คมนาคมเผยเปิดใช้ “ระบบตั๋วร่วม BTS และ MRT” คาดเริ่ม ต.ค. 63 นี้!
  1. คมนาคมเผยเปิดใช้ “ระบบตั๋วร่วม BTS และ MRT” คาดเริ่ม ต.ค. 63 นี้!

คมนาคมเผยเปิดใช้ “ระบบตั๋วร่วม BTS และ MRT” คาดเริ่ม ต.ค. 63 นี้!

คมนาคมเผยจับมือ BTS และ MRT เซ็นสัญญาเร่งพัฒนา “ระบบตั๋วร่วมรถไฟฟ้า” ให้ประชาชนสามารถใช้บริการได้ด้วยบัตรโดยสารเพียงใบเดียว คาดเริ่มใช้งานได้ 1 ตุลาคม 2563 นี้!
writerProfile
24 ส.ค. 2020 · โดย

ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง! วันที่เราจะขึ้นรถไฟฟ้า BTS และ MRT โดยไม่ต้องซื้อบัตรโดยสารสองใบ เพราะล่าสุดกระทรวงคมนาคมเปิดเผยแล้วว่า กำลังพัฒนา “ระบบตั๋วร่วม (Common Ticket)” ในรูปแบบ Interoperability อย่างเร่งด่วน เพื่อที่จะทำให้บัตรแมงมุม, บัตร MRT Plus ของ รฟม. และบัตร Rabbit ของ BTS สามารถใช้งานร่วมกันได้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2563 นี้!

เริ่มต้นระบบตั๋วร่วมก่อน 3 สาย

สำหรับเป้าหมายแรกของระบบตั๋วร่วม BTS และ MRT ที่จะเปิดใช้งานได้ในตุลาคมนี้ จะทดลองเปิดให้ใช้บริการเฉพาะส่วนของรถไฟฟ้าก่อน โดยเริ่มจาก

  • รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน
  • รถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง
  • รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว

ส่วนรถไฟฟ้า Airport Rail Link จะยังใช้งานไม่ได้นะ เนื่องจากยังติดปัญหาจากผู้พัฒนาระบบ และในอนาคตจะเชื่อมต่อระบบให้สามารถครอบคลุมไปยังทั้งรถโดยสาร ขสมก. และระบบเรือโดยสารอีกด้วย ซึ่งคาดว่าจะทำให้เสร็จภายในปี 2564 จ้า

เจรจาค่าธรรมเนียมใช้บัตร

จากเท่าที่รองปลัดกระทรวงคมนาคมเปิดเผยนั้น ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนเรื่องข้อตกลงเก็บค่าธรรมเนียมการใช้บัตรข้ามระบบ แต่ รฟม.เสนอว่าให้เก็บในอัตรา 0.3% สำหรับผู้ออกบัตร และไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมการชำระบัญชี

และสำหรับบัตรโดยสารแตะเข้าข้ามระบบ เพื่อให้สะดวกต่อการเดินทาง ผู้ใช้บริการยังจ่ายค่าแรกเข้าและค่าโดยสารตามเดิม ก่อนจะพัฒนาเป็นค่าโดยสารร่วม โดยอาจจะจ่ายค่าแรกเข้าครั้งเดียวในอนาคตค่ะ

ส่วนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรแมงมุม 2.5) สำหรับผู้มีรายได้น้อย สามารถใช้ชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้า MRT, BTS และ Airport Rail Link ได้ตามเดิม ซึ่งจะหมดอายุในเดือน ต.ค. 2565 จากนั้นจะเปลี่ยนเป็น “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ภายใต้โครงการไทยนิยมยั่งยืน (บัตรแมงมุม 4.0)” ที่เป็นระบบเปิด EMV ผ่านบัตรเครดิต ระบบเดียวกับที่ รฟม.กำลังพัฒนานั่นเอง

ถือว่าเป็นข่าวดีมาก ๆ เลยสำหรับทุกคนที่ต้องใช้บริการรถไฟฟ้า BTS และ MRT ซึ่งในอนาคตระบบตั๋วร่วมนี้ จะช่วยให้การเดินทางสะดวกสบายและง่ายยิ่งขึ้นอีกเท่าตัว นับเป็นก้าวแห่งการพัฒนาที่ดีสำหรับการคมนาคมของไทยเลยล่ะค่ะ แต่ทั้งนี้! ระบบนี้เป็นเรื่องใหม่ จึงต้องใช้เวลานานในการพัฒนากว่าจะถึงเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งคาดว่าทุกคนอาจจะต้องรอดูและติดตามเรื่องนี้กันอยู่เรื่อย ๆ ด้วยนะคะ :)

ตามไปดูบทความที่เกี่ยวข้องได้ที่