“ข้าวมันไก่ซูวี เติมจนอิ่ม” เคล็ดลับเนื้อนิ่ม ที่ทำลูกค้าติดใจ

#วงในบอกมา

“ข้าวมันไก่ซูวี เติมจนอิ่ม” ร้านข้าวมันไก่ที่จะปรุงด้วยการซูวีด์ ควบคุมอุณหภูมิตลอดทั้งวัน
“ข้าวมันไก่ซูวี” จะมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มและสีชมพูระเรื่อ เมื่อฉีกจะไม่เป็นเส้นกระด้างเหมือนกับการต้ม
ในการซูวีด์แต่ละครั้งต้องคุมอุณภูมิตลอดเวลา เพราะไก่แต่ละชิ้นจะใช้อุณหภูมิต่างกันตามขนาด

ข้าวมันไก่ซูวี เติมจนอิ่ม — เคล็ดลับเนื้อนุ่ม ชุ่มไปด้วยคุณภาพ

“เมื่อก่อนไม่ชอบกินส่วนอกไก่เท่าไหร่ แต่พอเจอร้านนี้ต้องยอมเลย” เสียงเซ็งแซ่ของชาวรถสิบล้อในย่านคู้บอนไม่สามารถกลบเสียงชื่นชมของลูกค้าที่มีต่อร้าน “ข้าวมันไก่ซูวี เติมจนอิ่ม” ข้าวมันไก่ชื่อดังย่านคู้บอนที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ และกรรมวิธีสุดพิถีพิถันในราคาแสนจะเป็นกันเอง จนกลายเป็นร้านยอดฮิตที่ลูกค้าหลายคนพากันติดใจ

แค่อ่านชื่อร้านก็สะดุดแล้ว ตั้งแต่การใช้เทคนิคซูวีด์ ไปจนถึงคำว่าเติมจนอิ่ม นิชาพากินเลยขอนั่งรถมาชิมและชมให้เห็นกับตาว่าข้าวมันไก่ของร้านนี้จะพิเศษอย่างไร พร้อมกับพูดคุยถึงไอเดียในการเปิดร้านกับ คุณหมี่-แสงรุ่ง มณฑีรรัตน์ จนได้ความว่า จุดเริ่มต้นของเมนูจานนี้เกิดจากหลานชายวัย 2 ขวบ ที่ไม่สามารถเคี้ยวอกไก่ได้เพราะเจ็บเหงือก คุณหมี่จึงนำไก่ไปซูวีด์เพื่อให้นิ่มลง และต่อมาจึงลองปรับสูตรเป็นเมนูข้าวมันไก่ก่อนจะนำมาขายดู

ด้วยรสสัมผัสที่แตกต่างและราคาที่ทุกคนเอื้อมถึง “ข้าวมันไก่ซูวี เติมจนอิ่ม” จึงกลายเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว และนำมาสู่การพัฒนาธุรกิจเพื่อตอบรับความต้องการลูกค้าอย่างต่อเนื่อง “ตอนแรกร้านเรามีเวลาเปิดปิดแบบร้านอาหารทั่วไปนี่แหละค่ะ จนกระแสตอบรับดีมาก ถึงขนาดร้านจะปิดแล้วก็ยังมีออร์เดอร์มาตลอด เลยตัดสินใจเปิด 24 ชั่วโมงไปเลย พร้อมกับบริการพิเศษที่ลูกค้าสามารถเพิ่มข้าวได้ไม่อั้น เพื่อให้ลูกค้าสามารถกินข้าวมันไก่ร้านเราได้ไม่ว่ามื้อไหน”

ซึ่งหัวใจหลักที่ทำให้ลูกค้าหลงรักรสชาติของ “ข้าวมันไก่ซูวี เติมจนอิ่ม” คงจะหนีไม่พ้นเทคนิคในการปรุงไก่ที่คุณหมี่ลงทุนนำเครื่องซูวีด์มาตั้งตระหง่านที่ร้านกันเลยทีเดียว เพราะด้วยขั้นตอนที่ต้องใส่ใจรายละเอียดเป็นพิเศษ “เราต้องคอยควบคุมอุณหภูมิของเครื่องซูวีด์อยู่ตลอดค่ะ เพราะเนื้อไก่แต่ละชิ้นจะใช้อุณหภูมิที่แตกต่างกันออกไปตามขนาด หากเพี้ยนไปนิดเดียวอาจทำให้รสสัมผัสของเนื้อไก่แตกต่างจากเดิมได้เลย”

และแน่นอนว่ารสสัมผัสของเนื้อไก่จากการซูวีด์ จะต้องแตกต่างจากวิธีการทั่วไปอยู่แล้ว “เนื้อไก่ที่ผ่านการซูวีด์จะสังเกตได้จาก หนึ่งเลยคือลักษณะภายนอก เนื้อไก่จะมีความมันวาว สีออกชมพูนิด ๆ เมื่อฉีกออกมาเนื้อไก่จะเนียนไม่เป็นเส้น ๆ ส่วนเนื้อสัมผัสเมื่อลองชิมแล้วจะมีความฉ่ำ นุ่ม และไม่กระด้างซึ่งแตกต่างจากการนำไก่ไปต้มในน้ำเดือด”

พูดคุยถึงกรรมวิธีกันมาพอสมควร คราวนี้ก็ถึงเวลาชิมเมนูเด็ดของร้านอย่าง “ข้าวมันไก่ซูวี” (65 บาท) กันแล้ว อย่างที่คุณหมี่ได้เกริ่นไปข้างต้นว่าทั้งลักษณะภายนอก และเนื้อสัมผัสเมื่อนำเข้าปากแล้วจะให้ความรู้สึกแตกต่างจากการใช้เทคนิคต้มไก่ทั่วไป ทั้งความนุ่มและฉ่ำของเนื้อที่ยังคลุ้งอยู่ในปาก แม้กระทั่งส่วนที่เป็นอกก็ยังนิ่มเสียจนลืมไปเลยว่าเคยกระด้างแค่ไหน

ต่อด้วย “ข้าวมันไก่ซูวีแช่เหล้า” (130 บาท) เมนูที่เพิ่งถือกำเนิดได้ไม่นาน แต่ครองใจชาวบ้านได้อยู่หมัด จากรสชาติและกลิ่นหอมของเหล้ากว่า 3 ชนิด แทรกซึมเข้าไปพร้อมกับเครื่องเทศ ก่อนจะถูกนำไปซูวีด์จนได้ออกมาเป็นไก่ชิ้นโตหอมกลิ่นเหล้า และรสชาติกลมกล่อม กินกับน้ำจิ้มข้าวมันไก่คือเข้ากันสุด ๆ ปิดท้ายกับ “ยำไก่กรอบ” (130 บาท) ไก่ชุบแป้งทอดกรอบพอดีคำ ราดด้วยน้ำยำสูตรพิเศษของร้าน แซ่บซี้ดถึงใจ

แม้ช่วงนี้ร้าน “ข้าวมันไก่ซูวี เติมจนอิ่ม” จะต้องปรับเวลาการขายเพื่อให้ตรงตามมาตรการของรัฐบาล แต่คุณหมี่ก็ยังรับประกันว่า ทั้งคุณภาพและการบริการก็ยังคงมาตรฐานไว้ แถมตอนนี้ทางร้านยังเปิดให้ลูกค้าสามารถนั่งกินที่ร้านได้แล้ว แต่จะมีการเว้นระยะห่าง รวมไปถึงการเติมข้าวที่จะเปลี่ยนจากการตักเองมาเป็นการสั่งเพิ่มจากพนักงานแทน ส่วนลูกค้าที่สะดวกสั่ง LINE MAN ทางร้านยังคงเสิร์ฟให้ลูกค้าด้วยปริมาณจุใจ และราคาที่เป็นกันเองเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน

ส่งท้ายวันนี้ไปด้วยข้อความจากคุณหมี่ว่า “แม้ว่าเราจะได้รับผลกระทบบ้างในช่วงแรกที่โควิด-19 กำลังระบาด แต่สุดท้ายลูกค้าทุกคนก็ยังรักและคิดถึง “ข้าวมันไก่ซูวี เติมจนอิ่ม” อยู่เสมอ และเราก็ยังคงเสิร์ฟเมนูดี ๆ อัดแน่นคุณภาพแบบนี้ต่อไปค่ะ” เรียกได้ว่าเป็นความใส่ใจที่เจ้าของร้านอาหารคนนึงจะมีให้เหล่าลูกค้าที่รักยิ่งได้ มันช่างนุ่มและฉ่ำในหัวใจ เหมือนเนื้อไก่ที่เราได้รับประทานไปจริง ๆ ค่ะ