หากเราพูดถึงคาวบอยสิงห์แดนเถื่อนที่เราเคยเห็นในหนัง เนื้อเรื่องก็คงจะไม่พ้นการควงปืนยิงกันหรือออกไปล่าโจรตามหาขุมทรัพย์ พร้อมเรื่อองราวการแก้แค้นอันดุเดือด แต่ชีวิตคาวบอย วันๆ พวกเขา เอาแต่ควงปืนไล่ยิงกันอย่างเดียวเหรอ คำตอบก็คือ ไม่ เมื่อใดที่พวกเขาพักผ่อนและวางกระบอกปืนลง เขาก็ต้องกินเหมือนคนทั่วไป
การกินสำหรับคาวบอยนี่แหละเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ ซึ่งในยุคนั้นเนี่ยก็เกิดนวัตกรรมเกี่ยวกับอาหารที่น่าสนใจขึ้นมา เพื่อรองรับการการผจญภัยที่ปสนยาวไกลของคาวบอย วันนี้เราจะมาดูกันว่าคาวบอยสิงห์แดนเถื่อนในโลกตะวันตกนั้นกินข้าวกินปลากันยังไงน้อ
พ่อครัว ราชาแห่งท้องทุ่ง
บนเส้นทางต้อนวัวสุดโหด คาวบอยกลุ่มหนึ่งที่มีสมาชิคราวสิบกว่าคนจะต้องฝากท้องไว้กับพ่อครัวประจำกองที่เรียกว่า “Cookie” เขาทำหน้าที่ทั้งคนขับรถครัว แพทย์สนาม ช่างตัดผม และบางทีก็ผู้ไกล่เกลี่ยเวลาคาวบอยตีกันอีกด้วย เรียกได้ว่าทรงอิทธิพลเป็นรองแค่หัวหน้ากองเท่านั้น สมกับคำกล่าวที่ว่าพ่อครัวคือ “ราชาแห่งท้องทุ่ง” เลยทีเดียว หนึ่งในเคล็ดลับความสามารถของ Cookie คือวิธีการปรุงอาหารด้วย “Dutch oven” หรือก็คือหม้อเหล็กในตำนานที่ทุกคนฝากท้องไว้ทุกสมรภูมิ ซึ่งจะมีหลายใบสำหรับทำครัวกลางแจ้ง
Dutch Oven หม้อเหล็กในยุคม้าเหล็ก
หม้อเหล็กหล่อและหนักอึ้งใบนี้มาพร้อมฝาปิดสนิท สามารถวางบนกองไฟหรือกลบถ่านร้อนด้านบนเพื่ออบอาหารได้โดยรอบ หม้อชนิดนี้ถือกำเนิดขึ้นในยุโรปตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 18 และได้รับความนิยมแพร่หลายในโลกตะวันตก เรียกได้ว่ามีใช้มานานกว่า 300 ปีแล้ว ราว ๆ ตั้งแต่ประมาณ ค.ศ.1710
จุดเด่นของมันคือความทนทาน แข็งแรง ไม่แตกหักง่าย และขนย้ายสะดวก ต่างจากเครื่องครัวแก้วหรือเซรามิก จึงเหมาะกับชีวิตกลางแจ้งของคาวบอยเร่ร่อน เพราะใบเดียวเอาอยู่ ทำได้สารพัดอย่าง จะเคี่ยว ต้ม ทอด อบ ก็ล้วนทำได้ในหม้อเดียว แต่หม้อเพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอต่อกองคาราวานที่ต้องเดินทางไกลแน่ ๆ
นวัตกรรมครัวเคลื่อนที่ได้ถือกำเนิด
เมื่อการต้อนฝูงวัวข้ามรัฐเริ่มบูมหลังสงครามกลางเมืองอเมริกา (ช่วงทศวรรษ 1860-1880) คาวบอยต้องใช้ชีวิตกลางแจ้งเป็นเดือน ๆ Charles Goodnight คาวบอยตำนานที่ประวัติยาวเหยียด ( ไปเสิร์ชกูเกิลเอาได้ อ่านกันทั้งวัน 555 แต่เขาเป็นบุคคลสำคัญมาก เป็นผู้นำทางกฎหมายและความสงบสุขมาสู่ Texas ) เขาได้ประดิษฐ์ “รถครัว” ที่เรียกว่า Chuckwagon ขึ้นในปี 1866 โดยดัดแปลงจากเกวียนทหารเพื่อบรรทุกเสบียงและอุปกรณ์ทำอาหารให้เหล่าคาวบอย
นอกจากท้ายครัวนี้เคลื่อนที่นี้จะมีหม้อเหล็กเก็บอยู่เต็มไปหมด ยังมีส่วนด้านข้างเกวียนที่ไว้ติดถังน้ำ ที่บดกาแฟ และยังมาพร้อมผ้าใบขึงกันแดดฝนครบครัน รถ Chuckwagon นี้เองถือเป็น “ครัวเคลื่อนที่” แห่งโลกตะวันตก และ Dutch oven หรือ หม้อเหล็กหล่อ ก็เป็นเสมือนหัวใจของครัว ที่มอบอาหารอุ่นร้อน เติมพลังและปลอบประโลมจิตใจเหล่าคาวบอยยามห่างบ้าน เอาล่ะทุกอย่างพร้อมแล้ว เตรียมตัวออกเดินทางรุ่งสางกันเถอะ
เริ่มผจญภัยตอนเช้าตรู่กับมื้อเช้าแสนอร่อย
ยามเช้าตรู่ ประมาณตีสาม พ่อครัวจะตื่นก่อนใครทั้งหมดเพื่อก่อไฟ ชงกาแฟอันหอมกรุ่น จากนั้นยกหม้อ หนัก ๆ ออกมาตั้งให้ร้อนบนกองไฟ เมื่อไฟแรงดีแล้วก็โยนไขมันเนื้อวัวหรือมันหมูลงไปละลายในหม้อเหล็ก เช้ารุ่งขึ้นมื้อแรกมักเป็นอาหารง่าย ๆ เช่น เบคอนหรือสเต็กทอด และขนมปังบิสกิตที่จะต้องเตรียมแป้งไว้ล่วงหน้า ซึ่งพ่อครัวจะใช้แป้งเปรี้ยว (sourdough) ที่หมักไว้ติดรถ ตัดแบ่งมาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ทำบิสกิต จุ่มไขมันให้ชุ่ม แล้ววางเรียงในหม้อเหล็กอีกใบซึ่งใช้เป็นเตาอบขนมปัง จากนั้นปิดฝาหม้อ แล้วโกยถ่านร้อน ๆ กลบไว้ทั้งบนฝาและล่างหม้อให้ความร้อนอบทั่วถึง
บิสกิตหอมกรุ่นก็จะสุกเหลืองภายในเวลาไม่นาน เมื่อทุกอย่างพร้อม Cookie ก็จะตะโกนเรียกทุกคนมารับอาหาร (กฎสำคัญคือไม่มีใครกล้ากินก่อนที่พ่อครัวจะร้องบอก) เหล่าคาวบอยงัวเงียก็ล้างหน้าแล้วหยิบจานดีบุกกับช้อนส้อมมาต่อคิวเติมอาหารกันคึกคัก มื้อเช้าที่ง่ายแต่อิ่มท้องนี้มักประกอบด้วยกาแฟดำเข้มข้น เบคอนหรือสเต็กทอด และบิสกิตร้อน ๆ กรอบนอกนุ่มใน เรียบง่ายแต่ให้พลังงานเต็มที่สำหรับงานหนัก
จากนั้นพ่อครัวก็จะขับรถครัวล่วงหน้าไปจุดพักถัดไปเพื่อเตรียมมื้อเที่ยงต่อ วนเวียนเช่นนี้ไปตลอดเส้นทาง บ่อยครั้งที่พ่อครัวต้องทำงานแข่งกับเวลาในสภาพอากาศอันสุดโหด ทั้งฝนตก พายุทราย หนาวจัด หรือร้อนระอุ แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอาหารสามมื้อต่อวันต้องไม่ขาดตกบกพร่อง มิเช่นนั้นชื่อเสียง “Cookie” คนนั้นอาจป่นปี้ในหมู่คาวบอย ซึ่งถือเป็นความอับอายครั้งใหญ่เลยทีเดียว
มื้อเย็นรอบกองไฟหลังจากทำงานหนักมาทั้งวัน
ช่วงเย็น หลังตั้งแคมป์ พ่อครัวต้องรีบปรุงมื้อค่ำให้ทันเวลาที่ฝูงวัวหยุดพักและคาวบอยเสร็จงาน ในมื้อค่ำหากวันไหนอารมณ์ดีหรือมีวัตถุดิบพิเศษ Cookie อาจโชว์ฝีมือเกินมาตรฐาน เช่น ต้มซุปหรือสตูว์ร้อน ๆ เปลี่ยนบรรยากาศจากเมนูเนื้อเค็มซ้ำ ๆ บางทีก็ถึงขนาดทำขนมหวานง่าย ๆ อย่างพุดดิ้งข้าว หรืออบพายผลไม้จากผลไม้อบแห้งแจกให้ลูกทีมได้ชื่นใจเลยทีเดียว (แน่นอนว่าทุกคนจะยิ่งรักพ่อครัวคนนี้)
หลังอิ่มหนำแล้ว หลายคืนจะเป็นเวลาพักผ่อนหย่อนใจรอบกองไฟ คาวบอยบางคนหยิบหีบเพลงปากหรือกีตาร์มาบรรเลงเพลงลูกทุ่งคลอเบา ๆ ขณะคนอื่น ๆ แลกเปลี่ยนเรื่องเล่าแสนสนุกหรือเรื่องหลอนยามค่ำคืน เป็นช่วงเวลาที่ถูกบรรยายไว้ว่า “ป่าเถื่อนอย่างน่ารื่นรมย์” (pleasantly barbaric) เมื่อชายฉกรรจ์หยาบกร้านมารวมตัวพักผ่อนกันหลังวันอันเหน็ดเหนื่อย หลังจาดนั้นเเสียงหัวเราะและเพลงจะค่อย ๆ แผ่วลงเมื่อทุกคนทยอยขดตัวในผ้าห่ม เตรียมแรงไว้ลุยงานพรุ่งนี้ต่อไป
เมนูสุดดิบ Son of a bitch Stew สตูว์ชื่อสุดหยาบแต่พิเศษจัด ๆ
คำว่า “Son of a bitch” ในบริบทยุคคาวบอย ไม่ได้หยาบคายแบบที่เรารู้สึกสมัยนี้เสมอไป แต่บางครั้งถูกใช้ในอารมณ์แบบ“โห... แม่งอร่อยสัส ๆ !” หรือ “เมนูนี้มันสุดยอดจริง ๆ ให้ตายเถอะ!” เมนูนี้ใส่ทุกส่วนของลูกวัวลงไปต้ม ทั้งเนื้อ เครื่องใน หัวใจ ตับ ไต ไส้ พุง และบางบันทึก็กบอกว่าลูกอัณฑะอีกด้วย เรียกว่ามากันครบทีม ปรุงกับพริกเครื่องเทศออกมาเป็นสตูว์เข้มข้นถึงใจ (เมนูนี้คงถูกปากสายกินเครื่องใน แต่อาจไม่ได้ถูกจริตทุกคน)
แน่นอนว่าเมนูนี้ไม่ใช่อาหารหรูหราในคฤหาสน์ แต่คืออาหารที่เกิดจากความอดทนและศิลปะของการใช้ทุกอย่างให้เกิดประโยชน์ คาวบอยนั้นอาจไม่ได้มีของสดบ่อย ๆ ดังนั้นเมื่อลูกวัวตัวหนึ่งถูกเชือด (ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด) พ่อครัวจะใช้ ทุกส่วนของมัน อย่างไม่ให้เหลือเสียเปล่า เมนูนี้เลยกลายเป็น “ของหายาก” เพราะต้องมีลูกวัวตาย (และต้องมีอีกคน 555)
ส่วนเครื่องปรุงส่วนใหญ่ก็ปรุงคล้ายสตูว์ทั่วไป ใส่หัวหอม กระเทียม พริก เกลือ และสมุนไพรพื้นบ้าน เพื่อดับกลิ่นเครื่องใน สุดท้ายออกมาเป็น สตูว์เข้มข้นคล้ายต้มเครื่องในรสจัด นั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นเมนูแสนอร่อยที่แสดงออกมาแบบดิบๆ
ทำงานหนักแค่ไหนก็อย่าลืมกินให้อิ่มนะ
อุปกรณ์ครัวไม่ใช่แค่เครื่องครัว คนทำครัว ก็ไม่ใช่แค่คนทำกับข้าว แต่คือพระเอกหลังฉากของวิถีชีวิตคาวบอย ที่ช่วยให้การเดินทางยาวนานข้ามทุ่งโล่งเต็มไปด้วยเรื่องเล่าขำขัน ท้องอิ่ม และหัวใจที่อุ่นขึ้น เป็นเสมือนเพื่อนรู้ใจที่ร่วมเดินทางและแบ่งปันทุกข์สุขไปกับคาวบอยผู้โดดเดี่ยวใต้ผืนฟ้ากว้างใหญ่ ไม่แปลกใจเลยที่เราควรจะซาบซึ้งในภูมิปัญญาเรียบง่ายแต่แสนสำคัญของเครื่องครัวเหล่านี้ และความทุ่มเทของพ่อครัวที่ทำอาหารให้เราได้กินมีแรงสู้กับงานหนักในวันต่อไป
Reference
National Cowboy & Western Heritage Museum – History of the Chuck Wagon
New Mexico Farm & Ranch Heritage Museum – Chuck Wagon (ค.ศ. 1880)
INSP TV – The Chuckwagon: The Heart of an Old West Cattle Drive
Legends of America – The Chuck Wagon – Queen of the Cattle Trail
True West Magazine – Wyoming Cowboy Cuisine (Sherry Monahan, 2023)
Cowboy & Chuckwagon Cooking Blog – History of the Cobbler
cowboyandchuckwagoncooking.blogspot.com
TIME Magazine – Blazing Saddles campfire scene
Monahan, Sherry. The Cowboy’s Cookbook (Globe Pequot, 2015)
Wikipedia – Sonofabitch stew, Dutch oven
, Chuckwagon