จริง ๆ เรื่องของลิปบาล์มค่อนข้างมีความสำคัญต่อริมฝีปากของเรามาก ๆ เลย เพราะถ้าไม่ทาลิปบาล์มติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ นอกจากริมฝีปากจะขาดความชุ่มชื้นแล้วสีของริมฝรปากอาจจะคล้ำได้ด้วย วันนี้ Wongnai Beauty ชวนทุกคนมาดูกันว่ามีลิปบาล์ม ยี่ห้อไหนดี? น่าใช้ และราคาเท่าไรบ้าง พูดได้เลยว่าดูจบอาจจะอยากได้ลิปบาล์มแท่งใหม่ก็ได้นะคะ
ทริคการเลือกลิปบาล์มให้เหมาะกับการใช้งาน!
ก่อนอื่นเราอยากพาทุกคนมาทำความรู้จักประเภทของลิปบาล์มกันก่อนว่าเขามีหน้าที่อะไรบ้าง เพื่อที่เวลาทุกคนไปเลือกซื้อลิปบาล์มจริง ๆ จะได้เลือกถูกว่าอยากให้เขาตอบโจทย์อะไรในการใช้งานบ้าง จริง ๆ ลิปบาล์ม มีทั้งหมด 2 ประเภทด้วยกันมาขยายความแต่ละประเภทกันหน่อย
- ลิปบาล์มสำหรับบำรุงผิว : ถ้าทุกคนอยากได้ลิปบาล์มเพื่อบำรุงริมฝีปากให้มีความชุ่มชื้นต้องเลือกลิปบาล์มสำหรับบำรุงผิว เพราะเขาจะช่วยรักษาริมฝีปากแห้ง หรือลอกเป็นขุยได้ดี ทั้งนี้ทุกคนควรเลือกลิปบาล์มที่ไม่มีสีเพื่อเน้นไปที่สารบำรุงริมฝีปากให้ยังอิ่มน้ำ และคงความชุ่มชื้นให้กับริมฝรปากได้อย่างยาวนาน โดยที่ไม่มีสารตัวอื่น ๆ เข้ามารบกวน ทั้งนี้อาจจะเลือกลิปบาล์มที่มีส่วนผสมของวิตามิน E ด้วยได้จะดีมากเพราะว่าเขาจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดี
- ลิปบาล์มเปลี่ยนสี : สำหรับใครที่ต้องการแก้ปัญหาริมฝีปากคล้ำเราขอแนะนำเป็นลิปบาล์มที่สามารถเปลี่ยนสีได้ เพราะถึงว่าการบำรุงริมฝีปากให้มีความชุ่มชื้นจะไม่ได้มากแค่ว่าเขาสามารถมอบความเนียนนุ่มให้กับริมฝีปากได้เหมือนกันค่ะ ที่สำคัญเขายังช่วยทำให้ริมฝีปากของเรานั้นแวววาว มีสเน่ห์มากขึ้นด้วย ในส่วนของการเปลี่ยนสีทุกคนสามารถเลือกได้เลยว่าอยากได้เฉดสีไหน ในยุคนี้เขามีการพัฒนาในเรื่องของสีลิปบาล์มไปมากพอสมควรอยู่นะคะ
อ่านส่วนผสมของลิปบาล์มให้ดี : ต้องบอกว่าส่วนผสมที่เราสามารถเจอได้บ่อย ๆ ในลิปบาล์มคือปิโตรเลียมเจลลี (Petrolatum) เขาเป็นน้ำมันปิโตรเลียมที่ผ่านกระบวนผลิตทำให้มีความบริสุทธิ์ และมีหน้าที่ในการกักเก็บน้ำปกป้องผิวของเราได้เป็นอย่างดี เหมาะกับสาว ๆ ที่ริมฝีปากแห้งมาก ๆ และอยากกู้ผิวริมฝีปากแบบด่วน ๆ ทั้งนี้ทุกคนสามารถดูส่วนผสมอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ว่าอยากให้ลิปบาล์มมีส่วนช่วยในการลดริ้วรอยไหม หรือว่าอยากเติมความสดชื่นทาแล้วเย็นสบายริมฝีปากก็ต้องอ่านส่วนผสมดี ๆ นะคะ
อย่าลืมเลือกลิปบาล์มที่มีส่วนผสมของสารกันแดด : ความร้อนและแดดของประเทศเราไม่แพ้ใคร การเลือกลิปบาล์มที่มีส่วนผสมของสารกันแดดจะช่วยลดความหมองคล้ำและป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยที่ริมฝีปากได้ดีมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันสุขภาพของริมฝีปากจากมลภาวะต่าง ๆ ได้ด้วย ทั้งนี้เราควรมั่นเติมลิปบาล์มบ่อย ๆ หากใครไม่ชอบทาลิปสติกจะดีต่อริมฝีปากมาก ๆ เลยค่ะ
10 ลิปบาล์ม ยี่ห้อไหนดี? ทาแล้วช่วยเติมความชุ่มชื้น ดูสุขภาพดี!
Himalaya Lip Balm
Himalaya Lip Balm เป็นลิปบาล์มที่เราค่อนข้างชอบเลยค่ะ เขาสามารถคืนความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยปกป้องริมฝีปากจากรังสี UV ได้ด้วย เหมาะกับคนที่ริมฝีปากแห้งมาก ๆ และต้องการบำรุงริมฝีปากบ่อย ๆ ถ้าให้เราแนะนำคิดว่าช่วงเวลาที่เหมาะกับการทาลิปบาล์มตัวนี้คือตอนกลางคืนค่ะ เข้าจะช่วยฟื้นฟูบำรุงริมฝีปากได้ดีเลย
เหมาะกับใคร : สาว ๆ ที่ริมฝีปากแห้งถึงแห้งมากต้องการบำรุงเร่งด่วน
ปริมาณ : 10 g.
ราคา : 88 บาท
พิกัด : ห้างสรรพสินค้าและร้านขายยาชั้นนำทั่วไป
Source : 1
Vaseline Lip Therapy Jelly Rosy
ถ้าพูดถึงลิปบาล์มจะไม่มี Vaseline Lip Therapy Jelly Rosy คงไม่ได้เขาเป็นลิปบาล์มที่ทำมาจาก Petroleum Jelly 100% เลยค่ะ ความเข้มข้นของเขามาแบบกำลังดีทาแล้วไม่เหนียวเหนอะหนะ ทำให้ริมฝีปากได้รับความชุ่มชื้นอย่างที่ต้องหาร ทุกคนสามารถทาลิปบาล์มตัวนี้เป็น Lip Sleeping Mask ได้เลยนะคะ ใดใดคือใช้ต่อเนื่องกันนาน ๆ จะช่วยบำรุงสีผิวของริมฝีปากที่หมองคล้ำให้กลับมาดูดีขึ้นได้ด้วย
เหมาะกับใคร : คนที่ต้องลิปบาล์มที่ให้ความชุ่มชื้นและช่วยเรื่องความหมองคล้ำของสีผิวริมฝีปาก
ปริมาณ : 7 g.
ราคา : 159 บาท
พิกัด : ห้างสรรพสินค้าและร้านขายยาชั้นนำทั่วไป
Source : 1
Eucerin Lip Active
สาว ๆ ที่ผิวแพ้ง่ายและอยากต้องลิปบาล์มดี ๆ สักแท่งเราขอแนะนำ Eucerin Lip Active แท่งนี้เลยค่ะ เขาไม่มีน้ำหอมและสารแต่งสี ผ่านการทดสอบมาแล้วปลอดภัยต่อผู้ผิผวแพ้ง่าย อีกทั้งยังมีการบำรุงความชุ่มชื้นด้วย Dexpathenol และ Vitamin E สามารถป้องกันผิวริมฝีปากจากรังสี UV ได้ เรียกได้ว่าปลอดภัยและดูแลริมฝีปากเราได้แบบครบทุกจุดเลยค่ะ
เหมาะกับใคร : ใช้ได้ทุกคนและเหมาะมากกับคนผิวแพ้ง่าย
ปริมาณ : 4.8 g.
ราคา : 280 บาท
พิกัด : ห้างสรรพสินค้าและร้านขายยาชั้นนำทั่วไป
Source : 1
Innisfree Canola Honey Lip Balm
มาดูลิปบาล์มจาก Innisfree Canola Honey Lip Balm กันหน่อยดีกว่าค่ะ ต้องบอกว่าลิปบาล์มสูตรนี้เขามาจากสารสกัดเข้มข้น สามารถช่วยบำรุงริมฝีปากของเราได้อย่างล้ำลึกด้วยสารสกัดจากน้ำผึ้งดอกคาโนล่า และน้ำมันสกัดจากเมล็ดดอกคาโนล่า อุดมไปด้วยฟลาโวนอยด์และโปรตีน ใช้แล้วช่วยให้ริมฝีปากของเราเนียนนุ่มและยืดหยุ่น อีกทั้งเขายังกักเก็บความชุ่มชื้นเคลือบริมฝีปากเอาไว้ได้เป็นอย่างดี
เหมาะกับใคร : คนที่อยากลิปบาล์มที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ
ปริมาณ : 3.5 g.
ราคา : 300 บาท
พิกัด : Innisfree ทุกสาขา
Source : 1
Mediheal Pantenolips Healssence
หากสาว ๆ คนไหนอยากบำรุงริมฝีปากอย่างเร่งด่วนและชอบให้ริมฝีปากให้มันวาวต้อง Mediheal Pantenolips Healssence เลยค่ะ ลิปบาล์มหลอดนี้มีส่วนผสมของน้ำมันจากเมล็ดดอกทานตะวัน น้ำมันมะกอก น้ำมันอาร์แกน วิตามินบี 5 ช่วยลดการลอกและแตกเป็นขุยให้กลับมาชุ่มชื้น อีกทั้งช่วยให้ปากมีสีชมพูอ่อนและผ่านการทดสอบระคายเคืองจากแพทย์ผิวหนัง ใดใดคือเขาจะหนึบของลิปอาจจะเลอะฝุ่นได้ง่าย
เหมาะกับใคร : คนที่ต้องการบำรุงผิวริมฝีปากอย่างเร่งด่วน
ปริมาณ : 10 g.
ราคา : 199 บาท
พิกัด : ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป
Source : 1
Laneige Lip Treatment Balm
Laneige Lip Treatment Balm เป็นอีกลิปบาล์มที่น่าสนใจเพราะเขาไม่ได้ให้แค่ความชุ่มชื้นอย่างเดียว แต่ยังมีกิมมิกเป็นประกายแวววาวจากกลิตเตอร์ที่ผสมอยู่ในเนื้อลิป ตัวเนื้อลิปบาล์มมีความเข้มข้นเล็กน้อย กลิ่นหอมหวาน ทาแล้วได้ความเย็นสบายปาก ความน่ารักคือเขามีแปลงให้ด้วย ทุกคนสามารถทาลิปบาล์มก่อนลงลิปสติกได้ จะได้ไม่ตกร่องทำให้ริมฝีปากสวยงาม
เหมาะกับใคร : คนที่อยากได้ลิปบาล์มที่มีกลิตเตอร์น่ารัก ๆ
ปริมาณ : 10 g.
ราคา : 800 บาท
พิกัด : เคาน์เตอร์ Laneige ทุกสาขา
Source : 1
Dior Addict Lip Glow
มาต่อกับ Dior Addict Lip Glow กันต่อเลย นอกจากทุกคนจะได้การบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้นด้วยแล้วตัวเนื้อลิปบาล์มยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Color Reviver และเทคโนโลยีฟื้นฟูสี ที่ทำให้สีลิปบาล์มเปลี่ยนไปตามความชื้นและค่า pH ของริมฝีปากแต่ละคน ทั้งนี้คือการทาลิปบาล์มทุกคนจะได้สีที่แตกต่างกันออกไปแต่สวยเพราะเข้าตัวเองมากที่สุดนั่นเอง แอบบอกว่าลิปมีกลิ่นหอมของวานิลลาด้วยทาแล้วฟินเลยล่ะค่ะ
เหมาะกับใคร : คนที่อยากได้ลิปบาล์มพกติดตัวไปทาได้เนื้อไม่หนักริมฝีปากมาก
ปริมาณ : 3.2 g.
ราคา : 1,650 บาท
พิกัด : เคาน์เตอร์ Dior ทุกสาขา
Source : 1
Sasi Day Good Color & Care SPF30 PA+++ Lip Balm
ใครที่กำลังมองหาลิปบาล์มที่สามารถปกป้องริมฝีปากจากรังสี UV ได้เราแนะนำ Sasi Day Good Color & Care SPF30 PA+++ Lip Balm เลยค่ะ เขามีค่า SPF 30 / PA+++ ต้องบอกว่าสูงมากกก นอกจากนี้เขายังมีส่วนผสมของเชียบัตเตอร์ น้ำมันโจโจบา กรดไฮยาลูรอนิค และวิตามิน E ทำให้ช่วยล็อกความชุ่มชื้น และทำให้ปากเนียนนุ่ม ทั้งนี้ใครที่แพ้ง่ายอาจจะข้ามน้องไปเพราะมีส่วนผสมของน้ำหอม
เหมาะกับใคร : คนที่อยากได้ลิปบาล์มที่สามารถป้องกันรังสี UV ได้ด้วย
ปริมาณ : 3.5 g.
ราคา : 99 บาท
พิกัด : ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป
Source : 1
Mentholatum Maxilip Caviar + Hyaluronic Acid
Mentholatum Maxilip Caviar + Hyaluronic Acid เป็นตัวช่วยในการฟื้นฟูริมฝีปากที่หมองคล้ำให้กลับมากระจ่างใสขึ้นอีกครั้งหากใช้อย่างต่อเนื่อง ด้วยส่วนผสมของ Carvier ที่ช่วยบำรุงความชุ่มชื้นได้อย่างยาวนานกว่าสูตรเก่า อีกทั้งยังไม่มีน้ำหอมและสารกันเสียที่จะทำให้เกิดการแพ้ได้ ถือว่าเป็นลิปบาล์มที่ไม่สี ไม่มีกลิ่น และทาง่ายมากก ใครอยากได้ลิปบาล์มไว้เติมระหว่างวันเราคิดว่ายี่ห้อนี่เหมาะเลยค่ะ
เหมาะกับใคร : คนที่อยากได้ลิปบาล์มเอาไว้เติมระหว่างแบบไม่หนักริมฝีปาก
ปริมาณ : 3.8 g.
ราคา : 189 บาท
พิกัด : Lazada, Shopee และ Konvy
Source : 1
DAZZLE ME Fruit Justice Lip Balm
สุดท้ายเป็นลิปบาล์มจาก DAZZLE ME Fruit Justice Lip Balm ตัวลิปบาล์มจากแบรนด์นี้จะมีเฉดสีให้เลือกด้วยกันถึง 4 เฉดสี คือ สีชมพู, สีส้ม, สีพีช และแบบไม่มีสี ซึ่งตตัวลิปจะปรับค่าสีตาม pH ของร่างกาย ทำให้ได้ลุคธรรมชาติพร้อมบำรุงริมฝีปากด้วยสารสกัดจากผลไม้อย่างสตรอว์เบอรี่ ส้ม และพีช มีส่วนช่วยลดความหมองคล้ำและทำให้ริมฝีปากชุ่มชื้น เนื้อลิปบางเบาไม่เหนอะหนะ ซึมเร็ว ไม่มันเยิ้มอีกด้วย
เหมาะกับใคร : คนที่อยากได้ลิปบาล์มเปลี่ยนสีตามค่า pH
ปริมาณ : 3.5 g.
ราคา : 99 บาท
พิกัด : Lazada, Shopee และ Konvy
Source : 1
จริง ๆ ต้องบอกว่าลิปบาล์มมีอีกหลายยี่ห้อมาก ๆ และหลาย ๆ คนเองก็น่าจะลองเปลี่ยนไปหลาย ๆ แบรนด์แล้วเหมือนกัน ต้องบอกว่าตัวเราเองก็ยังชอบเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เลยค่ะ ทดลองจนเจออันที่เหมาะกับตัวเองถึงจะยืนพื้นเป็นยี่ห้อนั้น ๆ ใครที่มีลิปบาล์มอื่น ๆ นอกเหนือจากที่เราแนะนำสามารถเอามาแชร์บอกต่อกันได้นะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
