พริก 101: เรื่องแซ่บแซ่บ! พร้อมวิธีแก้เผ็ด
  1. พริก 101: เรื่องแซ่บแซ่บ! พร้อมวิธีแก้เผ็ด

พริก 101: เรื่องแซ่บแซ่บ! พร้อมวิธีแก้เผ็ด

ยกพริกมาทั้งไร่ ความรู้มาทั้งสวน ไขความลับความเผ็ดของพริกพร้อมบอกประโยชน์สำหรับคนชอบกินเผ็ด และ 3 สูตรแก้เผ็ดได้ผลชะงัก!?
writerProfile
12 ธ.ค. 2017 · โดย

วันก่อนกินข้าวเย็นอยู่ชิลล์ ๆ แม่เรียกวาฬไปตำน้ำพริก ตำไปตำมาเกิดความสงสัยขึ้นว่าพริกนี่มันก็เผ็ดนะ ทำไมคนชอบกินจัง แล้วเม็ดแค่นี้ไปเอาความเผ็ดมาจากไหน แล้วมันจะมีประโยชน์แบบผักชนิดอื่นไหมนะ? ไม่รอช้าวาฬรีบไปหาคำตอบมาไขความกระจ่างในทันที พร้อมสูตรแก้เผ็ดพริก จะได้ผลอยู่หมัดมั้ย มาพิสูจน์กัน! 

1พริกซ่อนความเผ็ดไว้ที่ไหน?

เคยสงสัยไหมว่าพริกเม็ดเล็กแค่นี้ทำไมถึงเผ็ดนัก และอะไรที่ทำให้พริกตัวจี๊ดนี้มีความเผ็ด? สิ่งนั้นก็คือสารแคปไซซิน (Capsaicin) ในพริกพบมากตรงแกนกลางของพริกมากกว่าในเมล็ด สารนี้เองที่ทำให้ประสาทรับรู้เกิดความรู้สึกไหม้ที่เนื้อเยื่อ จนต้องกระตุ้นให้ผลิตเมือกหรือน้ำลายออกมามากขึ้นเพื่อป้องกันการระคายเคือง และนี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมความเผ็ดจึงไม่ใช่รสชาติ 

ทำไมพริกถึงเผ็ด

2พริกกับความแซ่บ

ใครจะไปนึกว่าพริกเผ็ด ๆ ที่แท้ก็คือผลไม้! เพราะสามารถกินได้ทั้งผล และเมล็ดตามจำกัดความของผลไม้ทั่วไป พริกยังเป็นเครื่องเทศชนิดหนึ่งที่นิยมใช้กันอย่างกว้างขวางทั่วโลก ซึ่งวันนี้จะหยิบยกพริกทั้ง 7 ชนิดมาทำความรู้จักกันให้มากขึ้น ได้แก่ พริกหวาน, พริกหยวก, พริกจาลาปิโน, พริกทาบาสโก, พริกคาเยน, พริกขี้หนู และพริกลมหายใจมังกร บางชนิดอาจคุ้นเคยกันดี แต่บางชนิดอาจไม่เคยเห็นหรือแม้แต่ได้ยินชื่อ แล้วเคยสงสัยไหมว่าเราจะแบ่งประเภทของพริกยังไง? คำตอบคือมีหลายเกณฑ์การแบ่งประเภท แต่วันนี้เราจะแบ่งโดยใช้ “ขนาดของพริก” เพราะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด โดยแบ่งเป็นพริกผลเล็ก ขนาดเล็กไม่เกิน 10 เซนติเมตร มีความเผ็ดมาก และพริกผลใหญ่ มีขนาดใหญ่มาก ส่วนใหญ่มีความเผ็ดน้อย 

ขนาดของพริกต่างๆ

ความเผ็ดความแซ่บที่ว่านั้นวัดปริมาณสารแคปไซซินด้วยเครื่องมือ Capsella มีหน่วยเป็น สโกวิลล์ (Scoville Heat Unit-SHU) ตัวเลขยิ่งมาก ความเผ็ดก็ยิ่งสู้งสูงตาม อย่างพริกที่เผ็ดที่สุดในโลกตอนนี้ทะลุหลักล้านแล้ว! เผ็ดระดับที่มนุษย์คนหนึ่งจะทนรับไหว งั้นมาดูชาร์จความแซ่บกันเลยดีกว่า ~

ระดับความเผ็ดของพริก

1 พริกหวาน (Sweet Bell) ใครจะไปนึกว่าพริกผลยักษ์หลากสีตั้งแต่สีแดง สีเหลือง สีเขียว หรือสีน้ำตาลนี้ที่ดูท่าทางจะแอบซ่อนความเผ็ดไว้มากมายกลับมีความเผ็ดเป็นศูนย์และมีรสหวานสมชื่อ โดยพริกหวานสีแดงมีเบตาแคโรทีนและวิตามินซีสูงที่สุด

เมนูจากพริกหวาน สลัด, เนื้อยัดไส้พริกหวาน, ผัดเปรี้ยวหวาน

2 พริกหยวก (Banana Pepper) พริกผลใหญ่ที่มาพร้อมกับระดับความเผ็ดแบบเด็ก ๆ เรามักคุ้นตากับผลสีเขียวอ่อน แต่เมื่อสุกหง่อมพริกหยวกจะเปลี่ยนเป็นสีส้มหรือแดงตามธรรมชาติ เต็มไปด้วยไฟเบอร์ เป็นแหล่งวิตามินซีและเอ แถมยังช่วยคอเลสเตอรอลได้อีกด้วย

เมนูจากพริกหยวก พริกหยวกยัดไส้, หมูผัดพริกหยวก,

3 พริกจาลาปิโน (Jalapeño Chili) พริกผลเล็กที่เผ็ดสะดุ้งมีผลสีเขียวเข้มไปจนถึงสีแดง นิยมนำไปดองหรือยัดไส้ชีส แต่เมื่อนำไปพริกไปย่างพริกชนิดนี้จะมีชื่อใหม่ที่เรียกว่า Chipotle Pepper สำหรับเพิ่มความเผ็ดร้อนให้กับอาหารเม็กซิกัน

เมนูจากพริกจาลาปิโน ซัลซ่า, ทาบาสโก, พริกยัดไส้ชีส

4 พริกทาบาสโก (Tabasco Pepper) พริกผลเล็กที่ซ่อนความเผ็ดไว้ มีหลากสีทั้งเขียว เหลือง ส้ม และแดง แต่เราจะคุ้นเคยพริกชนิดนี้มากกว่าในรูปแบบของขวดซอสสีแดง ที่เหยาะลงอาหารแค่ไม่กี่หยดก็ช่วยเพิ่มรสชาติได้อย่างมหาศาล แต่รู้ไหมว่าไม่ใช่ชาวเม็กซิกันที่เป็นคนคิดค้นซอสทาบาสโกกลับเป็นชาวอเมริกันต่างหากและตั้งชื่อซอสตามชื่เมืองของเม็กซิโก

เมนูจากพริกทาบาสโก ซอสทาบาสโก

5 พริกคาเยน (Cayenne Pepper) พริกเรียวยาวสีแดงสดที่เราอาจจะไม่ค่อยคุ้นกับหน้าตาสักเท่าไหร่ เพราะนิยมนำพริกคาเยนไปทำเครื่องเทศเป็นผงพริกคาเยนมากกว่า ได้ความหอมแบบเผ็ดร้อนกับความเผ็ดพอประมาณ ที่สำคัญยังมีส่วนช่วยเร่งการเผาผลาญพลังงานในร่างกายเรียกง่าย ๆ ว่าช่วยเรื่องลดน้ำหนัก!

เมนูจากพริกคาเยน เครื่องเทศพริกคาเยน, ส่วนผสมในซอสเผ็ดต่าง ๆ , ส่วนผสมเพื่อหมักเนื้อสัตว์

6 พริกขี้หนู (Bird's Eye Chili) “เล็กพริกขี้หนู” สำนวนไทยที่เปรียบเทียบความเผ็ดมหาศาลของเจ้าพริกเม็ดเล็กนี้ไว้อย่างชัดเจน แทบทุกมื้อเราจะเห็นพริกขี้หนูเป็นวัตถุดิบในเมนู ไม่ว่าจะเป็นประเภทต้ม แกง หรือยำ เรียกได้ว่าอยู่คู่ครัวคนไทยมาอย่างยาวนาน และไม่ใช่แค่ความเผ็ดที่กินเพื่อสะใจ แต่กินเผ็ดแล้วยังช่วยให้เจริญอาหารอิ่มหนำสำราญ

เมนูจากพริกขี้หนู น้ำพริก, ต้มยำ

7 พริกลมหายใจมังกร (Dragon's Breath Chili Pepper) พริกที่มีความเผ็ดมากที่สุดในโลก! กับสถิติทำลายล้างความเผ็ดทะลุหลักล้านมาหมาด ๆ พัฒนาขึ้นโดย Mike Smith และมหาวิทยาลัยนอตติงแฮม เพื่อจุดประสงค์ทางการแพทย์ อย่างใช้น้ำมันพริกเป็นยาชาในกรณีที่คนไข้แพ้ยา ไม่ใช่เพื่อเรื่องกินแต่อย่างไร เพราะหากได้ลองแม้เพียงสิบวินาทีก็สามารถเผาลิ้นผู้ที่อาจหาญต่อสู้กับลมหายใจมังกร!

เมนูจากพริกลมหายใจมังกร...อย่าได้ลองกินเลย!

3พริกกินดี มีประโยชน์

ต่อไปนี้อาจต้องเปลี่ยนจากส้มมากินพริกแทน เพราะประโยชน์ของพริกก็มีเยอะไม่ใช่เล่น อย่างวิตามินซีที่พบในพริก 100 กรัม สูงถึง 144 มิลลิกรัม มากกว่าส้มขนาดเดียวกันเกือบ 3 เท่า! และยังเป็นแหล่งรวมวิตามินอีกหลายชนิด เช่น วิตามินเอซึ่งมาพร้อมกับสารเบตาแคโรทีนที่ช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรง และบำรุงสายตารวมถึงแร่ธาตุอย่างโพแทสเซียมที่ช่วยควบคุมความสมดุลของร่างกายและการเต้นของหัวใจ (เป็นแร่ธาตุที่หากขาดเธอไปใจฉันก็คงเต้นไม่เป็นจังหวะ

ประโยชน์ของพริก

43 วิธีแก้เผ็ด (พริก) และข้อห้ามทำ 

เคยไหมคะ ต่อให้อาหารเผ็ดร้อนแค่ไหน แต่ความแซบถึงใจนี้จะหยุดกินก็ไม่ได้ ให้ซดต่อไปก็เกรงใจปาก เลยต้องพักหาวิธีให้ลิ้นคูลดาวน์ลงดีกว่า วาฬเลยมีวิธีแก้เผ็ดพริกง่าย ๆ ของกินรอบตัวมาบอกต่อ แล้ววัดระดับโดยอิงจากความรู้สึกส่วนตัวว่าวิธีไหนได้ผลเวิร์กสุด ยอมพลีชีพโดยใช้ส้มตำไทยสุดแซ่บเผ็ดปากเบิร์นขนาดนี้ต้องมีสักวิธีที่ได้ผลชะงักบ้างล่ะ! (ผลลัพธ์ของแต่ละคนต่างกัน ขึ้นอยู่กับร่างกาย และพริกชนิดนั้น ๆ)

1 ดื่มนมเย็นดับความเผ็ดร้อน 

ในนมมีโปรตีนคาเซอิน (Casein) ที่ช่วยลดความเผ็ดร้อน หรือจะกินไอศกรีมที่มีส่วนผสมของนมก็ช่วยเช่นกัน

ผลลัพธ์ ลิ้นถูกปลอบประโลมด้วยนมเย็น ๆ จนลืมความเผ็ดได้ชั่วครู่จริง แต่เมื่อกลืนนมลงไปแล้ว ความเผ็ดร้อนก็กลับมาดังเดิมแต่น้อยลง

2 ซัดข้าว ซัดขนมปังคำโต ๆ

ความหวานจากคาร์โบไฮเดรตจะช่วยลดความเผ็ดได้

ผลลัพธ์ ต้องซัดขนมปังก้อนโตจริง ๆ แล้วเคี้ยว ๆ ถึงจะรู้สึกได้ว่าความเผ็ดลดลงไปเพียงเล็กน้อย

3 ดื่มน้ำมะเขือหรือน้ำมะนาวเปรี้ยวจี๊ด

น้ำจากผลไม้รสเปรี้ยวที่มีฤทธิ์เป็นกรด เมื่อปะทะกับสารเคปไซซินที่มีฤทธิ์เป็นด่าง ความเผ็ดร้อนบนลิ้นก็จะลดลง

ผลลัพธ์ น้ำมะเขือเพียว ๆ ช่วยคุณได้ดีเลย! ความเผ็ดถูกเบรกด้วยรสเค็มปะแล่ม ๆ ของน้ำมะเขือเทศ

4.หากไม่อยากปากเบิร์นห้ามดื่มน้ำ!

ไม่ควรดื่มน้ำเปล่าเพื่อดับความเผ็ดร้อน เพราะสารแคปไซซินไม่ละลายในน้ำ และจะยิ่งกระจายสารไปทั่วปาก

บทสรุป จากการทดสอบพบว่าอะไรก็ตามที่เป็นของเหลวเย็น ๆ อย่างนม หรือน้ำผลไม้จะช่วยดับความเผ็ดร้อนได้ดี แต่ไม่ได้หายไปทั้งหมด ซึ่งพบว่าวิธีที่ดีที่สุดคือการไม่กินเผ็ด เอ้ย! คือการปล่อยให้หายเผ็ดเอง แต่ต้องใช้จิตใจที่แข็งแกร่งเท่านั้นในการทนความเผ็ดร้อน

วิธีแก้เผ็ดพริก

หูยย กว่าจะฟันฟ่าแต่ละด่านมาได้ทำเอาเกือบแย่ แต่พอรู้ว่าพริกเม็ดเล็กจี๊ดเดียวมีประโยชน์มากมายต่อร่างกายแบบนี้ก็กินไม่ยั้งเลย เพราะความแซ่บมันเกินห้ามใจจริง ๆ มิน่าล่ะถึงเรียกว่าเล็กพริกขี้หนู และไม่ใช่เรื่องพริกน่ารู้แต่ Wongnai ยังมีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับเครื่องครัวอย่าง มีด 4 เล่มที่ควรมีติดครัว พร้อมเทคนิคการหั่นและการดูแลมีด หรือ แจกฟรี 6 สูตรกาแฟโบราณ พร้อมนับแคลอรี และอีกมากมายที่นี่เลย

Source: 

http://www.chilly.in/chili_benefits.htm

http://www.healthline.com/nutrition/foods/chili-peppers#section5

http://www.wikihow.com/Cool-Burns-from-Chili-Peppers

http://www.sheknows.com/food-and-recipes/articles/805359/types-of-hot-peppers

http://chilipeppermadness.com/chili-pepper-types.html#.WbDGYtMjHBJ