อย่างที่เพื่อน ๆ ทุกคนรู้กันว่า สถานการณ์ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นทุกวันอย่างรวดเร็ว ทำให้ภาครัฐมีการประชุม ครม. เพื่อออกมาตรการรับมือสถานการณ์ และป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาอย่างเร่งด่วน โดยหนึ่งในนั้นคือการส่ังปิดสถานที่ชั่วคราวใน กทม. ทั้งปิดสถานบริการ กทม. และปิดสถานประกอบการ และปิดประกอบการ กทม. บางประเภท
โดยในวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) “พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์” ได้มีการแถลงผ่านศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จากศูนย์ข้อมูลโควิด-19 (COVID-19) ว่าจะมีการปิดสถานที่ชั่วคราวเป็นระยะเวลา 14 วัน เพื่อลดโอกาสการแพร่ระบาดของโรคในสถานที่ต่าง ๆ ที่มีความเสี่ยงสูง
โดยจะมีการปิดประกอบการ กทม. และ ปิดสถานบริการ กทม. ทั้งหมด 8 สถานที่ปิดชั่วคราวใน กทม.ดังนี้
1. สถานประกอบกิจการอาบ อบ นวด เว้นแต่การให้บริการดังกล่าวในสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
2. สถานประกอบกิจการอาบน้ำ อบไอน้ำ อบสมุนไพร เว้นแต่การให้บริการดังกล่าวในสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
3. สถานประกอบกิจการโรงมหรส (โรงภาพยนตร์ โรงละคร โรงมหรสพ)
4. สถานประกอบกิจการสถานที่ออกกำลังกาย
5. สถานบริการและสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ
6. สนามมวย
7. สนามกีฬา
8. สนามม้า
นอกการสั่งให้มีสถานที่ปิดชั่วคราวใน กทม. ยังมีมติออกมาตรการรับมือสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีเนื้อหาสรุปดังนี้
- ปิดมหาวิทยาลัย โรงเรียนนานาชาติ สถาบันกวดวิชา และสถานศึกษาทุกสถาบันชั่วคราว สถานที่ปิดชั่วคราวใน กทม.
- งดจัดคอนเสิร์ต งานแสดงสินค้า กิจกรรมทางศาสนา วัฒนธรรม และกีฬา
- ห้ามข้าราชการ พนักงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจ เดินทางไปต่างประเทศ ยกเว้นมีเหตุจำเป็น
- เตือนให้ประชาชนงดการเดินทางไปประเทศซึ่งเป็นพื้นที่ติดโรคติดต่ออันตราย และพื้นที่ระบาดต่อเนื่อง
- เลื่อนวันหยุดสงกรานต์ 13-15 เม.ย.63 ออกไปก่อน โดยจะชดเชยวันหยุดให้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม
- งดการเคลื่อนย้ายคนข้ามจังหวัด
- ชาวต่างชาติที่มาจาก 4 ประเทศ ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่ออันตรายและประเทศนอกเหนือจากนั้น ต้องมีใบรับรองแพทย์อายุไม่เกิน 3 วัน, ต้องมีประกันสุขภาพ, ยินยอมใช้แอปพลิเคชันติดตามของรัฐ, ถูกคุมไว้สังเกตอาการ 14 วัน
- ชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากประเทศซึ่งเป็นพื้นที่ระบาดต่อเนื่อง (ยังไม่ประกาศพื้นที่อันตราย) ขาเข้าต้องมีใบรับรองแพทย์อายุไม่เกิน 3 วัน, ต้องมีประกันสุขภาพ, มีที่พำนักที่สามารถติดต่อได้ในประเทศไทย, ยินยอมใช้แอปพลิเคชันติดตามของรัฐ, กักกันคุมสังเกตอาการ 14 วัน
- เพิ่มมาตรการป้องกันสำหรับสถานที่ที่ยังเปิดให้บริการ เช่น ตลาด ห้างสรรพสินค้า สถานที่ราชการ และรัฐวิสาหกิจ ต้องมีมาตรการคัดกรองเข้มงวด
- ให้ทุกหน่วยงานพิจารณาเหลื่อมเวลาทำงาน และการทำงานที่บ้าน
- ร้านค้า ร้านอาหาร ให้มีมาตรการป้องกัน เช่น การทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัส การคัดกรองอุณหภูมิ การใช้หน้ากากอนามัย รวมทั้งลดความแออัด
- จัดหาและเพิ่มบุคลากรทางการแพทย์ อุปกรณ์ เครื่องมือที่จำเป็น ในปริมาณที่เพียงพอสำหรับรับมือการระบาดระยะ 3 ได้แก่ สถานพยาบาล เตียง หมอ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ อาสาสมัคร ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือ และชุดป้องกันโรค
- มาตรการช่วยเหลือเยียวยา กลุ่มธุรกิจ โรงงาน สถานประกอบการ โรงแรม และธุรกิจเกี่ยวเนื่องด้านการท่องเที่ยว ให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องพิจารณามาตรการช่วยเหลือ อาทิ ช่วยเหลือการลดราคาห้องพักของธุรกิจโรงแรม เสนอให้ยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมจากเจ้าของกิจการโรงงาน
- พิจารณาออกมาตรการช่วยเหลือกลุ่มประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ และมีภาระในการผ่อนชำระ เพื่อให้สถาบันการเงินผ่อนผันการชำระค่างวด
นอกจากจะมีมาตรการจากภาครัฐในเรื่องสถานที่สั่งปิดชั่วคราว เพื่อน ๆ ที่กำลังเฝ้าระวัง ทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) หรือแม้แต่เพื่อน ๆ ที่มีความจำเป็นต้องออกเดินทางไปข้างนอก ก็ให้ระวังอย่าไปอยู่ในที่ที่มีคนพลุกพล่าน ใส่แมสก์เพื่อป้องกันตลอดเวลาที่อยู่นอกบ้าน ล้างมือให้บ่อยที่สุด หรือใช้เจลในกรณีที่ยังไม่สะดวกล้างมือ สุดท้ายนี้พวกเรา Wongnai Travel ขอให้ทุกคนช่วยกันดูแลตัวเองให้ดี เราเชื่อว่าจะผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นอน