะพอดีจะช่วยให้ร่างกายปลอดภัยและดีต่อสุขภาพของทุก ๆ คน อีกทั้งการเลือกใช้น้ำมันในการทอดที่มีคุณภาพตามมาตรฐานก็จะยิ่งลดความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับร่างกายได้อีกทางหนึ่งอย่าง “น้ำมันรำข้าวคิง (King Rice Bran Oil)” น้ำมันรำข้าวคิง ได้รับตราสัญลักษณ์ “อาหารรักษ์หัวใจ” หมายถึงเป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่ไม่เพิ่มปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด มีคุณค่าทางโภชนาการสูงที่สุดของเมล็ดข้าว

ทำให้ “น้ำมันรำข้าวคิง (King Rice Bran Oil)” อุดมไปด้วยวิตามินและสารอาหารตามธรรมชาติ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลากหลายชนิดและมีในปริมาณมาก ได้แก่
- สารโอรีซานอล (Oryzanol) มากกว่า 8,000 ppm มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระดีกว่าวิตามินอี ถึง 6 เท่า และช่วยลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL-C)
- สารไฟโตสเตอรอล (Phytosterol) มากกว่า 18,000 ppm ช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลในร่างกาย ช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์เนื้องอกและเซลล์มะเร็ง ช่วยป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งต่อมลูกหมาก อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ
- มีวิตามินอี กลุ่มโทโคฟีรอล กลุ่มโทโคไตรอีนอล ซึ่งกลุ่มโทโคฟีรอล จะช่วยต้านอนุมูลอิสระ และกลุ่มโทโคไตรอีนอลจะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดและยังช่วยต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่ากลุ่มโทโคฟีรอล ซึ่งน้ำมันพืชโดยทั่วไปจะมีแต่วิตามินอี - กลุ่มโทโคฟีรอลเท่านั้น
“น้ำมันรำข้าวคิง (King Rice Bran Oil)” ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่รักสุขภาพไม่ควรมองข้าม และยังมีระบบการผลิตที่ทันสมัยแห่งหนึ่งของโลกที่ควบคุมคุณภาพของน้ำมันรำข้าวคิงให้สูงอยู่เสมอ และเป็นน้ำมันที่ผลิตจากรำข้าวและจมูกข้าวของไทย “น้ำมันรำข้าวคิง (King Rice Bran Oil)” จึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัยจากการดัดแปลงทางพันธุกรรม หรือ Non GMO แล้วยังเป็นการช่วยสนับสนุนผลผลิตจากชาวนาไทยอีกด้วย