1. ร้านเด็ด Best of Wongnai 2015 ย่าน หลังสวน - ชิดลม - เพลินจิต

ร้านเด็ด Best of Wongnai 2015 ย่าน หลังสวน - ชิดลม - เพลินจิต

อัพเดทเมื่อ 9 ต.ค. 2562
ร้านเด็ด Best of Wongnai 2015 ย่าน หลังสวน - ชิดลม - เพลินจิต
หลังสวน - ชิดลม - เพลินจิต ย่าน hangout สุดฮิตอีกแห่งใจกลางเมือง ด้วยความที่เดินทางได้สะดวกสบาย และบรรยากาศที่ไม่วุ่นวายจนเกินไป เหมาะกับการใช้เวลาผ่อนคลาย ใช้ชีวิตให้ช้าลง ทำให้ย่านนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกอันดับแรกๆ ที่ชาวกรุงเลือกสำหรับโอกาสพิเศษ
ใครที่มองหาความหรูหราห้ามพลาดโดย เด็ดขาดสำหรับ Dessert Bar ชื่อดังจากนิวยอร์กมาเปิดแฟรนไชส์ที่ “Central Embassy” จุดเด่น ของร้านนี้ คือ เคาน์เตอร์บาร์กลางร้านที่วางเก้าอี้ ไว้โดยรอบ ให้ลูกค้านั่งชมเชฟจัดจาน นวดแป้ง อบขนมกันแบบสดๆ ส่วนของหวานจะเสิร์ฟแบบ Course ซึ่งมีให้เลือกสามแบบสามสไตล์ แถมมี ตัวเลือกเป็นไวน์ขาวแพริ่งกับขนมด้วย และแบบ A la carte ให้เลือก ซึ่งเมนูที่ขึ้นชื่อคือ “Creme Brulee Dough’Ssant” แป้งครัวซองท์บางกรอบ สอดไส้ครีมหวานกําาลังดี หรือพุดดิ้งอย่าง “Jack Daniel’s Bread Pudding” ก็ขายดีไม่แพ้กัน

Gaggan

1.9k
ร้านอาหารอินเดียแนวใหม่สไตล์ “Molecular Gastronomy” ของเชฟ “Gaggan Anand” ที่ตกแต่งแบบเรียบง่ายโดยใช้สีขาวทั้งหมดจุดเด่น คือ อาหารสไตล์ “Molecular Gastronomy” ที่นําหลักการทางวิทยาศาสตร์มาสร้างความน่าตื่นเต้นให้กับอาหาร อาทิ “Yoghurt Explosion” ที่ใช้ เทคนิค “Spherification” มาทําให้โยเกิร์ตเหลวๆ จับตัวเป็นก้อนดูเด้งดึ๋งพอเอาเข้าปากปั๊บ โยเกิร์ตก็จะแตกโพละในปาก หรือ เมนูสุดแปลกอย่าง “Viagra” ที่นําหอยนางรมสดกับไอศกรีม “Horse Radish” รสเผ็ดมาผสานกับแอปเปิ้ลหมักส้มยูสุและ เครื่องเทศ จนกลายเป็นความอร่อยที่ลงตัว
แฮงก์เอาท์อย่างมีระดับที่ “Hyde & Seek Gastro Bar” ในร้านบรรยากาศสุดแสนคลาสสิก แบบยุโรป ที่ตั้งอยู่ในซอยร่วมฤดี พร้อมลิ้มรสชาติ อาหารจากเชฟชื่อดังของเมืองไทยอร่อย กับสุดยอดเมนูจาก “เชฟเอียนกิตติชัย ” และ “เชฟปีเตอร์ พิทักษ์วงศ์” ที่ได้นับความนิยมสุดๆ เช่น Salad My Way, Atlantic Salmon at 48.8C, Wagyu Beef Yankee Burger,12 Hours Braised Pork Belly และยังมีค็อกเทลอร่อยๆ การันตี รางวัลที่ 1 ระดับประเทศ หรือพรีเมี่ยม เบียร์นําเข้าให้ดื่มด่ำอีกด้วย
3.9
381 รีวิว฿฿฿
ราเมงแบบฮากาตะจากเชฟ “ราเมงคิง ” ถึง 3 ปีซ้อน เป็นราเมงน้ําซุปทงคตสึสีขาวข้นจากการ เคี่ยวกระดูกหมูหลายชั่วโมง เข้าคู่กับเส้นราเมง ที่ทำด้วยมือ ซึ่งราเมงที่นี่เสิร์ฟให้อร่อ ยกัน 3 แบบ คือ อากะมารุ ชินนาจิ น้ําาซุปทงคตสึที่ผสมกับมิโซะ และน้ำมันกระเทียม, ชิโรมารุ โมโตอาจิ ซุปทงคตสึที่เข้าคู่กับราเมงแบบเส้นเรียวเล็ก และ คาราคาเมง ที่ผสมผสานน้ำซุปทงคตสึกับมิโซะแบบเผ็ด หมูสับ และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ นอกจากราเมงแล้ว ที่ “Ippudo” ยังมีของกินเล่นอย่างพอร์คบัน และ อาหารเรียกน้ำย่อยอย่าง Spicy Shrimp Mayo ให้ลิ้มลองด้วย
“The Rain Tree Cafe” เป็นห้องอาหารของโรงแรม Plaza Athenee ที่นี่ให้บริการอาหาร แบบบุฟเฟต์ มีอาหารให้เลือกทานหลากหลายแนว ทั้งอาหารไทย จีน ญี่ปุ่น อาหารตะวันออก อาหารตะวันตก อาหารตามสั่งแบบ นานาชาติ และอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งคัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศ จากประเทศต่างๆ ส่งตรงจากแหล่ง จึงมีเมนูอร่อยให้เลือกทานมากมาย เมนูที่ไม่ควรพลาดแน่ๆ ทุกครั้งที่ไป คือ ฟัวกราส์ และ ช็อกโกแลตฟองดูว์ รวมถึง ปลาคอดแบบซิซิลี, เนื้อในซอสไวน์ และบาร์บีคิวกุ้งมังกร
ร้านไก่ทอดเจ๊กีเป็นร้านที่ดังมาอย่างยาวนาน จนกลายเป็นภาพชินตาที่จะเห็นร้านนี้คนแน่นเอี้ยดตลอดเวลา ถึงขนาดต้องรอคิวในบางช่วงเลยทีเดียว และมีบริการส่งถึงที่ทั่วกรุงเทพฯ ไว้คอยบริการด้วย ทีเด็ดของร้านแน่นอนนั่นคือ “ไก่ทอด” ที่ทอดมาแบบกรอบนอกนุ่มใน กินคู่กับข้าวเหนียวนุ่มๆ อุ่นๆ อร่อยจนหยุดไม่อยู่ เพิ่มความอร่อย เป็นพิเศษด้วยกระเทียมเจียวสูตรเด็ดโรยมาบนไก่ทอด เป็นกระเทียมเจียวที่กรอบอร่อยและ มีรสชาติ นอกจากไก่ทอดแล้ว ยังมีอาหารอีสานอีกหลายเมนู เช่น ส้มตํา ลาบ น้้ำตก ที่อร่อยเด็ด และกินเข้ากับไก่ทอดได้ดีอีกด้วย