ปัญหาหนักใจของทาสแมวคงหนีไม่พ้นเรื่อง “การติดเชื้อราจากแมว” ยิ่งช่วงที่อากาศชื้น ๆ การติดเชื้อราก็ง่ายขึ้น เวลาติดเชื้อราจากแมวแต่ละทีก็ต้องใช้เวลารักษานานเป็นเดือน ๆ ในขณะเดียวกันบางคนก็เป็นแบบไม่หายขาดด้วย บอกเลยว่าหนักใจสุด ๆ วันนี้เราจะพาทาสแมวไปทำความรู้จักกับเชื้อราแมว รู้จักอาการ วิธีการป้องกัน และวิธีการรักษาแบบไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำแบบเจาะลึกกันไปเลย ว่าแล้วก็ไปอ่านด่วนนน!
มารู้จัก “เชื้อราแมว” กันเถอะ!

เชื้อราแมว (Microsporum canis) คือ เชื้อราที่ทำให้แมวเป็นโรคผิวหนัง โดยแมวที่ติดเชื้อราจะมีขนหลุดเป็นหย่อม ๆ ผิวหนังแดง แห้ง ลอกเป็นขุย และมีการตกสะเก็ดร่วมด้วย ซึ่งผู้ที่ชอบสัมผัสกับแมวโดยไม่ทำความสะอาดหลังจากสัมผัสจะมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อจากแมวได้ นอกจากแมวแล้วสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น ๆ เช่น สุนัข แฮมสเตอร์ ก็สามารถพบการติดเชื้อรานี้ได้เช่นกัน
ใครเสี่ยงติด “เชื้อราจากแมว” ได้บ้าง?

- เด็ก
- ผู้สูงอายุ
- คนที่ภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง
เมื่อติด “เชื้อราแมว” จะมีอาการอย่างไรบ้าง ?

หลังจากที่รู้จักเชื้อราแมวกันไปแล้ว เรามาดูกันหน่อยดีกว่าว่าถ้าติดเชื้อราจากแมวแล้วจะมีอาการอะไรบ้าง ? เพื่อที่จะได้เตรียมตัว เตรียมใจไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เวลามีอาการขึ้นมาจะได้ไม่ตกใจจนเกินไป
- มีผื่นแดงขึ้นตามผิวหนัง ทั้งวงเล็กและวงใหญ่
- มีขุยขึ้นบริเวณรอบ ๆ ผื่นแดงคัน
- คันตามผื่นแดงตลอดเวลา
- อาจเกิดผื่นแดงเพิ่มขึ้นได้หากเกาบริเวณผื่นแดง และไปสัมผัสตามจุดต่าง ๆ ของร่างกาย
วิธีป้องกันการติดเชื้อราจากแมว

เมื่อเรารู้จักกับเชื้อราแมว และรู้อาการเบื้องต้นของการติดเชื้อราแมวไปแล้ว เรื่องต่อไปที่ไม่รู้ไม่ได้นั่นก็คือ วิธีป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อราแมวนั่นเอง เพราะเมื่อเราป้องกันตัวเองอย่างถูกต้อง โอกาสที่จะติดหรือกลับมาติดเชื้อราจากแมวก็จะลดลง
- นำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อรา
- ดูแลความสะอาดของสัตว์เลี้ยงอยู่เสมอ
- หากสัตว์เลี้ยงเป็นโรคผิวหนัง พบผื่น หรือรอยแดงที่ผิวหนังควรพาไปพบสัตวแพทย์ เพื่อรักษาและหลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์เลี้ยงที่เป็นโรคผิวหนังจนกว่าจะหาย
- ทำความสะอาดมือ และอวัยวะต่าง ๆ ทุกครั้งหลังสัมผัสหรือใกล้ชิดสัตว์เลี้ยง
- ทำความสะอาดสิ่งของภายในบ้านที่สัตว์เลี้ยงสัมผัส เช่น โซฟา โต๊ะ เก้าอี้
- ไม่ควรคลุกคลีกับสัตว์ที่เลี้ยงในระบบเปิดอย่างใกล้ชิดมากเกินไป
วิธีรักษาการติดเชื้อราแมว

เมื่อทาสแมวอย่างเราพบว่าตัวเองติดเชื้อราแมวเข้าให้แล้ว อย่าปล่อยทิ้งไว้ ควรรีบไปปรึกษาเภสัชกร หรือ คุณหมอ และอีกหนึ่งวิธีรักษาที่ทำได้ไม่ยาก ก็คือ การทายาฆ่าเชื้อรา นั่นเองค่ะ แล้วก็อย่าลืมเลือกให้เหมาะสมกับบริเวณและอาการที่เป็น เช่น ใบหน้า หรือ ท้องแขน แบบครีม ก็จะระคายเคืองน้อยกว่าแบบโลชั่น
*ที่สำคัญ ต้องทายาให้ถูกวิธี ไม่งั้นเชื้อราจะกลับมาเป็นซ้ำๆ กวนใจไม่รู้จบ
- ทาเลยขอบผื่นแดง 1-2 ซม.
- ทาต่อเนื่อง 2-4 สัปดาห์
- ทาวันละ 2-3 ครั้ง
Note : ตอนนี้ มีแบบใหม่ Once Daily ทาแค่วันละ 1 ครั้ง ก่อนนอน สะดวก ทั้งฆ่าเชื้อรา บรรเทาอาการคัน และลดปัญหาการกลับมาเป็นซ้ำหากเราลืมทายาระหว่างวันได้ด้วย เหมาะกับทาสแมวขี้ลืม
**หากมีอาการคัน แดง อักเสบ ลุกลาม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการรักษาที่เหมาะสม

เห็นไหมคะว่าเชื้อราจากแมวนั้นร้ายกาจและน่ากลัวขนาดไหน บางคนเวลาติดเชื้อราแมวก็ต้องใช้เวลารักษาร่วมเดือนกว่าจะหาย แถมบางคนเป็นแล้วก็กลับมาเป็นอีกไม่หายขาดสักที แต่หลังจากอ่านบทความนี้จบ เราเชื่อเหลือเกินว่าทาสแมวทุกคนจะมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับเชื้อราแมว การป้องกัน และการรักษาเป็นอย่างดี ห่างไกลจากการกลับมาเป็นซ้ำ ใช้ชีวิตและเลี้ยงน้องแมวได้แบบไม่สะดุดอีกต่อไป!
หากใครไม่แน่ใจว่า เป็นเชื้อราผิวหนังอยู่หรือไม่ ลองปรึกษาเภสัชกร หรือ คุณหมอที่ Raksa App ตาม linkนี้ ได้เลย >> https://raksa.onelink.me/3prh/3c0e03ca