เข้าสู่เดือนสุดท้ายของปีกันแล้ว ใกล้จะได้เฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ในอีกไม่กี่วัน เพื่อน ๆ คนไหนที่ยังไม่มีแพลนหรือว่ายังไม่มีร้านอาหารในใจ วันนี้ Wongnai ขอมาแชร์ 3 ร้านอาหารเปิดใหม่ที่ โซน Gourmet Garden ชั้น G สยามพารากอน บอกเลยว่าหลากสไตล์ หลายรสชาติ ที่มาพร้อมคอนเซป SIAM PARAGON WORLD CLASS FOOD DESTINATION สวรรค์แห่งร้านอาหารระดับเวิลด์คลาสท่ามกลางสวนสวยใจกลางย่านสยาม รวบรวมอาหารหลากหลายสัญชาติเพื่อให้คุณได้ลิ้มลองรสชาติอาหารจากทั่วโลก รับประกันว่าจะต้องถูกใจ เหมาะกับการมากินกับครอบครัว คนรัก และสังสรรค์กันเพื่อน ๆ แน่นอน ถ้าอยากรู้ว่ามีร้านไหนบ้างก็ตามมาเลยเหมาะกับการมากินกับเพื่อน ครอบครัว หรือคนรักแน่นอนค่ะ ถ้าอยากรู้ว่ามีร้านไหนบ้างก็ตามมาเลย~
Burger & Lobster
มาเริ่มต้นกันที่ร้าน Burger & Lobster ร้านดังจากสหราชอาณาจักร ที่ตอนนี้ได้เปิดตัวแล้วที่ โซน Gourmet Garden ชั้น G ในสยามพารากอนนั่นเองค่ะ โดยที่ร้านจะออกให้มีความหรูหราและร่วมสมัย ซึ่งจะให้ประสบการณ์การรับประทานอาหารแบบผ่อนคลายแต่มีสไตล์ ทำให้ในร้านมีบรรยากาศที่คึกคัก แต่ก็ยังให้ความสบาย ๆ ดูมีเสน่ห์และเรียบง่าย โดยภายในร้านสามารถรองรับได้ถึง 58 ที่นั่ง มาเป็นกลุ่มก็สบายมากค่ะ ร้านยังน่านั่งขนาดนี้ เมนูอาหารจะน่ากินแค่ไหนกันนะ
มาเริ่มต้นกันที่เมนู Lobster Thermidor กุ้งล็อบสเตอร์สด ๆ ที่นำมาปรุงสุก พร้อมกับซอสครีมเห็ดและชีส ให้จานนี้มีรสชาติที่นุ่ม ละมุนลิ้นสุด ๆ ไปเลยค่ะ เนื้อล็อบสเตอร์หวาน เด้ง ลงตัวกับครีมเห็ดและชีสที่มีความเค็ม เพิ่มรสชาติตัดเลี่ยนด้วยเลมอน เสิร์ฟพร้อมขนมปังกระเทียมและสลัดของที่ร้าน เป็นเมนูที่อยากให้ทุกคนได้มาลองจริง ๆ ค่ะ และอีกเมนูที่ถ้ามาแล้วไม่ควรพลาดเลย คือ Khao Soi Lobster เมนูที่ผสมผสานวัฒนธรรมอาหารของภาคเหนือ และใช้กุ้งล็อบสเตอร์เป็นจุดเด่นเพิ่มรสชาติให้จานนี้ได้ดียิ่งขึ้น น้ำข้าวซอยที่ผ่านการปรุงมาอย่างพิถีพิถัน ได้กลิ่นหอมของเครื่องเทศ เคียงมากับหอมแดงซอย หอมเจียว และผักกาดดอง เส้นข้าวซอยเป็นเส้นเล็ก ๆ ได้ความเหนียวนุ่ม และเส้นที่ทอดกรอบมาก็ได้สัมผัสที่สนุกในการกินมากยิ่งขึ้น เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำมันพริกเผา เพิ่มความจัดจ้านให้เมนูนี้ได้ดีมากค่ะ ที่สำคัญคือเมนูนี้มีเฉพาะที่สาขาสยามพารากอนเท่านั้น!
จริง ๆ ที่ร้านยังมีเมนูอีกมากมายให้ทุกคนได้มาลิ้มลอง อย่าง Lobster Mac & Cheese เหมือนเล็กแต่จริง ๆ แล้วที่ร้านจัดมาให้จุก ๆ ทั้งมะกะโรนีและเนื้อล็อบสเตอร์ ได้ความนัวติดรสเค็ม ๆ ของชีส ตัดกับความหวานของล็อบสเตอร์และเส้นมะกะโรนีที่หนึบหนับ ให้ได้ความรู้สึกเพลินเวลากินค่ะ และอีกเมนูที่ควรลอง ก็คือ The Original Lobster Roll ขนมปังเนื้อหนานุ่ม ที่เอาไปนาบบนกระทะให้ได้สีน้ำตาลสวย และความกรอบของขนมปังที่เพิ่มเนื้อสัมผัส มาพร้อมไส้ล็อบสเตอร์เลมอนมาโย และซอสซิกเนเจอร์ของที่ร้าน แต่บอกเลยว่าเข้ากันแบบสุด ๆ เป็นรสชาติที่ควรมาลองสักครั้งค่ะ
TWG TEA
สายดื่มชาต้องห้ามพลาดเลยค่ะกับร้าน TWG TEA ที่ย้ายลงมาอยู่ชั้น G ฝั่งเหนือ พร้อมร้านใหม่ที่สวยงามและหรูหรากว่าเดิม โดยครั้งนี้จะพาทุกคนมาเปิดประสบการณ์ไม่รู้ลืมกับ Festive Noel Menu เมนูเซตพิเศษต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ที่อยากเชิญชวนทุกคนให้มาลิ้มลองค่ะ
โดยใน Festive Noel Menu จะมาเป็นเซตใหม่แบบนี้เลยค่ะ ครบทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน เสิร์ฟมาพร้อมม็อกเทลราสป์เบอร์รีและน้ำเลมอนรสเลิศ และชา RED CHRISTMAS รสชาติพิเศษสำหรับเซตเมนูนี้ค่ะ เหมาะกับการนั่งดินเนอร์ ได้บรรยากาศเหมือนจิบชาอยู่อังกฤษ เพลิดเพลินไปพร้อมกับเสียงเพลงในร้านที่ขับกล่อมให้รู้สึกผ่อนคลาย
ซึ่งใน Festive Noel Menu ก็มีอาหารที่มาแล้วควรจะต้องลอง อย่างสเต๊กเนื้อแกะที่ผ่านการหมักเครื่องเทศมาจนเข้าเนื้อ ทำให้จานนี้ไม่ได้กลิ่นสาบเลย สัมผัสได้ถึงความนุ่มและหอมของเนื้อแกะที่เป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมซอสกรีกโยเกิร์ต รสชาติเฉพาะของที่ร้าน TWG TEA และถ้ามาถึงที่ร้านแล้วจะพลาดของหวานและชาไปได้ยังไง RED CHRISTMAS ชาที่ให้ความรู้สึกเผ็ดเล็ก ๆ ให้ความรู้สึกแปลกใหม่และสนุกที่จะได้ลิ้มลอง และเมนูของหวานที่ผ่านการรังสรรค์และออกแบบมาเพื่อเทศกาลนี้โดยเฉพาะ เค้กเรดเวลเวทผสานไส้ยุซุครีมชีสและเชอร์รียุซุเจลลี ให้รสชาติที่เปรี้ยวอมหวาน ให้รสชาติที่มีมิติในหนึ่งคำที่ได้ลิ้มลอง พร้อมกับไอศกรีม Red Christmas Tea ที่หอมมัน ยิ่งกินคู่เค้กเรดเวลเวทและพานาคอตตา ยิ่งเสริมให้จานนี้ได้รสชาติที่ดีมากขึ้นไปอีกจนรู้ตัวอีกทีก็หมดจานไปแล้ว คนที่รักในของหวานและชาห้ามพลาดโดยประการทั้งปวง
Maple Tree House
และร้านสุดท้ายของเราในวันนี้ ก็คือ Maple Tree House ร้านอาหารสไตล์ “ซัมกยอบซัล Samgyupsal” ปิ้งย่างเกาหลีแบบพรีเมียม โดยบรรยากาศของร้านตกแต่งด้วยสไตล์ Contemporary ที่ผสานกลิ่นอายของวัฒนธรรมเกาหลีดั้งเดิม กลิ่นอายของไม้และธรรมชาติ และวัสดุร่วมสมัยอย่างโลหะและแก้ว ให้ความรู้สึกเหมือนเราได้นั่งกินปิ้งย่างอยู่ที่เกาหลีจริง ๆ เลยค่ะ
มาเริ่มกันกับเมนูปิ้งย่างที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่ร้านกันค่ะ กับ Samgyupsal (หมูสามชั้น) ที่ให้มาชิ้นใหญ่ ๆ หนา ๆ ได้รสชาติความฉ่ำของเนื้อหมูที่ผ่านการปิ้งมาพอดี เคล้ากับน้ำมันงาและเกลือที่ดึงรสชาติของหมูสามชั้นออกมาได้เต็มคำ และ Woosamgyup (เนื้อส่วนท้องสไลซ์บาง) เนื้อวัวลายสวยที่สไลซ์มาได้บางกำลังดี เหมาะกับการปิ้งย่าง ใช้เวลาไม่นานก็จะได้เนื้อชุ่มฉ่ำ จิ้มกับซอสสูตรพิเศษของทางร้านที่บอกเลยว่ามันดี! แล้วหายห่วงเลยว่าถ้ามากับเพื่อน ๆ จะเมาธ์เพลินจนเนื้อไหม้ เพราะที่ร้านจะมีพนักงานคอยดูแล จัดการปิ้งเนื้อแทนเรา คุ้มค่า คุ้มราคาสุด ๆ
มาอีก 2 เมนูที่ควรลอง ก็คือ Stonebowl Bibimbap (บิบิมบับร้อน เสิร์ฟในหม้อหิน) บิบิมบับที่มาพร้อมเครื่องเคียงแน่น ๆ ข้าวที่หอมได้ความเกรียมเล็ก ๆจากก้นหม้อ คลุกเคล้ากับเนื้อสับ ผักเคียง ไข่ดิบ และซอสบิบิมบับ ได้รสชาติที่เข้มข้นจากซอส พร้อมความหอมจากน้ำมันงา เสริมสัมผัสการกินด้วยผักเคียงกรุบกรอบ เพอร์เฟกต์มากสำหรับจานนี้ และ Sundubu Jjigae (ซุปเต้าหู้อ่อนหอยตลับ) เป็นซุปเต้าหู้ที่รสชาติดีมาก ได้ความเค็ม ๆ และกลิ่นหอมจากหอยตลับ ติดเปรี้ยวเล็กน้อยจากกิมจิ เพิ่มความละมุนด้วยเต้าหู้อ่อน ซดเพลินคล่องคอ เหมาะกับอากาศเย็น ๆ ใกล้ปลายปีที่สุด!
เพื่อน ๆ คนไหนที่ยังไม่มีแพลน ลองเอา 3 ร้านอาหารเปิดใหม่ในสยามพารากอน ที่เรานำมาฝากในวันนี้เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งให้เพื่อน ๆ ได้เฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ไปพร้อมกับคนพิเศษและมื้ออาหารสุดพิเศษ ให้เทศกาลนี้มีแต่ความสุขและรอยยิ้มค่ะ
