เรามีสิทธิ์เลือกกินแค่ไหน?
  1. เรามีสิทธิ์เลือกกินแค่ไหน?

เรามีสิทธิ์เลือกกินแค่ไหน?

แต่เราเคยถามตัวเองไหมว่า ความอยากที่เกิดขึ้นนี้มาจากตัวเราเองจริงๆ หรือเป็นผลจากสิ่งที่มองไม่เห็น เช่น การตลาดหรือสภาพแวดล้อมที่คอยบงการความคิดและการเลือกของเรา
writerProfile
26 ธ.ค. 2024 · โดย

เคยไหมที่อยู่ๆ ก็รู้สึกอยากกินอาหารญี่ปุ่น หรืออยากลองเมนูพิเศษบางอย่าง ทั้งที่ไม่ได้วางแผนไว้? หลายคนคงคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้ในช่วงเลิกงานหรือวันหยุดที่เหนื่อยล้า ความอยากเหล่านี้มักจะผลักดันเราให้ออกไปหาร้านอาหารดีๆ เพื่อตอบสนองความต้องการในทันที
.
แต่เราเคยถามตัวเองไหมว่า ความอยากที่เกิดขึ้นนี้มาจากตัวเราเองจริงๆ หรือเป็นผลจากสิ่งที่มองไม่เห็น เช่น การตลาดหรือสภาพแวดล้อมที่คอยบงการความคิดและการเลือกของเราอย่างแนบเนียน

.

Wongnai Story ส่งท้ายปีกับเรื่องที่ไม่ได้ช่วยให้คุณผ่อนคลาย แต่อาจจะพาให้คุณตั้งคำถามกับชีวิตผ่านการกินมากขึ้น

.

1. การกินเพื่อสร้างความหมาย

การเลือกกินอะไรหรือไม่กินอะไร อาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อยในระดับจักรวาล เพราะเราเป็นเพียงเศษผงเล็กๆ ในโลกใบนี้ แต่ในระดับชีวิตส่วนตัว การตัดสินใจเลือกสิ่งต่างๆ คือการสร้างความหมายให้ตัวเอง

.

“มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตประเภทเดียวที่ ตัวตนมาก่อนสาระ” — ฌอง ปอล ซาร์ตร์ นักปรัชญาผู้เป็นต้นแบบของปรัชญาอัตถิภาวะนิยม อธิบายได้ว่ามนุษย์มีชีวิตก่อน แล้วจึงสร้างความหมายให้ชีวิต ในนิยามนี้การเลือกของเราจึงเป็นสิ่งสำคัญต่อการกำหนดความหมายให้ชีวิต การเลือกกินจึงไม่ใช่แค่การบริโภคเพื่ออยู่รอด แต่เป็นหนึ่งในวิธีการที่เราสร้างตัวตนและความพึงพอใจในชีวิต

.

2. เราถูกทำให้เชื่อว่าเราเป็นผู้เลือก?

แม้เราจะเชื่อว่าการเลือกของเรานั้นเกิดขึ้นจากตัวเอง แต่ความจริงแล้ว กระบวนการตัดสินใจของเรามักได้รับอิทธิพลจาก ปัจจัยภายใน และ ปัจจัยภายนอก ที่ทำงานร่วมกันอย่างแนบเนียน

ปัจจัยภายใน:

อารมณ์: เช่น ความเหนื่อยล้าหลังเลิกงานที่ผลักดันให้เราอยากผ่อนคลายด้วยอาหาร

การรับรู้: เช่น กลิ่นหอมของคอหมูย่าง หรือภาพเมนูยั่วน้ำลายในโซเชียลมีเดีย

ปัจจัยภายนอก:

การตลาด: เช่น โปรโมชั่นพิเศษ “แถมลาบ” ที่ทำให้เรารู้สึกว่าคุ้มค่าที่จะเลือก

อิทธิพลทางสังคม: เช่น ความเห็นของเพื่อนหรือรีวิวที่บอกว่าอาหารร้านนี้อร่อย

รู้ตัวอีกทีคุณก็นั่งอยู่บนเก้าอี้แดง จกข้าวเหนียวปั้นพอดีคำ พร้อมอาหารอีสานอยู่เต็มโต๊ะพับเสียแล้ว

.

ตัวอย่างจากการวิจัยใน Loja, Ecuador พบว่า การตัดสินใจเลือกซื้ออาหารได้รับผลกระทบจากปัจจัยทั้งภายใน (เช่น รสชาติและกลิ่น) และภายนอก (เช่น การตลาด) อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งนำไปสู่พฤติกรรมการเลือกซื้อในรูปแบบที่คล้ายกันระหว่างผู้บริโภค ซึ่งตีความได้ว่าเราถูกทำให้เลือกโดยปัจจัยภายนอกและภายในที่ไม่ต่างกันมากเท่าไหร่

.

3. บงการผ่านข้อมูล?

การตลาดสมัยใหม่มีเครื่องมือมากมายที่ช่วยกำหนดวิธีการเลือกของผู้บริโภคโดยที่เราอาจไม่รู้ตัว ตัวอย่างเช่น ระบบ Health Star Rating (HSR) ที่ใช้ในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นป้ายโภชนาการที่แสดงคะแนนดาวเพื่อช่วยให้ผู้บริโภคเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น

.

ในช่วงแรกของการใช้ระบบนี้ (ปี 2014) ผู้บริโภคส่วนใหญ่สังเกตเห็นป้ายดังกล่าวแต่ไม่ได้เปลี่ยนพฤติกรรมการซื้ออย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ในปี 2016 หลังจากเพิ่มขนาดป้ายและโปรโมตต่อเนื่อง พฤติกรรมของผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนแปลง โดยผลิตภัณฑ์ที่มีคะแนนดาวสูงเริ่มขายได้มากขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าข้อมูลที่ถูกนำเสนอในรูปแบบที่เหมาะสมสามารถชักนำการเลือกซื้อได้

.

ประเด็นคือ การออกแบบข้อมูลและการสื่อสารสามารถเปลี่ยนวิธีคิดและพฤติกรรมของเราได้ แม้เราจะไม่รู้ตัว

.

4. พุทธะ ผัสสะ และ Touch Point

ในมุมมองของพุทธศาสนา “ผัสสะ” หมายถึงการกระทบกันระหว่าง อายตนะ 6 (ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ) กับสิ่งที่สัมผัส ซึ่งนำไปสู่การ รับรู้ (วิญญาณ), การตีความ (เวทนา) และ ความปรุงแต่งทางความคิด (สังขาร) สิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อการตัดสินใจและพฤติกรรมของเราในที่สุด

.

ตัวอย่างเช่น เมื่อเราเห็นภาพอาหารในโซเชียลมีเดีย (ผัสสะทางตา) ความรู้สึกอยากลิ้มลองรสชาติ (เวทนา) ก็เกิดขึ้น และสมองเริ่มจินตนาการถึงความอร่อย (สังขาร) นำไปสู่การตัดสินใจไปลองอาหารนั้นในที่สุด

.

นักการตลาดใช้หลักการนี้ในการสร้าง Touch Point ต่างๆ เพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสและสร้างประสบการณ์ให้กับผู้บริโภค เช่น การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ดึงดูดสายตา หรือบรรยากาศร้านที่กระตุ้นให้เรารู้สึกดีและอยากกลับมาอีก

.

5. เรามีอิสระในการเลือกจริงหรือไม่?

กลับมาสู่คำถามสำคัญ เราเลือกเองจริงๆ หรือแค่ตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่ถูกออกแบบมา?

.

ในมุมหนึ่ง การตลาดและผัสสะไม่สามารถ “ควบคุม” การเลือกของเราได้โดยสมบูรณ์ แต่สามารถสร้าง เงื่อนไข ที่โน้มน้าวการตัดสินใจของเราได้ เช่น การออกแบบ Touch Point ให้กระทบกับประสาทสัมผัสหรืออารมณ์ในจุดที่สร้างผลกระทบสูงสุด

.

หากมองในอีกมุมหนึ่งการมีอยู่ของสื่อหรือการตลาดหรือปัจจัยภายนอกก็ไม่ได้เป็นผู้ร้ายของเรื่องนี้ เพราะมันก็เป็นส่วนที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการเลือกหรือกินให้ตรงกับความต้องการจริง ๆ ของเราได้มากขึ้น เช่น การเจอร้านใหม่ ๆ จากการติดตาม Wongnai (ส่วนใครยังไม่ติดตามฝากติดตามด้วยนะ)

.

อิสรภาพในการเลือกจึงขึ้นอยู่กับระดับของความตระหนักรู้ เมื่อเรารู้ทันสิ่งเร้าและปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจ เราจะมีความสามารถในการพิจารณาและเลือกสิ่งที่สอดคล้องกับคุณค่าของเราได้มากขึ้น

.

6. อิสรภาพคือความรับผิดชอบของตัวเอง

ดังที่ ฌอง ปอล ซาร์ตร์ กล่าวไว้ แม้เราจะอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยสิ่งกระตุ้นและการชักนำทางความคิด แต่สุดท้ายแล้ว “การเลือกยังคงเป็นของเราเอง” หากเราตระหนักรู้และตั้งคำถามกับกระบวนการตัดสินใจของตัวเอง การเลือกกินจึงไม่ได้เป็นเพียงแค่การตอบสนองต่อสิ่งเร้า แต่เป็นการตัดสินใจที่สะท้อนตัวตนและความหมายที่เราสร้างขึ้นเองอย่างแท้จริง เช่นเดียวกับแนวทางพุทธที่สอนให้คุณตั้งคำถามถึงเหตุของสิ่งต่าง ๆ เป็นหลักก่อนการเลือกตอบสนอง

—----------------------------------------------

ครั้งแรกจาก THANN ร่วมรังสรรค์เทียนหอม Collection พิเศษกับ Wongnai ที่ได้แรงบันดาลใจจากขนมหวานสุดคลาสสิกอย่าง Crème Brûlée และกลิ่นหอมเข้มข้นของ Cognac และ Dark Chocolate ระดับพรีเมียม หาซื้อได้แล้วที่ THANN ทุกสาขา และช่องทางออนไลน์ที่ www.thann.co.th

Refernce

Hamlin, R., & McNeill, L. (2018). The impact of the Australasian ‘Health Star Rating,’ front-of-pack nutritional label, on consumer choice: A longitudinal study. Nutrients, 10(7), 906. https://doi.org/10.3390/nu10070906

.

Boada, M., Boada, M., & Morocho, F. (2023). Perception and preferences of consumers in the retail sector: A case study in the city of Loja-Ecuador. Open Journal of Business and Management, 11(3), 1340-1358. https://doi.org/10.4236/ojbm.2023.113074

.

[Author(s)]. (2018). Effects of consumer sensory perception on brand performance. Leibniz University Research Article. [Add specific journal name if available].

.

Mel T & Nigel R (2023) Understand Existentialism: Teach Yourself

.

http://www.anakame.com/page/1_Sutas/900/997.htm