เมื่อชีวิตใช้พุงนำทาง ไปไหนมาไหนก็เพื่อจะไปกินให้ถึงแก่น กินให้รู้ว่าย่านนี้บ้านนี้มีอะไรดี วันนี้นึกครึ้มอยากไปกินซีฟู้ดดี ๆ ซักร้านที่หัวหิน ที่หัวหินมีร้านซีฟู้ดมากมายไม่รู้จะกินร้านไหนดี คนใช้พุงนำทางแบบเรามันต้องมีหนังสือ Users’ Choice 2017 หนังสือที่รวบรวมร้านเด็ดทั่วหัวหิน แต่ไม่ได้มีแค่ร้านเด็ดที่หัวหินเท่านั้น ยังมีอีก 350 ร้านอาหารทั่วไทยจากเสียงโหวตสมาชิก Wongnai กว่า 2 ล้านคน หนังสือเล่มเดียวที่จะทำให้พุงเราไม่หลงทาง
รวบรวมเพื่อนได้ 3 คน จะขับรถไปก็ไม่มีรถ จะนั่งรถตู้พักนี้ก็ไฟไหม้บ่อย งั้นต้องรถไฟแล้วละ รถไฟเป็นการเดินทางที่โคตรคลาสสิค เหมือนย้อนวัยไปสมัยมัธยม เราเชื่อว่าใครหลายคนจะต้องเคยโหนรถไฟชั้น 3 เบาะแข็ง หลังตรง 5 ชั่วโมง มาหัวหินกันสักครั้งแน่ ๆ และแล้วการเดินทางของเรากับหนังสือ Users’ Choice 2017 ก็ได้เริ่มต้นขึ้น
รถไฟชั้น 3 ขบวน 255 ออกจากสถานีธนบุรี เป็นขบวนที่เราเลือกเนื่องด้วยออกเช้าสุด และที่สำคัญ ฟรี! พูดถึงรถไฟไทยใคร ๆ ก็ต่างเล่าขานเรื่อง “ดีเลย์” ตามกำหนดการรถเราต้องออก 7.30 แต่แปดโมงก็แล้วหัวขบวนก็ยังไม่มา กว่าจะได้ออกจริงปาเข้าไป 8.40 ยิ้มกันไป นั่งหน้ามันกันยาว ๆ
นอกจากบรรยากาศสองข้าง ชีวิตผู้คนบนรถไฟ อาหารรถไฟก็เป็นเสน่ห์ที่ใคร ๆ นึกถึงเวลาขึ้นรถไฟ แต่ละสถานีที่รถแล่นผ่าน อาหารก็จะเปลี่ยนไป พ่อค้า แม่ขาย ต่างรีบทำเวลา วิ่งขึ้นมาขายกัน ก่อนที่หวูดรถไฟจะดังขึ้น
มาถึงแล้วก็ขอรีวิวของกินบนรถไฟเสียหน่อย
เมื่อรถมาถึง “สถานีชุมทาง หนองปลาดุก” เราก็ได้เจอกับข้าวกระทงใบตอง กระทงละ 10 บาทเอง มี 3 เมนู ข้าวไข่พะโล้ (10.-), ข้าวราดแกงเขียวหวานไก่ (10.-), ข้าวราดผัดเผ็ดหมู (10.-)
รถไฟของเราก็ได้แล่นต่อไปยัง “สถานีบ้านโป่ง” เราก็ได้เจอกับ “โรตี สายไหม” ชุดละ 20 บาท ไม่รอช้าจัดมาล้างปากจากของคาวชุดที่แล้ว สายไหมสีชมพูหวาน ๆ กินกับแป้งโรตีหนึบ ๆ นุ่ม ๆ เข้ากันที่สุด
เมื่อรถไฟเทียบชานชลาที่ “สถานีเพชรบุรี” พ่อค้าแม่ขาย ชุดที่แล้วก็ได้จากเราไป พร้อมกับพ่อค้าแม่ขายชุดใหม่ ที่เดินขึ้นมาขายพร้อมกับอาหารใหม่ ๆ ที่ดูเป็นเพชรบุรีที่สุด ไม่ว่าจะหม้อแกง หรือลูกตาล แต่แฟนรถไฟสายใต้ ต่างรู้กันว่าเมนูเด็ดของสายนี้คือ “เส้นเล็กแห้งหมูแดง” (10.-) ที่มาในห่อกระดาษ มีแบบเผ็ดและไม่เผ็ด รสชาติเด็ดระดับไม่ต้องปรุง
“สถานีต่อไป หัวหิน ,โดยประตูรถจะเปิดทางด้านซ้าย” “Next Station Huahin ,Door will opened on the left hand side of the train” ไม่ใช่ละนั่นมัน BTS! และแล้วเราก็มาถึง “หัวหิน” กับเวลา 6 ชั่วโมงที่แสนสั้น หมดไปกับการกิน และการกิน บางทีก็แอบเสียดายนะหากรถไฟเราจะดีขึ้นและบรรยากาศแบบนี้จะหายไป แต่เอาเถอะโลกมันต้องหมุนไป รถไฟก็ต้องพัฒนา
มาหัวหินหลายคนอาจจะคิดว่าต้องมีรถ ถึงจะเที่ยวได้ แต่เปล่าเลย หัวหินมีรถสองแถววิ่งทั่วเมืองนะจ๊ะ ก่อนอื่นต้องเดินตรงออกจากสถานีทางซอยหัวหิน 76 (ซอยนี้ตรงกับสถานีเลย) เดินมาถึงแยกแรก ก็รอตรงนั้นได้เลย จะมีสองแถวสีเขียว มุ่งหน้าไปทางเขาตะเกียบผ่านมา แต่ถ้าหากจะย้อนไปทางสถานบินก็เลี้ยวซ้ายที่แยก เดินตรงไปจนถึงสี่แยก จะมีสองแถวสีเขียวมุ่งหน้าไปสนามบินจอดอยู่ หาไม่ยากครับ
กลับมาที่ภาระกิจของเราที่จะมากวาดทุกร้านในอำเภอหัวหินตาม Users’ Choice 2017 มากันที่ร้านแรกเลยหน้า 279 “ป้าพรน้องหยก” ชื่อบ้านมาก แต่อยู่ในเล่มนี้แปลว่าไม่ธรรมดา ลายแทงบอกว่าอยู่เขาตะเกียบ มีสองแถวสีเขียวผ่านมา เราก็โบกแล้วกระโดดขึ้นรถเลย ไปแถว ๆ นั้นให้ได้ก่อนค่อยว่ากันต่อ
เรานั่งมาจนสุดสาย พี่สองแถวบอกให้ลงตรงนี้แล้วก็เดินต่อไป ตามป้ายร้านลาแมไปเลย เดินตามทางไปเรื่อย ๆ จนเจอสามแยกที่เป็นดงร้านอาหารทะเล เราก็เลี้ยวขวานิดเดียวถึงเลย ร้านอยู่ซ้ายมือ พร้อมป้าย Wongnai เด่นเป็นสง่าอยู่หน้าร้าน
ไม่รอช้าสั่งอย่างไม่คิด หิวมาก ขนาดกินมาตลอดทางนะ จานแรกมากับ “กั้งทอดกระเทียม” (ราคาตามน้ำหนัก) กั้งมีให้เลือกทั้งเป็นและน็อคน้ำแข็ง แต่เราจัดแบบน็อคน้ำแข็งมา กั้งตัวโต ๆ เนื้อแน่น ๆ ไม่มีหลวม หวานฉ่ำ นี้ขนาดน็อคน้ำแข็งนะ ผัดมากับกระเทียมเจียมท่วม ๆ อย่างเด็ดอะ กินกับข้าวสวยร้อน ๆ ฟินสุด ๆ
ต่อกันด้วย “โป๊ะแตกทะเล” (250.-) ที่แตกทั้งโป๊ะจริง ๆ เพราะขนมาทั้ง กุ้ง หอย หมึก ปลา ปู มากันทั้งทะเล มากันในหม้อไฟร้อน ๆ น้ำซุปก็แซ่บสุด ๆ
ตามมาติด ๆ ด้วยกุ้งแม่น้ำเป็น ๆ เผา “กุ้งแม่น้ำเผา” (ราคาตามน้ำหนัก) กุ้งแม่น้ำเป็น ๆ ความสดข้ามไปได้เลย เนื้อเด้งมาก หวานสุด ๆ หัวก็ท่วมไปด้วยมันกุ้งหยอดน้ำจิ้มซีฟู้ดลงไปดูดกันให้แซ่บ 1 กิโลหายไปในพริบตาเดียว
ปิดท้ายด้วยเมนูชื่อดังของ “ป้าพรน้องหยก” ที่ใคร ๆ มาก็ต้องส่ังกันนั่นก็คือ “ปูม้านึ่ง” (ราคาตามน้ำหนัก) ปูม้าเป็น ๆ เช่นเคย เพิ่มเติมคือมีไข่ด้วย ปูม้าเป็น ตัวโต นึ่งสุกพอดี เนื้อสดหวาน ไข่แน่นมาก
หลังจากที่เรากิน “ป้าพรน้องหยก” เสร็จเราก็กลับออกมาขึ้นสองแถวสีเขียว เพื่อไปเดินย่อยที่ “Bluport Huahin Resort Mall” ไลฟ์สไตล์ช็อปปิ้งมอลล์แห่งใหม่ล่าสุดของเมืองหัวหิน เดินไปได้แป๊บเดียว พุงเจ้ากรรมเริ่มร้องอีกแล้ว! น้ำย่อยก็ย้อนขึ้นไปสมองสั่งให้มือทั้งสองข้างหยิบหนังสือ Users’ Choice 2017 ขึ้นมาเปิดไปหน้า 280 ร้าน “หัวหินเด้อ”
“หัวหินเด้อ” ร้านอยู่ซอยหัวหิน 94 ไม่ไกลมากจาก Bluport Huahin Resort Mall 1.4 กิโลเท่านั้น พอเดินไปได้ หรือใครที่ขี้เกียจเดิน ก็นั่งสองแถวสีเขียวที่หน้าห้าง Bluport Huahin Resort Mall ไปลงปากซอยหัวหิน 94 แล้วเดินต่อเข้าไปได้เลย 350 เมตร ไม่ไกลมาก แต่เราขอเดินละกันจะได้ย่อยอาหารจาก “ป้าพรน้องหยก” ให้หมด
เดินมาอย่างไกล น่าจะโบกสองแถวมากกว่าแต่เอาเถอะมาถึงแล้ว ประเดิมกันกับเมนูชื่อดัง “ผัดเมืองทอง” (180.-) ทะเลเน้น ๆ ทั้งกุ้ง ปลาหมึกใส่ไม่ยั้ง ผัดกับไข่ เห็ดฝางและต้นหอมรสชาติออกหวานนิด ๆ แต่ถ้าหยอดน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเด็ดของที่ร้านจะเข้ากันลงตัวเป็นที่สุด
ต่อกันกับเมนูแนะนำในหนังสือ Users’ Choice อีกเมนูคือ “ต้มยำกุ้งแม่น้ำ” (300.-) ต้มยำรสแซ่บ มาในหม้อไฟเดือด ๆ กุ้งแม่น้ำล้นหม้อ ฟินสุด ๆ
ปิดท้ายกันด้วยเมนูที่ทุกโต๊ะต้องจัด “ส้มตำเจ้าสมุทร” (250.-) ตำไทยรสชาติกลมกล่อม มากับทะเลเผาไม่ว่าจะ กุ้งแม่น้ำตัวโต หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ปลาหมึก เนื้อปลาและปูม้าสด ๆ
และที่สุดของ “หัวหินเด้อ” คือบรรยากาศ ร้านบรรยากาศดีมาก ชิลล์สุด ๆ ที่สำคัญ ถ้าเป็น User ของ Wongnai ลดไปเลย 10% เลิฟสุดเลยร้านนี้!
หลังจากตะลอนมาทั้งวัน พุงก็ทำงานหนัก ขาก็ทั้งยืนและเดิน สมควรแก่การพักผ่อนเสียที เราเสิร์ชหาที่พักหลักร้อยในหัวหินจากที่นี่ เรากินไปหลายตังละขอพักหลักร้อยละกัน หัวถึงหมอนพวกเราก็หลับเป็นตายแหกขี้ตาตื่นมา ตีห้าครึ่งเพื่อไปขึ้นรถไฟเที่ยวเช้ากลับ กรุงเทพฯ กัน
ขากลับเราควักตังที่มีทั้งหมด ไปกับรถไฟชั้นสอง ขบวนใหม่ ขบวน 32 (เตียงล่าง 662.- / เตียงบน 572.-) รถไฟดีมากใหม่สะอาดสุด ๆ แถมพี่เจ้าหน้าที่ปูที่นอน ให้เรานอนต่อด้วย ได้นอนกันยาวยัน 10 โมง แต่ถ้าใครยังอยากกลับกรุงเทพฯ ฟรี ๆ ก็มีอีก 4 ขบวนให้เลือกกลับกันครับ ดูตามตารางได้เลย
สิบเอ็ดโมงนิด ๆ หนังสือก็พาเรากลับมาส่งที่สถานีกรุงเทพ ส่วนหนังสือจะพาไปกินที่ไหนอีก ก็ต้องติดตามกันนะครับ เพราะมีเธอแล้วอุ่นใจ มี Users’ Choice 2017 แล้วพุงอุ่น! ยังไงก็ขอฝาก Users’ Choice 2017 ไว้ในอ้อมพุงอ้อมเอวกันด้วยนะครับ
ถึงภารกิจจะไม่สำเร็จเพราะหนังสือ Users’ Choice 2017 บอกว่าในหัวหิน ยังมีอีก 1 ร้านให้เราไปพิสูจน์ แต่เราไม่บอกหรอกว่าร้านอะไร เราอยากให้ทุกคนมีหนัง Users’ Choice 2017 เป็นของตัวเอง เป็นลายแทงทั้งประเทศ ไปที่ไหนก็ไม่มีอดตายของเด็ด ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ขอขายกันตรง ๆ เลยละกัน ราคาแค่ 259 บาท เท่านั้น วางจำหน่ายตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ นายอินทร์, SE-ED, B2S, kinokuniya ฯลฯ มีหมด หรือถ้าใครอยากสั่งออนไลน์ก็จัดได้เลยที่ นายอินทร์ และ SE-ED สายพุงนำทางห้ามพลาด