“คุณยายจำปี” หาบผักผลไม้ ฮีโร่กู้ชีวิตคนจน สู้เพื่อคนทำมาหากิน
  1. “คุณยายจำปี” หาบผักผลไม้ ฮีโร่กู้ชีวิตคนจน สู้เพื่อคนทำมาหากิน

“คุณยายจำปี” หาบผักผลไม้ ฮีโร่กู้ชีวิตคนจน สู้เพื่อคนทำมาหากิน

“คุณยายจำปี” หาบของขายนานกว่า 30 ปี เดินทางขนของมาจากนครสวรรค์ มาขายในกรุงเทพฯ ด้วยเหตุผลเหนืออื่นใดคือ ช่วยเหลือชาวสวน คนจน ๆ
writerProfile
20 มี.ค. 2019 · โดย

#วงในบอกมา

  • “คุณยายจำปี” หาบของขายมา 28 ปี จนกระทั่งล้ม ทำให้เดินไม่ไหว มา 2 ปีแล้ว จึงต้องตั้งขายอย่างในปัจจุบัน
  • “คุณยายจำปี” ขนของขายหนัก 40 กิโลกรัม มาจากจังหวัดนครสวรรค์ เดินทางมากรุงเทพฯ โดยใช้รถไฟทุกวัน
  • ความตั้งใจของ "คุณยายจำปี" คือช่วยชาวสวนจน ๆ ให้มีกินโดยรับซื้อของพวกเขามาขายต่อเองทุกวันโดยไม่สนใจกำไร 
คุณยายจำปี
รอยยิ้มเล็ก ๆ ของคุณยายจำปี  ขณะนั่งอยู่ในร้าน

ครั้งหนึ่งเราได้มีโอกาสแวะไปแถวย่านอารีย์ เนื่องด้วยเราได้ยินเรื่องราวน่าทึ่งของคุณยายขายผักผลไม้ท่านหนึ่ง จึงหาโอกาสแวะเข้าไปคุยกับแก จนเจอแกในที่สุด แกนั่งขายอยู่ริมฟุตปาธโดยมีตะกร้าใส่ผลไม้และผักวางอยู่รอบ ๆ ส่วนใหญ่แล้วเรามักจะคุ้นกับคำนิยามของผู้สูงอายุที่ว่าเชื่องช้า ไม่เเข็งแรง และช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ในบางราย แต่มันกลับแตกต่างโดยสิ้นเชิงเมื่อเราเอ่ยถึง “คุณยายจำปี เปรมปรี” หากมองแกจากภายนอกแกก็เป็นผู้สูงอายุทั่วไปคนหนึ่งจนกระทั่งเราได้รู้เรื่องราวของแก

คุณยาย จำปี
คุณยายจำปียังดูแข็งแรง กระฉับกระเฉง คล่องแคล่ว

คุณยายชื่อ “คุณยายจำปี เปรมปี” พื้นเพเป็นคนตำบลช่องแค อำเภอตาหลี จังหวัดนครสวรรค์ มีอาชีพเป็นแม่ค้าขายผักผลไม้ ตอนนี้ขายมานานกว่า 30 ปีแล้ว ขายอยู่ซอยอารีย์บ้าง เร่ไปสะพานควายบ้าง บางครั้งก็ตลาดมหานาค ปัจจุบันขายอยู่อารีย์เป็นหลัก ก่อนนี้แบกหาบเดินเร่เดินขายไปทั่ว แต่ปัจจุบันต้องตั้งขายเพราะคุณยายล้มจนข้อขาหลุด เดินไม่คล่องมาปีครึ่งแล้ว

ความน่าทึ่งของแกคือ แกต้องขนของมาขายจากนครสวรรค์ที่เป็นบ้านของแกทุก ๆ วัน ตารางชีวิตในทุกวันจึงต้องเริ่มตั้งแต่ ตี 5 แล้วเดินทางไปขึ้นรถไฟช่องแคให้ทัน 6.00 น. โดยมีลูก ๆ ไปส่งที่สถานีรถไฟ ซึ่งแกรับของที่ต้องขายมาจากที่นั่น แกนั่งรถไฟถึงสถานีบางซื่อประมาณ 9.00 น. - 10.00 น. จากนั้นก็ต้องเหมารถตุ๊กตุ๊ก ไปอารีย์ 80 บาท จนกระทั่งขายเสร็จประมาณ 19.00 น. - 20.00 น. จะเหมาตุ๊กตุ๊ก ไปสถานีรถไฟสามเสน รอจนประมาณ 2 ถึง 3 ทุ่ม จะมีรถไฟมา เพื่อกลับไปสถานีช่องแค และรอลูกมารับ จวนจะถึงบ้านก็เที่ยงคืนแล้ว แกใช้ชีวิตวนไปแบบนี้ทุกวัน โดยของที่แกรับมาขายถ้าเรากะด้วยสายตาประมาณ 30 - 40 กิโลกรัม ได้

ผลไม้ จากร้าน คุณยายจำปี
ผลไม้ที่รับมาจากสวนที่นครสวรรค์ในทุก ๆ เช้า
ของขาย จากร้าน คุณยายจำปี
ของแกขายหลายอย่างมีให้เลือกเยอะ

เราหันไปมองตะกร้าผักผลไม้ของคุณยาย ในนั้นมีของขายหลากหลาย ซึ่งของจะไม่ซ้ำกันแล้วแต่ฤดูเราถามว่าคุณยายไม่เหนื่อยหรอทั้ง ๆ ที่อายุมากแล้ว ลูกหลานก็มีหน้าที่การงาน ใช้ชีวิตสบาย ๆ อยู่บ้านให้ลูกหลานเลี้ยง ไม่สบายกว่าหรือ เราก็ถามตามที่เราคิด แต่คำตอบของแกก็ทำให้เรารู้ถึงอีกความนึกคิดของผู้สูงอายุ

“ยายไม่อยากอยู่บ้าน อยู่บ้านมันเงียบเหงา ตื่นเช้ามาลูกหลานก็ออกไปทำงานหมด ยายก็ต้องอยู่บ้านคนเดียว เฝ้าบ้านเฉย ๆ จึงออกมาขายของดีกว่า เจอคนนั้นคนนี้ มีเพื่อน ก็สนุกดี”

คุณยายจำปี
คุณยายยิ้มมีความสุขตลอดการพูดคุยกับแก
คุณยายจำปี
ละมุดหวาน ๆ ของยายจำปี

เมื่อเราคุยไปเรื่อย ๆ ก็เริ่มวางตัวในท่าทีที่สบายขึ้น ยายจึงเริ่มเล่าให้ฟังเยอะขึ้น ของที่แกเอามาขายทั้งหมด แกรับซื้อมาจากชาวสวนในพื้นที่นครสวรรค์ เพื่อเอามาขายในกรุงเทพฯ ที่ทำแบบนี้เพราะว่าแกต้องการสร้างรายได้ให้กับชาวสวนที่ยากลำบาก อย่างน้อยในหนึ่ง ๆ วันพวกเขาก็ได้เงินจากคุณยายไปใช้แล้ว ไม่ต้องออกไปแบกรับความเสี่ยงขายเอง แกจึงเหมาซื้อผักผลไม้ของชาวสวนเหล่านั้น ตกต่อวันประมาณ 3,000 - 4,000 บาท แล้วแกก็แบกมาขายต่อใน กทม. เอง เราถามว่าทำไมแกถึงไม่ขายในจังหวัดตัวเองในละแวกใกล้เคียงแกบอกว่าแถวบ้านมีกินกันเยอะแล้ว เอามาขายในเขต กทม. ดีกว่า

ร้านของคุณยายจำปี
ลักษณะการตั้งร้านของคุณยายจำปี

ผมถามว่าแกได้อะไรจากการทำแบบนี้? แกยิ้มแล้วหันมามองผม “เมื่อสมัยก่อนยายขายอยู่ที่เตาปูน ตอนนั้นยังหาบของขายอยู่ ช่วงนั้นของถูกขายกันกำละบาทเอง ยายก็รับมาสองสามร้อยกำ ยายขายไม่หมดหรอก ยายก็ต้องทิ้ง แต่อย่างน้อย ๆ ก็สบายใจเราที่ได้ช่วยเขา ให้คนจน ๆ เขามีกิน อย่างน้อย ๆ เขาก็ได้มีเงินไปใช้ซื้อข้าวสาร น้ำปลาให้ลูกเขาได้กิน ยายชอบช่วยคนจน ๆ เราก็ช่วยเท่าที่จะช่วยได้ ยายก็ไปซื้อทุกวัน จะกี่คน ยายช่วยซื้อหมด ขายไม่หมดก็ไม่เป็นไร เราไม่ได้เอากำไร เราขายให้เพราะเราสบายใจ เราอยากช่วยเขา บางครั้งเราก็ได้บ้าง เขาก็ได้บ้างพลัดกันไป เราสบายใจเขาสบายใจ ก็ได้ทั้งสองฝ่าย” ยายพูดไปพลางยิ้มไป คนที่ฟังแกพูดก็แอบยิ้มตามแกไปด้วย เรารับรู้ได้ถึงความตั้งใจที่บริสุทธิ์ของแกจริง ๆ

ลูกละมุด ร้านคุณยายจำปี
ลูกละมุด ร้านคุณยายจำปี
มะขามเทศ ร้านคุณยายจำปี
มะขามเทศ ร้านคุณยายจำปี

เราหันไปมองผลไม้ในตะกร้า แกจึงหยิบละมุดกับมะขามเทศมาให้ชิมซึ่งต้องบอกเลยว่าผลไม้ของแกสดจริง ๆ เพราะแกรับของทุกอย่างมาในตอนเช้าของทุกเช้า ถ้าวันไหนขายไม่หมด อันไหนเก็บไม่ได้แกก็ทิ้ง ของแกขายไม่แพง ถั่วต้มถุงละ 20 บาท ละมุด 30 บาท มะขามเทศ 30 บาท ถ้าถุงใหญ่ 50 บาท ผักสะเดากำละ 10 บาท สุดท้ายเราจบด้วยคำถามที่ว่า คุณยายจะขายแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่ครับ คุณยายนิ่งไปสักพัก ก่อนจะตอบว่า 

“ก็ขายมันจนกว่าจะขายไม่ไหวนี่แหละ และถ้ามีโอกาสที่จะแข็งแรงไปเรื่อย ๆ ยายก็คงจะช่วยแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะไม่ไหว จนกว่าจะกลับบ้านเก่า ไม่มีใครรู้หรอกว่าจิตใจของยายจริง ๆ เป็นยังไง ยายอยากช่วยทุก ๆ คน”

ละมุด ผลไม้จากร้าน คุณยายจำปี
ลูกละมุด ร้านคุณยายจำปี
มะขามเทศ ผลไม้จากร้าน คุณยายจำปี
มะขามเทศ ร้านคุณยายจำปี

เหนือสิ่งอื่นใด ก็คือเหตุผลที่คุณยายยังคงใช้ชีวิตประจำวันวนไปแบบนี้ เพื่อช่วยเหลือคนที่ทุกข์ยาก ถ้ายายไม่ขายพวกเขาก็ไม่มีกิน ยายจึงเลิกขายไม่ได้ แกคือฮีโร่ที่ไม่ได้เข้มเเข็งมาจากภายนอก มันเข้มแข็งมาจากภายใจต่างหาก ว่าแล้วก็อย่าลืมไปช่วยอุดหนุน “คุณยายจำปี” กันนะ แกขายประจำอยู่ที่ อารีย์ซอย 1 แกมาขายทุกวัน ประมาณบ่ายโมงถึงหนึ่งทุ่ม 

สามารถอ่านเรื่องราวสู้ชีวิตที่น่าสนใจของ Wongnai ต่อได้ที่