ใกล้เทศกาลตรุษจีน 2564 เข้ามาทุกที! เชื่อว่าหลายคนคงกำลังวิ่งวุ่นกับการเตรียมหาของไหว้ เตรียมทำความสะอาดบ้าน หรือกำลังเตรียมหาวิธีจัดโต๊ะไหว้ตรุษจีนนี้กันอยู่แน่ ๆ แม้ว่าจะไหว้ตรุษจีนทุกปีแต่ก็ลืมมันซะทุกปี งานนี้ Wongnai บอกเลยว่าไม่เป็นไร! เพราะเราได้รวบรวมคัมภีร์เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับตรุษจีนต่าง ๆ มาฝากทุกคนแล้ว ละเอียดยิบทุกขั้นตอน ตั้งแต่ของไหว้ การจัดโต๊ะ วิธีไหว้ตรุษจีน รวมไปยันเกร็ดเคล็ดลับข้อควรระวังต่าง ๆ ที่ทำตามแล้วเฮงแน่นอนตลอดทั้งปี ถ้าใครอยากรู้แล้วล่ะก็ รีบเลื่อนมาดูกันเลย~
1.ตำนานประวัติวันตรุษจีน
“วันตรุษจีน” หรือ “วันปีใหม่จีน” เดิมทีไม่ได้เรียกว่าเทศกาลตรุษจีน แต่มีชื่อเรียกว่า “ซุ่ย”, “เหนียน” และ “วันชุงเจ๋” เชื่อกันว่ามีมายาวนานกว่าหลายศตวรรษ เป็นการจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ เนื่องจากก่อนฤดูใบไม้ผลินั้น ประเทศจีนอยู่ในช่วงฤดูหนาว ปกคลุมไปด้วยหิมะจนทำให้ไม่สามารถเพาะปลูกอะไรได้เลย พอก้าวเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ทำให้สามารถเพาะปลูกพืชผักได้ปกติ ชาวจีนเลยกำหนดให้วันแรกของฤดูใบไม้ผลิในทุกปี เป็น “เทศกาลเฉลิมฉลองฤดูใบไม้ผลิ” จนกลายมาเป็น “เทศกาลวันตรุษจีน” ในปัจจุบัน
โดยการเฉลิมฉลองเทศกาลฤดูใบไม้ผลิในอดีตจะคล้าย ๆ กับการเฉลิมฉลองปีใหม่ของประเทศตะวันตก (คริสต์มาส) มีการซื้อของต่าง ๆ มาเพื่อประดับตกแต่งบ้านเรือน พร้อมทั้งเตรียมทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ เพื่อปัดเป่าสิ่งที่ไม่ดีออกไป รวมถึงแปะกระดาษสีแดงที่มีคำอวยพรให้ “อายุยืน ร่ำรวย อยู่ดีมีสุข” ที่ประตูและหน้าต่าง จากนั้นก็แต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีแดงและร่วมฉลองกินอาหารมื้อค่ำกันทั้งครอบครัว
2.วันตรุษจีน 2564 ตรงกับวันที่เท่าไร

ในหลักศาสตร์จีนแล้ว เทศกาลวันตรุษจีนของทุกปีจะตรงกับวันที่ 1 เดือน 1 ตามปฏิทินสุริยจันทรคติจีน เป็นวันแรกของฤดูใบไม้ผลิหรือ “วันลีชุน” ซึ่งสำหรับปี 2564 ของไทยนี้ จะตรงกับ “วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564” โดยจะแบ่งออกเป็นวันจ่าย วันไหว้ และวันเที่ยวตามธรรมเนียมจีนตามนี้
- วันจ่ายตรุษจีน : วันจ่ายหรือ “วันตื่อเล็ก” เป็นวันที่ชาวไทยเชื้อสายจีนจะต้องไปหาซื้ออาหาร ผลไม้ เครื่องเซ่นไหว้ต่าง ๆ มาเตรียมพร้อมไว้ ก่อนที่ร้านค้าต่าง ๆ จะหยุดยาวในช่วงวันตรุษจีน ซึ่งจะตรงกับวันก่อนวันสิ้นปี โดยปีนี้ตรงกับ “วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564”
- วันไหว้ตรุษจีน : วันไหว้หรือวันสิ้นปี เป็นวันที่ทุกคนจะทำการไหว้เทพเจ้าต่าง ๆ ด้วยอาหาร ผลไม้ และเครื่องเซ่นไหว้ต่าง ๆ ที่ซื้อเตรียมไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งจะตรงกับวันสิ้นปี โดยปีนี้ตรงกับ “วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564”
- วันเที่ยวตรุษจีน : วันเที่ยว วันปีใหม่ หรือวันตรุษจีนนั่นเอง เป็นวันที่ทุกคนจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สวยงาม พากันออกไปท่องเที่ยว และไปไหว้ขอพรญาติผู้ใหญ่ พร้อมทั้งถือเคล็ดต่าง ๆ ตามธรรมเนียม เช่น งดทำบาป ไม่ด่าทอ ไม่พูดคำหยาบ และไม่คิดร้ายต่อกัน เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งจะตรงกับวันขึ้นปีใหม่ โดยปีนี้ตรงกับ “วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564”
3.ข้อควรทำและข้อควรระวังช่วงตรุษจีน

ตามที่เราได้บอกข้างต้นไปว่า วันตรุษจีนนั้นก็คือวันขึ้นปีใหม่ของจีน จึงมีธรรมเนียมและความเชื่อที่ปฏิบัติสืบทอดต่อ ๆ กันมาเป็นเวลาช้านาน เพื่อให้เฮงและเป็นสิริมงคลไปตลอดทั้งปี
ข้อควรทำช่วงเทศกาลตรุษจีน
- ทำความสะอาดบ้าน : ควรเตรียมทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ให้สะอาด เรียบร้อย และไม่รกรุกรัง เพราะเชื่อว่าเป็นการปัดเป่าสิ่งไม่ดีของปีเก่าออกไป พร้อมต้อนรับสิ่งดี ๆ ของปีใหม่เข้าบ้าน *แต่ต้องทำทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนถึงวันตรุษจีนเท่านั้นนะ
- ตกแต่งบ้านให้สวยงาม : ตกแต่งประดับประดาบ้านด้วยของที่มีสีมงคลอย่าง “สีแดง” หรือ “สีทอง” เช่น โคมไฟ หรือกระดาษฟู เพราะเชื่อว่าเป็นการเสริมความมงคลและขับไล่สิ่งที่ไม่ดีต่าง ๆ ออกไป แถมเป็นการขอพรให้อายุยืนยาว ร่ำรวยเงินทอง และชีวิตดีมีความสุขอีกด้วย
ข้อควรระวังช่วงเทศกาลตรุษจีน
- ไม่ควรทำงานบ้าน : เพราะการทำงานบ้านต่าง ๆ ช่วงตรุษจีนจะเป็นเหมือนการขับไล่ความโชคดีออกไป *คนจีนเลยจะต้องทำความสะอาดบ้านให้เรียบร้อยก่อนช่วงตรุษจีน
- ไม่ควรสระผม : คนจีนถือว่าการสระผมเป็นการชะล้างความโชคดีที่จะมาถึงในช่วงวันขึ้นปีใหม่
- ไม่ควรใช้ของมีคม : ไม่ว่าจะเป็นมีด กรรไกร หรือที่ตัดเล็บ เพราะเหมือนกับว่าเป็นการตัดสิ่งที่ดีหรืออนาคตที่ดีที่จะนำมาในช่วงเทศกาลตรุษจีน
- ไม่ควรพูดคำหยาบและด่าทอกัน : ไม่พูดคำที่มีความหมายในทางลบ คำที่เกี่ยวข้องกับการเจ็บป่วยหรือความตาย เพราะถือว่าไม่เป็นสิริมงคล
- ไม่ควรร้องไห้ : ไม่ควรร้องไห้ในวันขึ้นปีใหม่ เพราะมีความเชื่อว่าหากร้องไห้ในวันนี้ จะต้องมีเรื่องให้เสียใจไปตลอดทั้งปี
- ไม่ควรซักผ้าและล้างจาน : ห้ามใช้น้ำเพื่อชำระล้างสิ่งสกปรกในวันตรุษจีน เพราะเชื่อว่าเทพเจ้าแห่งน้ำกำเนิดขึ้นในวันนี้ ดังนั้นการซักผ้าและล้างจานในวันนี้ จึงเหมือนเป็นการลบหลู่เทพเจ้านั่นเอง
- ระวังซุ่มซ่ามหรือทำของแตก : ชาวจีนถือว่าการเดินสะดุด หรือทำสิ่งของตกแตกในช่วงวันขึ้นปีใหม่ หมายถึงการงานสะดุด และนำความโชคไม่ดีเข้ามาในอนาคต *แต่ถ้าหากทำของแตกโดยไม่ได้ตั้งใจ ให้แก้เคล็ดโดยการพูดคำว่า “ลั้ว ตี้ คาย ฮวา”
4.ของไหว้ตรุษจีน

อาหารและเครื่องเซ่นไหว้สำหรับวันตรุษจีน *ควรเน้นอาหารและของกินที่มีความหมายมงคล อีกทั้งควรเตรียมให้มีปริมาณเพียงพอต่อการไหว้ในทุก ๆ รอบ (ช่วงเช้ามืด ช่วงสาย และช่วงบ่าย) แบ่งเป็นเนื้อสัตว์ กับข้าวคาว ขนมหวาน ผลไม้ อย่างละ 3 (ซาแซ) หรือ 5 (โหวงแซ) อย่าง พร้อมด้วยเหล้าจีน น้ำชา ข้าวสวย และกระดาษเงินกระดาษทองแบบต่าง ๆ
- เนื้อสัตว์ต่าง ๆ : หมูสามชั้นต้ม, ไก่ต้ม, เป็ดต้ม, ปลานึ่ง, ปลาหมึกแห้ง และไข่ต้ม (ย้อมเปลือกสีแดงยิ่งดี) *ควรมีเนื้อสัตว์ครบ 3 ประเภท คือ สัตว์มีกีบที่เท้า สัตว์มีปีก และสัตว์มีคีบ
- กับข้าวคาว : ผัดเส้นหมี่ซั่ว, ปลาเก๋านึ่ง, บะกุ๊ดเต๋, เห็ดหอมเป๋าฮื้อน้ำแดง, กุ้งอบวุ้นเส้น, เป็ดพะโล้ หรือเป็นกับข้าวที่บรรพบุรุษชอบกิน *นิยมจัดให้มีเมนูแบบน้ำอย่างน้อย 1 เมนู
- ขนมไหว้ตรุษจีน : ฮวกก้วย (ขนมถ้วยฟู), คักท้อก้วย (ขนมกู๋ช่าย), ขนมจันอับ, ขนมสาลี่, ขนมไข่, ถั่วตัด, หมั่วโถว, ซาลาเปา, ขนมเข่ง และขนมเทียน
- ผลไม้ที่มีความหมายมงคล : ส้ม, กล้วย, สับปะรด, องุ่น, แอปเปิล, ทับทิม, สาลี่, และแก้วมังกร *ไม่ควรใช้ผลไม้ที่มียาง มีหนาม และมีสีดำ
- เครื่องดื่มไหว้ตรุษจีน : น้ำชาหรือเหล้าจีน *จำนวนถ้วยตามจำนวนบรรพบุรุษที่ล่วงลับไป
- ข้าวสวย : ข้าวสวยใส่ชามพร้อมตะเกียบ *จำนวนชุดตามจำนวนบรรพบุรุษที่ล่วงลับไป
- เครื่องไหว้อื่น ๆ : กระดาษเงิน, กระดาษทอง, ธูป (จำนวนธูปไหว้คนละ 3 ดอก), อ่วงแซจี๊ (ใบเบิกทางให้บรรพบุรุษมารับของไหว้), อิมกังจัวยี่ (แบงก์กงเต็ก) และเสื้อกระดาษกงเต็ก
5.วิธีการจัดโต๊ะไหว้ตรุษจีน

หลักการจัดโต๊ะไหว้ตรุษจีนให้ตรงตามธรรมเนียมนั้น มีตำแหน่งอยู่ทั้งหมด 9 ตำแหน่งด้วยกัน โดยแต่ละตำแหน่งจะมีของวางอยู่ตามนี้
- ตำแหน่งที่ 1 : จัดวางโต๊ะไหว้ไว้บริเวณด้านหน้าเทวรูปหรือแท่นบูชา
- ตำแหน่งที่ 2 : วางกระถางธูปไว้หน้าเทวรูปหรือแท่นบูชา
- ตำแหน่งที่ 3 : วางเชิงเทียนและแจกันดอกไม้ ขนาบทั้งข้างซ้ายและขวาของกระถางธูป
- ตำแหน่งที่ 4 : วางชามข้าวสวยพูน ๆ พร้อมตะเกียบ
- ตำแหน่งที่ 5 : วางถ้วยน้ำชาหรือถ้วยเหล้าจีนเป็นแถวถัดไปจากชามข้าวสวย
- ตำแหน่งที่ 6 : วางถ้วยน้ำดื่มในแถวถัดออกมาจากถ้วยน้ำชาหรือถ้วยเหล้าจีน
- ตำแหน่งที่ 7 : วางเนื้อสัตว์และเมนูกับข้าวต่าง ๆ ที่เตรียมไว้
- ตำแหน่งที่ 8 : วางขนมหวานและผลไม้ตามที่ได้เตรียมไว้
- ตำแหน่งที่ 9 : วางเครื่องไหว้อื่น ๆ เช่น กระดาษเงิน, กระดาษทอง, อ่วงแซจี๊ (ใบเบิกทางให้บรรพบุรุษมารับของไหว้), อิมกังจัวยี่ (แบงก์กงเต็ก) และเสื้อกระดาษกงเต็ก ที่ใช้ในพิธีไหว้ตรุษจีน
6.ขั้นตอนวิธีไหว้ตรุษจีน

สำหรับขั้นตอนพิธีการไหว้ตรุษจีน หลัก ๆ จะแบ่งลำดับการไหว้ออกเป็น 3 ช่วงเวลา คือ
- ไหว้เทพเจ้าช่วงเช้ามืด (ช่วง 7.00 น. - 8.00 น.) : ไหว้เทพเจ้าต่าง ๆ ด้วยเครื่องไหว้ที่เป็นเนื้อสัตว์ 3 หรือ 5 อย่าง เช่น หมูสามชั้นต้ม, ไก่ต้ม และเป็ดต้ม พร้อมด้วยเหล้าจีนหรือน้ำชา และกระดาษเงินกระดาษทอง
- ไหว้บรรพบุรุษช่วงสาย (ช่วง 10.00 น. - 12.00 น.) : ไหว้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ด้วยเนื้อสัตว์ กับข้าว ขนมหวาน ผลไม้ เครื่องดื่ม รวมถึงเผากระดาษเงิน กระดาษทอง อ่วงแซจี๊ อิมกังจัวยี่ และเสื้อกระดาษกงเต็กให้กับบรรพบุรุษ *ขั้นตอนนี้ไม่ควรทำเกินเที่ยงวัน หลังจากไหว้บรรพบุรุษเสร็จแล้วก็รับประทานอาหารร่วมกันทั้งครอบครัว พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนอั่งเปากัน
- ไหว้ผีไร้ญาติช่วงบ่าย (ช่วง 13.00 น. - 16.00 น.) : ไหว้ผีไร้ญาติ ด้วยข้าวสวย กับข้าว และขนมหวาน เช่น ขนมเข่ง ขนมเทียน พร้อมทั้งกระดาษเงินและกระดาษทอง เมื่อไหว้เสร็จแล้วให้จุดประทัดเป็นอันจบพิธี เพื่อเป็นการปัดเป่าไล่สิ่งชั่วร้ายออกไป
เป็นอย่างไรกันบ้างคะทุกคน สำหรับคัมภีร์เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับตรุษจีนที่ Wongnai นำมาฝาก ช่วยคลายข้อสงสัยต่าง ๆ ไปได้หมดเลยใช่ไหมล่ะ จัดหนักจัดเต็มขนาดนี้ บอกเลยว่าไหว้ตรุษจีน 2564 นี้ ต้องเฮง ๆ ปัง ๆ กันถ้วนหน้าอย่างแน่นอน และก่อนจะจากกันไปเราก็ขอ ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ สวัสดีปีใหม่จีนล่วงหน้า และขอให้เพื่อน ๆ มีความสุข เฮง ๆ กันทุกคนนะคะ :)
ติดตามบทความที่เกี่ยวข้องต่อได้ที่