กลิ่นหอมกรุ่นของขนมปังอบสดใหม่ อบอวลชวนให้ใครก็ตามที่ผ่านไปผ่านมาต้องแวะไปชำเลืองมองผ่านตู้กระจกใสที่เต็มไปด้วยขนมปังหลากหลาย จนอดไม่ได้ที่จะต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน “D.K.Bakery” ร้านขนมปังเจ้าดังริมถนน “สีลม” ย่านประวัติศาสตร์และธุรกิจกลางกรุงที่ไม่เคยหลับใหล นอกจากผู้คนที่พลุกพล่าน ร้านอาหารรสตำนานมากมายของย่านนี้ยังคงเปิดและพัฒนาตัวไปพร้อมกับความเจริญใหม่ ๆ เช่นเดียวกับร้านนี้ที่ผู้คนยังคงคลาคล่ำต่อแถวรอซื้อขนมปังร้อน ๆ จากเตากันไม่ขาดสาย
ไม่น่าเชื่อว่าภายในตึกแถวสองคูหานั้น จะยังคงบรรจุความทรงจำของบรรยากาศคลาสสิกแบบเก่า เต็มไปด้วยเครื่องไม้เครื่องมือของร้านเบเกอรีแบบโบราณที่ยังคงใช้งานมาจนถึงทุกวันนี้ แม้จะผ่านกาลเวลามากว่า 70 ปีแล้วก็ตาม
“ตอนสมัยที่เปิดร้านกับตอนนี้ แทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยครับ ทั้งหน้าร้านและในร้าน และสิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงที่สุดก็คือ รสชาติของขนม” ธนวัฒน์ ภู่เจริญศิลป์ หรือ คุณบอล ทายาทรุ่นที่ 3 ของร้าน D.K.Bakery บอกเล่ากับเราด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ถึงบรรยากาศของร้านและเคล็ดลับที่ทำให้เจ้าก้อนขนมปังนุ่มหนึบเหล่านี้ครองใจลูกค้ามาอย่างยาวนาน
“จุดเด่นของเราคือตัวเนื้อขนมปังกับตัวไส้ต่าง ๆ เนื้อขนมปังของเราต้องใช้วิธีทำแบบโบราณแบบที่เราย้อนกลับมา 70 ปีก็ยังได้กินอยู่”
เนื้อขนมปังกรรมวิธีแบบโบราณ ทุกขั้นตอนแบบดั้งเดิม
“เคล็ดลับจริง ๆ ในการทำขนมปังแบบโบราณก็คือการใช้ “มือ” ตั้งแต่ขั้นนวดแป้ง จากผงแป้งจนเป็นเนื้อขนมปังแล้วค่อยมาปั้นทีละลูก ซึ่งเป็นกรรมวิธีที่ใช้เวลานานแล้วก็ยาก เพราะเราไม่ใช้สารเคมีใด ๆ เลยในการทำขนม จนถึงทุกวันนี้ก็ยังคงสูตรเดิมอยู่”
แม้หน้าตาของขนมปังจะไม่ได้สวยพิมพ์นิยมแบบร้านขนมปังทั่วไป จะมีลูกเล็กบ้างใหญ่บ้างตามน้ำหนักมือปั้น แต่สิ่งนี้แหละคือเอกลักษณ์ของขนมปังร้าน D.K.Bakery ที่ยังคงให้รูปลักษณ์และรสสัมผัสแบบดั้งเดิมแท้ ๆ ซึ่งคุณบอลรับรองกับเราเลยว่า “ถ้าคุณมากินขนมปังที่นี่คุณจะได้รสชาติที่เหมือนนั่งไทม์แมชชีนกลับไป 70 กว่าปีก่อนเลยละ”
ไม่เพียงแต่โดดเด่นในเรื่องรสชาติของเบเกอรีโฮมเมดสดใหม่เท่านั้น แต่เพียงเรามองเข้าไปในร้าน เราก็จะได้เห็นภาพซ้อนทับของวิธีการทำขนมปังแบบในอดีต ที่ยังคงมีชีวิตอยู่จนปัจจุบัน
“ขนมปังตัวแรกของร้านเราคือ ขนมปังหัวกะโหลก ซึ่งเริ่มจากคุณย่าที่เป็นชาวจีนโพ้นทะเล ท่านมีสูตรการทำขนมปังติดตัวมา ซึ่งทีเด็ดของมันคือความนิ่มที่สามารถกินได้เลยโดยที่คุณไม่ต้องไปนึ่งหรือไปทำให้ร้อน สมัยนั้นจะทำขนมปังตัวนี้เป็นหลัก จนมาถึงยุคของคุณพ่อที่เข้ามาพัฒนาขนมปังต่อ ซึ่งทำให้ต้องมีข้อบังคับของร้าน ว่าขนมปังของเราจะต้องใช้วิธีทำแบบโบราณ แบบที่เราเคยใช้มาก่อนหรือดีขึ้น และต้องใช้มือทำเกือบทุกขั้นตอน”
เน้นวัตถุดิบ ใช้ของดีในราคาขายสุดย่อมเยา
“คุณพ่อเป็นคนชอบกินอาหารรสเลิศ และจะเน้นในเรื่องของรสชาติและวัตถุดิบ ซึ่งในสมัย 60-70 ปีที่แล้ว วัตถุดิบอย่าง เนย แป้งสาลี เมืองไทยยังไม่ค่อยมี ทุกอย่างจะต้องนำเข้ามาหมด เราจึงคุ้นเคยกับวัตถุดิบที่เป็นแบรนด์ที่เราใช้มาตั้งแต่สมัยตอนนั้น แต่เราก็มีการพัฒนา มีการทดลอง ทดสอบ ด้วยวัตถุดิบที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ แต่วัตถุดิบหลักยังเหมือนเดิม”
ซึ่งนอกจากวัตถุดิบหลักที่มีคุณภาพผสานกับกรรมวิธีทำสุดพิถีพิถันจนทำให้เป็นขนมปังเนื้อนุ่มเด้งแล้ว ขอบอกเลยว่าร้านนี้ยังมีดีเรื่อง “ขนมปังสอดไส้” ที่ใส่เครื่องอัดแน่นทุกชิ้นแบบไม่หวง กัดทุกคำต้องเจอไส้ล้น ๆ ในราคาไม่แพง
คิดค้นขนมปังสอดไส้ เจ้าแรก ๆ ของเมืองไทย
“ตอนนี้เมนูเด็ดของร้านเราคือขนมปังไส้สังขยา ผมเชื่อว่าร้านเราเป็นร้านแรก ๆ ที่ทำขนมปังไส้สังขยาขายบนถนนสีลม สังขยาของเราจะไม่เหมือนที่อื่นบวกกับเนื้อขนมปัง แม้ว่าเราจะพัฒนาไส้อีกหลากหลาย แต่สิ่งที่มีเหมือนกันคือความนุ่มและให้เนื้อสัมผัสหนึบ ที่สำคัญคือจะไม่ได้กลิ่นสารเคมีสังเคราะห์เลย”
ถ้าย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยที่ถนนสีลมยังคงเป็นเพียงถนนเลนเดียว ที่มีคลองคู่ขนาน และมีรถรางแล่นผ่านที่นี่เป็นดังถนนสายหลักที่ตอบรับกับกลุ่มคนที่เข้าใจวัฒนธรรมแบบตะวันตกและการมาเยือนของชาวต่างชาติ เริ่มมีร้านค้า ห้องอาหาร และโรงแรมต่าง ๆ นั่นจึงเป็นยุคแรก ๆ ที่คนไทยเริ่มรู้จักการกินขนมปัง ซึ่ง D.K.Bakery เป็นร้านขนมปังรุ่นบุกเบิกตั้งแต่ในสมัยนั้น
“จากขนมปังแถว คนไทยก็เริ่มอยากหาอะไรมาทากินคู่กัน ซึ่งแต่ก่อนยังไม่ถนัดการกินเนยหรือแยม จึงมาเป็นสังขยาสีส้ม ซึ่งร้านเราจะเรียกว่า “สังขยาไข่” เป็นสูตรแรกของร้าน และยังคงสูตรเดิมไม่เปลี่ยนแปลงมาจนถึงวันนี้”
ด้วยความที่คุณพ่อเป็นคนที่พัฒนาขนมอยู่ตลอดเวลา ต่อมาจึงดัดแปลงให้สังขยากลายมาเป็นไส้ในขนมปัง เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ไม่มีเวลานั่งทาสังขยาในตอนเช้า ทำให้ได้ขนมปังรูปแบบใหม่ที่กินง่าย ๆ ในช่วงเวลาเร่งรีบ ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดีมาก ลูกค้าชอบ ที่ร้านจึงมีทั้งกลุ่มลูกค้าที่กิน “แบบดิป” กับ “แบบขนมปังใส่ไส้” ที่ต่อมาก็ยังถูกคิดค้นมาเป็นไส้อื่น ๆ อีกมากมายทั้งหวานและเค็ม
“ขนมปังไส้เค็มเราเริ่มจากไส้หมูแดง ไส้ไก่ ไส้แฮม ซึ่งเราไม่ได้ซื้อสำเร็จรูปเลย เราต้องทำเองจากครัวทุกอย่าง แฮมทำเองแบบโบราณที่มีมันหมูหอม ๆ อย่างมายองเนสก็ทำเอง แม้กระทั่งวัตถุดิบที่ใช้อย่าง ไส้เห็ดหอม เราก็เลือกเกรดที่ดอกใหญ่ที่สุดและรสชาติดี กัดออกมาปุ๊บจะมีความนุ่ม ไม่เหนียวเลย”
ส่วนหนึ่งในวิถีชีวิต จนทุกวันนี้คือสิ่งที่รัก
ไม่น่าเชื่อว่าด้วยวัยเพียง 41 ปี ชายที่ยืนยิ้มแย้มอยู่ตรงหน้าเราคนนี้ คือเถ้าแก่ประจำร้านขนมปังเก่าแก่ที่มีชื่อมายาวนานกว่า 3 รุ่น ซึ่งเราก็อดสงสัยไม่ได้ว่าสิ่งที่เขาทำอยู่ในตอนนี้ จากจุดเริ่มต้นของการเป็นผู้สืบทอด ในตอนนี้เขาสามารถบอกว่านี่เป็นอาชีพที่รักได้หรือยัง?
“คุณพ่อเริ่มทำขนมปังตั้งแต่เด็ก 5-6 ขวบก็ต้องช่วยงานที่บ้านทุกอย่างแล้ว และสิ่งเหล่านี้ลูก ๆ ทุกคนก็จะได้รับส่งต่อมาเหมือนกัน เป็นวิถีของคนจีนที่ลูกทุกคนต้องทำ แต่สิ่งหนึ่งที่พ่อสอนมาตลอดก็คือ ถ้าเราไม่ชอบอะไรเราอย่าไปทำ ถ้าเลือกทำมันแล้วค่อยศึกษาดูว่ามีส่วนที่เรารักมันไหม ซึ่งผมชอบมันและก็รักมันด้วย เหมือนเป็นสัญชาตญาณจากการฝึกซ้อมและตัวเราเองก็เป็นอย่างนั้นไปแล้ว พอทำมาเรื่อย ๆ เป็นสิบปีบางทีเราเอามือจับขนมปังก็รู้แล้วว่าต้องใช้เท่านี้ อุณหภูมิเท่านี้ ซึ่งมันเกิดจากความถนัด เป็นความรัก เป็นความสนุก"
"คุณพ่อสอนว่าหัวใจของการทำร้านคือความซื่อสัตย์ ทั้งกับลูกค้าและตัวเอง ไม่ว่าเราจะทำขนมด้วยวิธีการที่ลำบากหลายขั้นตอน วัตถุดิบเรายังใช้ของดีเหมือนเดิม และเราไม่เอาเปรียบ ทำแบบที่เราชอบกินและทำด้วยความตั้งใจ ซึ่งผมต้องการให้ลูกค้าที่ไม่เคยรู้ว่าขนมปังแบบโบราณเป็นยังไง เขาย้อนกลับมา 70 ปีก็ยังได้กินอยู่ นี่คือสิ่งที่เป็นหัวใจของผม”
แม้ใส่ใจผลิตทุกขั้นตอนพิถีพิถันขนาดนี้ แต่ราคาของขนมปังก็ไม่แพงเลย โดยเริ่มตั้งแต่ราคา 12 บาทเท่านั้น ซึ่งขนมปังใส่ไส้ตอนนี้ที่ร้านทำไว้ถึง 11 ไส้! ที่ห้ามพลาดเลย ได้แก่ “ขนมปังไส้สังขยาไข่ รสดั้งเดิม” (12 บาท) ไส้ทะลักหวานหอมเข้ากับเนื้อขนมปังเนียนนุ่ม “ขนมปังไส้แฮมหยอง” (16 บาท) แฮมสูตรทำเองคลุกเคล้ามายองเนสรสชาติเข้มข้น และ “ขนมปังไส้เห็ดหอมกุ้ง” (16 บาท) ให้เห็ดหอมดอกโต ผัดกับกุ้งแห้งและเต้าหู้ ได้รสกลมกล่อมเหมือนอาหารจีนเลยละ ส่วนใครที่อยากชิมเนื้อขนมปังเน้น ๆ แนะนำ “ขนมปังตัวหนอน” (29 บาท) ให้เนื้อขนมปังนุ่มหนึบไม่ผิดหวังแถมซื้อกินคู่สังขยาเพียง 60 บาทเท่านั้น และแน่นอนต้องกิน “ขนมปังหัวกะโหลก” แบบหั่นเป็นแผ่น (ครึ่งแถว 22 บาท) รับประกันความฟิน หอมนุ่มละมุนลิ้นทุกเมนู
การเดินทาง
ร้าน D.K.Bakery (ดี.เค.เบเกอรี่) ตั้งอยู่ริมถนนสีลม ใกล้วัดแขก มาซื้อที่ร้านหรือสั่งผ่านแอปพลิเคชัน LINE MAN ก็ได้ ร้านเปิดทุกวันจันทร์-อาทิตย์ โทร. 02-233-8352