เข้าสู่เดือนอากาศดี เย็นสบาย และในวินาทีที่ใครๆ ก็คงรู้จักละครเรื่องนาคีเป็นอย่างดี วันนี้เราจะพาทุกคนมาเที่ยวชมธรรมชาติ และตามรอยละครนาคี เรียนรู้วัฒนธรรมอีสาน กันที่ Jim Thompson Farm ด้วยคอนเซปต์ “คักแท้แท้ แพรอีโป้” จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลย!!
ขับรถตามเส้นถนน 2072 ยาวมาจนถึงโรงเรียนลำพระเพลิงพิทยาคม ก็จะพบกับ Jim Thompson Farm อยู่ทางขวามือ ซึ่งที่นี่มีที่จดรถบริการ และจุรถได้ถึง 3,600 คันเลยเชียวล่ะครับ โดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 9.00 - 17.00 น. โดยประมาณ ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม ถึง 8 มกราคม 2560 ซึ่งคอนเซปต์ของแต่ละปีก็จะต่างกันออกไป โดยในปีนี้ นั่นก็คือ “คักแท้แท้ แพรอีโป้” ซึ่งถือว่าเป็นคอนเซปต์เพื่อสานต่อความรู้แห่งอีสานอย่างยั่งยืนเลยก็ว่าได้
ก่อนที่เราจะเข้ามาในตัวไร่ของ Jim Thompson Farm ได้นั้น เราก็จะต้องทำการซื้อบัตรผ่านเข้าชมก่อน โดยอัตราค่าบริการจะอยู่ที่ 180 บาท สำหรับผู้ใหญ่ และ 130 บาท สำหรับเด็ก ในวันธรรมดา, 220 บาท สำหรับผู้ใหญ่ และ 160 บาท สำหรับเด็ก ในวันหยุด, 280 บาท สำหรับผู้ใหญ่ และ 180 บาท สำหรับเด็ก ในช่วงเทศกาลปีใหม่หยุดยาว
ภายในงานนั้น จะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 5 จุด ได้แก่ 1. ทุ่งคอสมอสและแปลงผักปลอดสาร 2. ลานฟักทองยักษ์และทุ่งดอกไม้หลากสี 3. หมู่บ้านอีสาน (ตามรอยละครนาคี) 4. หมู่บ้านจิม และ 5. ตลาดจิม โดยแต่ละจุดเราสามารถขึ้นรถรับส่งของทางฟาร์ม เพื่อไปยังจุดต่างๆ ได้ตั้งแต่ทางเข้า หรือจะเดินเพื่อเที่ยวชมไปเรื่อยๆ เองก็ได้นะ
ด้วยพื้นที่ 600 ไร่ ในช่วงอากาศหนาว กำลังเย็นสบายแบบนี้ ที่มีทุ่งคอสมอส ลานฟักทองยักษ์ และดอกไม้นานาชนิดนั้น จะทำให้เราเพลิดเพลินกับการเที่ยวชม และถ่ายรูปเล่นจนลืมเวลากันได้เลย
และเมื่อรู้ตัวอีกที เราก็ได้เดินมาถึงยังจุด “หมู่บ้านอีสาน” ซึ่งเป็นบ้านเรือนไทยโบราณที่ถูกสร้างด้วยสถาปัตยกรรมไทยอีสาน บนพื้นที่กว่า 10 ไร่ เป็นจุดที่ใช้ถ่ายทำละครเรื่อง นาคี และเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษา และเรียนรู้วัฒนธรรมของชาวอีสานโดยแท้ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น บ้านโคราช, บ้านภูไทย และบ้านเหย้า
ในแต่ละจุดย่อยๆ ของ “หมู่บ้านอีสาน” นั้น ก็จะมีชาวบ้านท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ของทางฟาร์มคอยให้ความรู้ และให้เราได้ทดลองทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การปั้นหม้อ, สีข้าว หรือชมกรรมวิธีในการทำผ้าไหม, ผ้าขาวม้า,ผ้าฝ้าย และ ผ้ามัดย้อม อีกทั้งยังมีโชว์การแสดงต่างๆ, ไหว้พระไม้โบราณ 100 ปี เสี่ยงเซียมซีทำนายโชค, ศึกษาประเพณีผูกเสี่ยวผ้าขาวม้า จนไปถึงการเที่ยวชิมอาหารอีสานต่างๆ และซื้อของฝากท้องถิ่นเป็นที่ระลึกอีกด้วย โดยละครเรื่อง นาคี นั้นจะมีการพูดถึงพญานาค และวิถีชีวิตของชาวอีสานเป็นหลัก โดยเราสามารถตามรอยละคร เรียนรู้วิถีชิวิตของชาวอีสานโดยแท้ ได้จากที่นี่
และคำว่า “แพรอีโป้” ในภาษาอีสานนั้นหมายถึง “ผ้าขาวม้า” โดย ผ้าขาวม้า นั้นไม่ใช่คำไทยแท้ แต่เป็นภาษาเปอร์เซีย ที่มีคำเต็มว่า "กามาร์บันด์" (Kamar band) "กามาร์" หมายถึง เอว หรือ ท่อนล่างของร่างกาย "บันด์" แปลว่า พัน, รัด หรือ คาด เมื่อนำทั้งสองคำมารวมกัน จึงหมายถึง เข็มขัด, ผ้าพัน หรือ ผ้าคาดสะเอว
"คักแท้แท้ แพรอีโป้" นั้นจึงหมายถึง "มหัสจรรย์ผ้าขาวม้า" ที่สื่อถึงความหลากหลายในการประยุกษ์ใช้ผ้าขาวม้าอันน่าอัศจรรย์ และแทรกด้วยความสนุกสนานของวัฒนธรรมอีสานนั่นเอง
โดยใน หมู่บ้านอีสาน นั้นจะมี 5 จุดกิจกรรมผ้าขาวม้า ได้แก่ การทอผ้าขาวม้าและการย้อมคราม, การแสดงผลงานหนังสือผ้าขาวม้า บริเวณศาลาปะรำหน้าหอแจก, พิธีบายศรี ผูกเสี่ยวผ้าขาวม้าที่ศาลากลางหมู่บ้านอีสาน, กิจกรรมผ้าขาวม้าสารพัดประโยชน์ และสุดท้ายคือ กิจกรรมผ้าขาวม้าคือชีวิตบนเวทีกลาง
และเมื่อเที่ยวชมจนพอใจ ก่อนกลับนั้นเราสามารถมาแวะซื้อผลิตภัณฑ์จากทาง Jim Thompson Farm ได้ ทั้งแบบสดปลอดสารพิษ และแบบที่แปรรูปแล้ว รวมไปถึงของใช้ และของที่ระลึกต่างๆ ได้จากจุดสุดท้าย นั่นก็คือ “ตลาดจิม” นั่นเอง
เป็นยังไงกันบ้างครับ สำหรับ Jim Thompson Farm และการตามรอยละครดังเรื่องนาคี ศึกษาวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชาวอีสาน ก่อนที่จะหมดฤดูหนาวนี้ และช่วงอากาศดีๆ แบบนี้ หวังว่าใครหลายๆ ที่ได้อ่านบทความนี้แล้ว คงมาตามรอยด้วยกันนะครับ