ของฝากห้ามพลาดจากตลาดกิมหยง แถมฟรี! เทคนิคการซื้อที่คนหาดใหญ่แนะนำ

“ตลาดกิมหยง” ตลาดชื่อดังประจำเมืองหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาค่ะ ครึกครื้นไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้ง ไทย จีน มาเลย์ สิงคโปร์ ที่มาจับจ่ายซื้อสินค้าของฝากติดมือกลับบ้าน ไม่เพียงแต่นักท่องเที่ยวเท่านั้นนะ คนท้องถิ่นเอง ก็มาซื้อของกันที่นี่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นของสด ของแห้งต่างๆ ของที่ขายผัดเปลี่ยนตามฤดูกาล หรืองานเทศกาล เช่น ตรุษจีน ถือศีลกินเจ ก็มาเลือกหาซื้อของคุณภาพดี สดใหม่ ได้ที่นี่เลยค่ะ

ตลาดกิมหยง เป็นตลาด 2 ชั้นในร่มที่ใหญ่ที่สุดในหาดใหญ่ เป็นสินค้าที่นำเข้าจากประเทศมาเลเซียบ้าง อินโดนีเซียบ้าง ราคาจะถูกกว่าซื้อตามห้างทั่วไป มีขายตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้า เกมคอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์ของใช้ต่างๆ เสื้อผ้า กระเป๋า นาฬิกา รองเท้า น้ำหอม ราคาต่อรองกันได้ค่ะ ในส่วนของอาหาร ของกิน ของแห้ง ขนม ของทานเล่น ผลไม้สดๆ ตามฤดูกาล ก็มีให้เลือกมากมาย พูดได้เลยค่ะว่า ใครไม่มาตลาดกิมหยง ถือว่ามาไม่ถึงหาดใหญ่กันเลยทีเดียว

พร้อมแล้ว ไปดูเส้นทางการไปช็อปปิ้งกันเลยค่า

แต่ก่อนที่เราจะไปดูกันว่าในตลาดกิมหยงมีของดี ของเด็ดอะไรบ้างนั้น มาดูเทคนิคเล็กๆ น้อยๆในการเลือกซื้อของที่ตลาดกิมหยงกันก่อนค่ะ

การเลือกซื้อของในตลาดกิมหยงนั้น แน่นอนว่า ของแต่ละอย่างก็มีหลากหลายร้านที่ขายของประเภทเดียวกันค่ะ คนท้องถิ่นก็มักจะมีเจ้าประจำของตัวเอง ..แล้วคนต่างถิ่นล่ะจะทำยังไง? ไม่ยากค่ะ แค่ทำตามเทคนิคเหล่านี้ คุณก็สามารถเลือกซื้อสินค้าที่ตลาดกิมหยงได้ในราคาที่แสนถูกและคุณภาพดีแน่นอนค่ะ
1.“สังเกตดูลูกค้าหน้าร้าน” ร้านไหนคนเยอะ ให้เข้าไปเลย โดยเฉพาะของกิน รอไม่นานค่ะ เพราะร้านที่ลูกค้าเยอะ ของก็จะออกตลอด ใหม่ตลอดนั่นเอง แต่ถ้ายังไม่ชัวร์ ว่าจะเลือกซื้อร้านไหนดีนั้น ให้ลองทำตามข้อต่อไปค่ะ
2.“ชิมก่อนซื้อ” ชิมค่ะ ตลาดกิมหยง ขอชิมได้เลย เพราะพ่อค้าแม่ขายที่นี่ใจดีสุดๆ เช่น อาหารจำพวกถั่วต่างๆ ปลาหมึก ปลาแห้ง เกาลัด ชิมก่อนซื้อทีหลังนะจ๊ะ
3. “ตรวจสอบราคา” ลองเดินสำรวจร้านต่างๆและตรวจสอบราคาสักนิด ของจำพวกขนมมาเลย์ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาหารสำเร็จรูป ราคาจะแตกต่างกันบ้างเล็กน้อยค่ะ เพราะฉะนั้นควรเดินตรวจสอบราคาให้รอบๆ ก่อนน้า
4. “สอบถามการบรรจุภัณฑ์” สำหรับเรื่องการแพคของนั้น บางร้านจะใช้แม็ก บางร้านจะมีเครื่องซีลปากถุง แนะนำว่าถ้าใครซื้อเป็นของฝาก เดินทางไกล ให้ถามทางร้านสักนิดค่ะ ว่ามีเครื่องซีลไหม จะได้เป็นของฝากที่คุณภาพดี สะอาด และมั่นใจได้ว่าจะสดใหม่ จนถึงมือผู้รับค่ะ
5. “เช็ควันหมดอายุ” ถ้าเป็นอาหารสำเร็จรูป เครื่องดื่ม น้ำ หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้ลองเช็ควันหมดอายุด้วยนะคะ เพื่อความสบายใจ และปลอดภัยค่ะ
6. “ต่อรองราคา” ขั้นตอนนี้แนะนำว่าให้ใช้กับการต่อราคาของจำพวก เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า น้ำหอม นาฬิกา กระเป๋า รองเท้า อาจจะต้องเช็คราคากันหลายร้าน และต่อราคาลงหน่อยนะคะ ไม่แน่อาจจะได้ราคาที่ถูกลงแบบเหลือเชื่อ :)

เรียนรู้เทคนิคเบื้องต้นเกี่ยวกับการเลือกซื้อของในตลาดกิมหยงไปแล้ว ปัญหาก็คือ สินค้ามากมายละลานตาขนาดนี้
เราจะเลือกซื้อยังไงดี? แล้วอะไรกันนะ? ที่เป็นของดีของเด็ดของตลาดกิมหยง ที่มาแล้วห้ามพลาดที่จะต้องหิ้วกลับไป
วันนี้ทีมงานวงใน จัดหมวดหมู่ในเรื่องของกินมาฝากแล้วค่ะ

1ผลไม้สด

ผลไม้สด จะวางขายอยู่รอบนอกของตลาดกิมหยงค่ะ มีทั้งผลไม้ไทยและผลไม้นอกที่วางขายตลอดทั้งปีอย่าง กล้วย ส้ม องุ่น แอปเปิ้ล สาลี่ ฝรั่ง และผลไม้ตามฤดูกาลอย่าง มังคุด ลิ้นจี่ มะม่วง เชอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ ลูกพลับ ฯลฯ วางเรียงรายสดๆสวยๆให้เลือกซื้อ เราจัดให้ค่ะ ผลไม้ที่แนะนำนั่นก็คือ องุ่นไร้เมล็ด เปลือกบาง หวานกรอบกิโลกรัมละ 250 บาท ฝรั่งกิมจู ไร้เมล็ดและเป็นพันธุ์ที่หวานกว่าฝรั่งทั่วไป กิโลกรัมละ 70 บาท เชอร์รี่สดๆ กิโลกรัมละ 700-900 บาท และแอปเปิ้ลพิงค์เลดี้ หวานกรอบ กลิ่นหอมอ่อนๆ ขายเป็นกองกองละ 10ลูก 100 บาท แนะนำว่าให้ถามเปรียบเทียบราคาและสังเกตความสดใหม่สักนิดนะคะ

2ตระกูลถั่ว

ตลาดกิมหยง โดดเด่นในเรื่องเมล็ดธัญพืชเป็นอย่างมากค่ะ ด้วยราคาที่ถูกกว่า และความสดใหม่ แต่ก่อนอื่นให้สังเกตที่ร้านไหนคนซื้อเยอะ ของออกตลอด ให้มุ่งหน้าเข้าไปชิมก่อนค่ะ ว่าหอมอร่อยกรุบกรอบแล้วค่อยตัดสินใจนะคะ ที่ขายดีที่สุดเลยก็คงจะหนีไม่พ้นเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ของดีถิ่นใต้บ้านเรา กิโลกรัมละ 400 บาท พิสตาชิโอ เปลือกแข็งสีขาว กิโลกรัมละ 440 บาท อัลมอนด์ หวานกรอบ กิโลกรมละ 540 บาท และแมคคาเดเมีย เปลือกแข็งสีน้ำตาล เนื้อขาวมัน กิโลกรัมละ 380 บาทค่ะ ทั้งหมดนี้สามารถเลือกซื้อได้เป็นขีด ครึ่งกิโล หรือเป็นกิโลได้ตามต้องการเลย นอกจากนี้ก็ยังมีถั่วอื่นๆ อีกเช่น วอลนัท ถั่วปากอ้าก็มีค่ะ

3เกาลัด

ใครผ่านไปผ่านมา ต้องได้กลิ่นเกาลัดคั่วหอมๆ ร้อนๆ คั่วกันสดๆ อยู่รอบนอกริมทางตลาดกิมหยงค่ะ เทคนิคง่ายๆ ก็คือเลือกร้านที่คั่วใหม่ร้อนๆ เมล็ดเงาๆ และเหมือนเคย ชิมก่อนซื้อนะคะ แบบคั่วมีให้เลือก 2 แบบ คือแบบหวาน กิโลกรัมละ 200 บาท ส่วนหวานมัน กิโลกรัมละ 250 บาทค่ะ ถ้าใครไม่อยากแกะเปลือกให้เสียเวลา ก็เลือกซื้อแบบถุงก็ได้ค่ะ หวานมันเหมือนกัน แต่อาจจะหอมน้อยกว่า ขายเป็นแพค 5 ถุง 100 บาทค่า

4ผลไม้อบแห้ง

ผลไม้อบแห้ง เป็นอีกอย่างที่ไม่ควรพลาด เพราะทั้งเคี้ยวเพลิน แถมยังแก้ง่วงยามทำงานได้เป็นอย่างดีค่ะ รสชาติเปรี้ยวหวาน ตาสว่างแน่นอน แนะนำเป็น ลูกหยีแบบปั้น หนึบหนับ เปรี้ยวหวานไร้เมล็ด กินแล้วตาหยีสมชื่อเลย กิโลกรัมละ 340 บาท ส่วนลูกหยีฉาบจะได้ความหวานจากน้ำตาลที่ฉาบเมล็ดไว้ด้านนอก กินง่าย ไร้เมล็ดค่ะ กิโลกรัมละ 400 บาท หรือถ้าใครไม่ชอบเปรี้ยวมากอย่างลูกหยี ก็เลือกเป็นบ๊วยหวาน รสชาติหวานๆ อมเปรี้ยว กิโลกรัมละ 140 บาท และที่เป็นของขึ้นชื่อที่ใครๆ ก็ต้องซื้อเป็นของฝากก็คือ อินทผาลัมค่ะ ชาวมุสลิมถือว่าอินทผาลัมนั้นเป็นผลไม้ที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้ นิยมรับประทานในช่วงเดือนถือศีลอด หรือเดือนรอมฎอนด้วยค่ะ กิโลกรัมละ 140 บาท จะซื้อทานเองหรือซื้อเป็นของฝากก็ดีไม่แพ้กันเลยค่ะ

5อาหารแห้ง

อาหารแห้งที่นำไปประกอบอาหารประเภทต้มและตุ๋น ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า หรือแม่บ้านคนท้องถิ่นก็มักมาซื้อที่นี่ค่ะ ทั้งกระเพาะปลา มีหลายเกรดหลายไซส์ อยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 500 บาท เครื่องยาจีน แบ่งขายเป็นแพคเล็กๆ แพคละ 20 บาท หรือจะเป็นยาจีนแบบแยกเครื่องยาจีนแต่ละอย่างก็มีขายตามต้องการเลย ส่วนเห็ดหอมก็มีหลากหลายแบบ แต่ถ้าให้แนะนำ ก็คงต้องเป็นเห็ดหอมญี่ปุ่นค่ะ ลายสวย ตุ๋นออกมาแล้วเนื้อแน่นนุ่มเต็มคำ อร่อยมากค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีของดีของเด็ดเช่น กุ้งแห้ง ปลากรอบ ปลาหมึกแห้ง ปลาหมึกแผ่นอีกด้วยค่ะ

6อาหารสำเร็จรูป

อีกประเภทที่ห้ามพลาด ที่คนท้องถิ่นนิยมซื้อไปรับประทานกันนั่นก็คือ อาหารสำเร็จรูป อาหารกระป๋องค่ะ แนะนำปลากระป๋อง Ayam Brand นำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านของเรา(ประเทศมาเลเซีย) เป็นยี่ห้อที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยอยู่แล้วค่ะ แต่ทีเด็ดอยู่ที่น้ำซอสเข้มข้ม และเนื้อปลาชิ้นใหญ่ กระป๋องไซส์กลาง กระป๋องละ 50 บาท ส่วนเต้าหู้ยี้ตรานก อีกหนึ่งความอร่อยในตำนาน เป็นเต้าหู้ยี้หมักปรุงรส บรรจุในขวดแก้ว ทานกับข้าวต้มร้อนๆ อร่อยเลิศอย่าบอกใครเลยค่ะ และลูกพรุน Sunsweet ลูกพรุนไม่มีเมล็ด เหมาะกับเป็นของฝากผู้ใหญ่ก็ดี เด็กก็ทานได้ เพิ่มกากใยช่วยรักษาสมดุลในระบบขับถ่ายได้ดีค่ะ กระป๋องละ 110 บาท

7เครื่องดื่ม

เครื่องดื่มขายดีติดอันดับที่ดื่มแล้วชื่นใจ ดับร้อนดับกระหายได้เป็นอย่างดี น้ำเก๊กฮวย Yeo’s หอมดอกเก็กฮวยและหวานอ่อนๆ แช่เย็นชื่นใจมากๆค่ะ ส่วนน้ำ Glinter เป็นน้ำโซดา มีหลายกลิ่นให้เลือก มีกลิ่นพีช แอปเปิ้ล ส้ม กีวี ลิ้นจี่ มะนาว บลูเบอร์รี่ และ สตรอว์เบอร์รี่ค่ะ กระป๋องละ 20 บาทสดชื่นดี หวานๆ หอมๆ ส่วนน้ำลูกพรุน เป็นขวด ขวดละ 130 บาท ใครที่ไม่ชอบทานเป็นเนื้อก็ทานเป็นน้ำได้ค่ะ มีคุณประโยชน์สูง จะซื้อฝากผู้ใหญ่ หรือซื้อให้พ่อแม่ทาน ก็ดีนะคะ

8ขนม/กาแฟ

สุดท้ายที่พลาดไม่ได้เลย คือขนม ของขบเคี้ยว และกาแฟ ซึ่งแต่ละร้านจะมีขนมนำเข้าจากประเทศมาเลเซียหลากหลายมากจนเลือกกันไม่หวาดไม่ไหว เราแนะนำให้ค่ะ เป็น 4 อย่างขายดิบขายดี อร่อยถูกใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ Pepero ขนมปังแท่งเคลือบช็อคโกแลตและอัลมอนด์ กล่องเล็ก 25 กล่องใหญ่ 185 บาทค่ะ ขายดีมากๆเลย ส่วนสาหร่ายในตำนาน ตั้งแต่สมัยมี 4 แผ่น จนปัจจุบันลดลงเหลืออันละ 2 แผ่นแล้ว ก็ยังคงเป็นที่นิยมกันอยู่ ขายแพคละ 45 บาทค่ะ อีกหนึ่งอย่างที่ทานเพลินยามหิวกันเลยคือ Oat Choco ขนมธัญพืชอบกรอบ หวานน้อย แพคละ 75 บาท สุดท้ายที่ขาดไม่ได้ก็คือ กาแฟ แนะนำยี่ห้อ ​Oldtown และ Nescafe Gold Blend ค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีช็อคโกแลต Ferrero Rocher พริงเกิลส์ ขนมหมี คิทแคทชาเขียว และอีกมากมายค่ะ

ตลาดกิมหยง เปิดให้เดินช็อปปิ้งกันได้ตั้งแต่เช้ายันค่ำกันเลยทีเดียว ใครที่ต้องการซื้อของสด ผลไม้ อาหารเช้า มีตลาดสดรอบนอกค่ะ ให้มาเช้าหน่อย ประมาณ 6.30-8.30 น. ส่วนด้านในก็จะขายกันทั้งวัน ให้เดินกันได้จุใจกันเลยค่ะ

นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของตลาดกิมหยงเท่านั้นนะคะ ยังมีอาหารเด็ดๆให้เลือกหาทานกันรอบๆตลาดกิมหยงอีกเพียบ ไม่ว่าจะมากี่โมงก็จะมีอาหารการกินไว้ต้อนรับคุณเสมอ เรียกได้ว่ามาที่นี่ที่เดียวจบ! เอาละค่ะ วันนี้ก็ได้เทคนิคการซื้อของดีของแนะนำขึ้นชื่อกันไปแล้ว จะรอช้าอยู่ไย มาพิสูจน์ของดีของขึ้นชื่อที่หาดใหญ่กัน ตลาดกิมหยงรอต้อนรับทุกคนอยู่นะคะ :)

ติดตามแหล่งกินเที่ยวในหาดใหญ่อีกเพียบใน

15 ตลาดน่าเที่ยวหาดใหญ่ - สงขลา งานนี้ได้ทั้งช็อป ชิม ชิลล์
เที่ยวหาดใหญ่-สงขลา 1 Day Trip เช็กอินใกล้ ๆ กินร้านเด็ดห้ามพลาด 
10 โรงแรมหาดใหญ่-สงขลา เปิดใหม่ 2018 บรรยากาศดีน่านอน
ชี้เป้า!! 10 ร้านดังห้ามพลาด เมื่อมาหาดใหญ่