[รีวิว] ข้าวต้มกระดูกหมูสุขุมวิท 71 เข้มข้นน้ำต้มกระดูก เคี่ยวจนนุ่ม!

หลังจากทำงานอันหนักหน่วง บางคนก็อยากเติมพลังให้เต็มที่ก่อนกลับบ้านเพราะน่าจะหิ้วท้องไม่ไหว ขอหาร้านเด็ด ๆ ราคาไม่แรงแถวออฟฟิศกินก่อน วันนี้ทีมงาน Wongnai มาอยู่กันที่ย่านพระโขนงค่ะ เรามาปักหมุดกันที่ร้าน “ข้าวต้มกระดูกหมูสุขุมวิท 71” ร้านในตำนานที่คนแถวนี้มาฝากท้องกันในมื้อเย็น ไฮไลต์ที่หลาย ๆ คนติดใจมากินร้านข้าวต้มเจ้านี้ก็เพราะน้ำซุปข้น ๆ กระดูกหมูนุ่ม ๆ รูดเพลินนี่แหละ ใครที่ไม่เคยลองชิมต้องจัดสักหน่อย แต่ถ้าใครอยากรู้ว่าร้านนี้มีที่มาอย่างไร เราได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณเจี๊ยบ ไปรยา ทัตพลธนกูลเจ้าของร้าน มาอ่านไปพร้อม ๆ กันเลย!

จุดเริ่มต้นมีของร้านข้าวต้มกระดูกหมูสุขุมวิท 71

ร้านของพี่เจี๊ยบเปิดมาตั้งแต่ปี 2517 ค่ะ 17-18 ปีได้แล้วนะคะ เริ่มจากที่ป๊ากับแม่ไปกินข้าวต้มแล้วเขาก็มาคิดว่าแถวบ้านย่านถนนสุขุมวิท 71 ไม่มีคนขาย ป๊าก็เลยอยากทำข้าวต้มอร่อย ๆ มาขายตอนกลางคืนค่ะ ซึ่งร้านข้าวต้มของเจี๊ยบเริ่มต้นตั้งแต่เข็นรถขายเลยนะ เข็นรถตั้งแต่ขายอยู่ในตลาดคลองพระโขนงสมัยก่อนเลยค่ะ แล้วพอตอนกลางคืนแถวนี้มันใกล้ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ลูกค้าที่เที่ยวกลางคืนก็จะมาอุดหนุนกันเยอะมากแล้วก็ขายดีตั้งแต่ตอนนั้นเลยค่ะ

จุดเปลี่ยนของร้าน

เราเริ่มต้นจากข้าวต้มกระดูกหมู สมัยก่อนเจี๊ยบไม่มีข้าวต้มอย่างอื่นให้ลูกค้าเลือกนะคะ มีแค่ข้าวต้มกระดูกหมูอย่างเดียว ตอนนั้นเราต้องสั่งทำเตาเพื่อต้มกระดูก เพราะวันหนึ่งขายเกือบ 100 กิโลกรัม ลูกค้าก็บอกว่าทำไมไม่มีข้าวต้มอย่างอื่นให้เลือกบ้าง แล้วไม่มีกับข้าวอย่างอื่นให้เลือกอีกเหรอ จนเราย้ายมาร้านปัจจุบันขยายเป็นห้อง 2 คูหา เราก็เริ่มมีเมนูอย่างอื่นให้ลูกค้าเลือกค่ะ

จุดเด่นและหัวใจของร้านข้าวต้มกระดูกหมูสุขุมวิท 71

เอกลักษณ์คือว่าข้าวต้มจะไม่เหมือนที่อื่น ที่เห็นข้าวต้มจะเป็นน้ำต้ม ต้มจนน้ำเดือดแล้วใส่กระดูกหมู เคี่ยวจนกระดูกหมูนุ่ม พอน้ำเดือดแล้วค่อยใส่ข้าวสารลงไปต้ม เพราะฉะนั้นน้ำซุปของเราจะเข้มข้นมาก น้ำมันจะหวาน สีก็จะไม่ใส ๆ นะคะ สีจะเป็นข้น ๆ แบบเห็นได้ชัดเลย ข้าวต้มร้านเราจะไม่ใส่น้ำตาลทราย การปรุงเราจะใส่น้ำปลาอย่างดีเท่านั้นเอง ส่วนความหวานก็หวานจากน้ำต้มกระดูกไม่มีน้ำตาลไม่มีผงปรุงรสอื่น ๆ 

ปัจจุบันข้าวต้มของเรามีกี่อย่างแล้วมีจุดเด่นอย่างไรบ้าง

เมื่อก่อนมีข้าวต้มกระดูกหมูอย่างเดียวแต่ตอนนี้มีให้ลูกค้าเลือก 5 อย่าง ข้าวต้มกระดูกหมู ข้าวต้มกระเพาะหมู ข้าวต้มหมูสับ ข้าวต้มหมูบะเต็ง แล้วก็ข้าวต้มหมูกรอบ “หมูบะเต็ง” ก็จะไม่เหมือนของที่อื่น ของเราใช้เป็นคอหมูเพราะฉะนั้นเวลาเคี้ยวก็จะกรุบ ๆ มีรสชาติ หวาน ๆ เค็ม ๆ แล้วก็เผ็ดพริกไทย ส่วน “หมูกรอบ” ของเราเวลาหั่นจะได้ยินเสียง กร๊อบ กร๊อบ กร๊อบ เลย แล้วก็ชั้นไขมันน้อยมากแทบจะแห้งเลย สำหรับคนที่ชอบกินหมูกรอบร้านเราไม่ต้องห่วงจะอ้วนนะคะ

ตอนนี้เจี๊ยบก็มี “ไส้พะโล้” ด้วย เราใช้น้ำพะโล้จริง ๆ เราเคี่ยวน้ำตาลก่อนแล้วเอาไส้ลงไปคลุกจากนั้นเอาเครื่องพะโล้ใส่ ไม่ได้ใช้ซีอิ๊วดำ และใช้หัวไส้ไม่ใช้ส่วนที่เป็นปลายไส้ ดังนั้นไส้พะโล้ของร้านเจี๊ยบจะออกหวาน ๆ แล้วก็หอม ๆ ไม่มีกลิ่น “หอยลาย” ที่นี่ใช้หอยลายแกะค่ะ ลูกค้าจะไม่ต้องมานั่งกังวลกับเรื่องเปลือก เนื้อหอยลายแกะแล้วก็ผัดพริกเผา ลูกค้าบอกว่าของที่นี่ไม่เค็มไม่เผ็ดไม่หวานไปจะนัว ๆ รสชาติกลมกล่อม

“สะตอผัดกุ้ง” จะไม่ผัดเหมือนร้านอื่น ร้านทั่วไปจะผัดด้วยกะปิ ของร้านข้าวต้มกระดูกหมูสุขุมวิท 71 จะผัดออกเปรี้ยวหวานรสชาติคล้ายต้มยำ แล้วก็จะออกเผ็ด ๆ นิดนึงนะคะ สะตอต้องเผ็ด ๆ แซ่บ ๆ แล้วก็ออกเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ เล็กน้อยถึงจะอร่อยค่ะ แต่เมนูนี้มีเฉพาะฤดูกาลนะคะ ไม่ได้มีตลอด 

ทำไมร้านเราถึงเป็นร้านที่ทุกคนต้องกลับมาซ้ำ

ที่สามารถผูกใจลูกค้าได้เพราะว่าลูกค้ามาเมื่อไรก็จะเจอเจี๊ยบ เราจะลงมาดูแลด้วยตัวเอง มีการทักทายถามสารทุกข์สุกดิบกันทั้งเจี๊ยบและเขา เป็นอย่างไรสบายดีไหม ป๊าแม่สบายดีไหม เขามีความรู้สึกสบายใจเหมือนกับมากินกับร้านที่รู้จัก มาอุดหนุนคนที่รู้จัก อย่างที่สองคือใส่ใจตรงที่รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ มีเมนูอะไรใหม่ ๆ เราก็แนะนำลูกค้า ของเราไม่ได้สั่งมาเยอะ ๆ เพื่อฟรีซไว้ เราใช้ของวันต่อวัน

ความใส่ใจที่ลูกค้ากลายเป็นครอบครัวของเรา

ลูกค้าของเจี๊ยบ เรียกได้ว่า 3 Generation ก็ว่าได้ ตั้งแต่คุณปู่ที่เขามากินพร้อมกับพ่อกับแม่ จนเขาพาลูกมา จนรุ่นลูกทุกวันนี้พาหลานมา คุณตา คุณยาย บอกร้านนี้กินตั้งแต่พ่อลื้อยังเด็ก ๆ เลยนะ ถ้าไม่กินที่บ้านก็ต้องมากินที่ร้านเธอ อะไรแบบนี้ค่ะ เป็นอะไรที่แบบดีมากเลย ลูกค้าก็เหมือนคนคุ้นเคยเนอะ เจี๊ยบถึงได้รู้ว่าเราเหมือนกับครัวที่สองของทุก ๆ บ้านเลยค่ะ

ข้าวต้มกระดูกหมูสุขุมวิท 71 อยู่ที่ถนนสุขุมวิท 71 ระหว่างซอยปรีดีย์ 14 กับซอยปรีดีย์ 16 อยู่ตรงกลางเลยสามคูหา หาง่ายมาก เวลาเปิดปิดตอนนี้เปลี่ยนตามสถานการณ์ปัจจุบันนะคะว่ารัฐบาลจะมีวิธีการเปิดปิดอย่างไร โดยร้านจะหยุดอังคารที่ 4 ของเดือนค่ะ โทรหาก่อนได้นะคะ หรือใครที่ไม่สะดวกมากินที่ร้านก็สามารถสั่งผ่าน LINEMAN ได้เลยค่ะ