
#วงในบอกมา
“สีฟ้า” เริ่มมาตรการโต๊ะเว้นโต๊ะมาตั้งแต่เดือนมีนาคม ก่อนเปิดให้บริการอีกครั้งก็เตรียมตัวมาดีและยังคงยืนหนึ่งเรื่อง Social Distancing
ในเดือนมิถุนายนนี้ “สีฟ้า” จะครบรอบ 84 ปี หรือ 7 รอบ ซึ่งทางร้านเตรียมเมนูพิเศษเอาไว้ให้กับลูกค้าแล้ว
ใครยังไม่ได้ซื้อเวาเชอร์ของ “สีฟ้า” รีบซื้อตอนนี้ คุณได้ส่วนลด และสามารถใช้ได้ถึง 31 เมษายน 2564

ในฐานะที่ “สีฟ้า” เป็นร้านอาหารแรก ๆ ที่ใส่ใจเรื่อง Social Distancing มาตั้งแต่ยังไม่มีประกาศให้ปิดร้านอาหารชั่วคราว ทำให้ที่นี่พร้อมในการเปิดร้านในวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา
“จริง ๆ เกริ่นแบบนี้ พอเราเริ่มรู้ว่ามีโควิด 2019 เราเริ่มศึกษาว่าโควิดมีคาแรกเตอร์อย่างไร เรานำระบบ GMP in Mass Catering มาใช้ เราโฟกัสเรื่องของการ Cross Contamination หรือว่าการปนเปื้อนข้ามกันระหว่างกัน เราก็เริ่มมองว่าโอกาสอะไรบ้างที่จะปนเปื้อน เป็นที่มาของการเพิ่มมาตราการเข้าไปจนเป็นอย่างที่เห็น ช่วงแรก ๆ จะเห็นพนักงานใส่ถุงมือ ใส่หน้ากาก พอเริ่มมีคำสั่งเราเข้าใจเราปรับใช้เลย ช่วงแรกโต๊ะเว้นโต๊ะ เพราะว่าเราทำให้โรงพยาบาลรามาฯ เราจะรู้ข่าวบางข่าวก่อน เรียกว่าเราใช้ความเข้าใจ” คุณกร รัชไชยบุญ ผู้จัดการทั่วไปของกลุ่มบริษัทห้องอาหารสีฟ้า พูดถึงความพร้อมเรื่องความปลอดภัยก่อนที่จะถูกให้ปิดชั่วคราว

หลังจากนั้น “สีฟ้า” ก็เริ่มหาซัพพลายเออร์ที่มาช่วยผลิตหน้ากากพิมพ์ลายแบบของสีฟ้า เพื่อให้พนักงานมีหน้ากากผ้าใช้เองมาตั้งแต่ต้น ซึ่งก่อนวันที่ 3 พฤษภาคม สีฟ้าเริ่มศึกษาข้อมูลเพื่อปฎิบัติให้ตรงตามกฎระเบียบของทางราชการ แต่เมื่อมีความไม่แน่ใจและมีอุปกรณ์บางอย่างที่ไม่พร้อม จึงตัดสินใจเปิดร้านในวันที่ 11 พฤษภาคม
“ฉากกั้นเอาจริง ๆ เราไม่คิดว่าเขาจะให้ใช้ด้วยซ้ำ ก่อนนี้เรากำหนดมาตรการแค่โต๊ะเว้นโต๊ะ แต่มีข้อมูลว่าต้อง 1.5 เมตร ถ้าต่ำกว่าต้องมีฉากกั้น ฉากกั้นนี่ก็เพิ่งมาถึง ไม่เพียงเท่านั้นยังลดการหยิบจับเมนูและใบเสร็จด้วยการออกแบบ E-Menu และ E-Payment ที่ทุกอย่างจบลงโดยไม่ต้องสัมผัสอะไรเลย”


ส่วนในช่วงที่นั่งกินที่ร้านไม่ได้ คุณกรก็มองเห็นว่า ลูกค้าไม่ค่อยทราบว่าสีฟ้าเองก็มีบริการเดลิเวอรี เนื่องจากเป็นร้านอาหารครอบครัวที่มักจะมากินที่ร้านมากกว่า คุณกรจึงอาศัยช่วงเวลานี้ปรับปรุงระบบเดลิเวอรีของสีฟ้า
“เดลิเวอรีของสีฟ้า จริง ๆ ทำมาเป็น 20 ปีแล้ว เรามีแชนแนลของตัวเอง ก่อนหน้าจะมีระบบเดลิเวอรีแบบตอนนี้ ตอนนั้น LINEMAN เริ่มเข้ามา เราเลยแอพพลายร่วมกัน มีเจ้าหนึ่งเราเลยอยู่ในทุกแชนแนลเหมือน Market Place สีฟ้าเองก็อยากเข้าไปอยู่ในสังคมของคนรุ่นใหม่ จริง ๆ เป็นหลักคิดแบบหนึ่ง สมัยก่อนคุณปู่คุณพ่อ เปิดสาขาครั้งหนึ่งก็จะไปอยู่ในสถานที่ที่เป็น Market Place ใหม่ ๆ เรามองว่าเดลิเวอรีเป็น Market Palce ตัวหนึ่งของสีฟ้าอยู่แล้ว เป็น Market Place ของอนาคต พอมีโควิดเข้ามา เราก็แค่สร้างให้มันแข็งแรงมากขึ้น มันก็เลยพอดีกันกับจังหวะ”


ในโอกาสที่เดือนมิถุนายนนี้ “สีฟ้า” จะครบรอบ 84 ปี ทำให้ร้านอาหารแห่งนี้กลายเป็นร้านอาหารตำนานที่อยู่คู่เมืองไทยมากว่า 7 รอบ เรามาฟังกันว่าจุดเริ่มต้นของร้านอาหารตำนานนี้เป็นอย่างไร
“คุณปู่เป็นคนเริ่มที่ถนนราชวงศ์ เป็นร้านห้องแถว ค่อย ๆ พัฒนาตัวเองมาเรื่อย ๆ สมัยแรกเป็นร้านอาหารที่ทำเฉพาะไอศกรีมและเครื่องดื่ม แล้วมีร้านอาหารอื่น ๆ มายืนอยู่ล้อมรอบสีฟ้า พอสักพักก็ทำอาหารเองโดยจ้างกุ๊กจากร้านที่เลิกทำแล้ว พอเราอยากขยายสาขาที่ 2 เราก็ถามเจ้าต่าง ๆ ว่าไปกับเราไหม บางคนไป บางคนไม่ไป คนที่ไปก็ขยายสาขาไปพร้อมกับเรา คนที่ไม่ไป ไอเท็มที่เขาไม่มา เราก็ทำเอง พอเริ่มขยายไปที่สยามสแควร์ สาขาที่ 3 4 และ 5 ก็เริ่มสะสมสูตรอาหารที่เกิดขึ้นจากการทดลอง และขอความรู้จากคนที่เป็นหุ้นส่วนที่ทำงานร่วมกับเรา แล้วเริ่มสะสมสูตรอาหารมาตลอด 40-50 ปี จนกระทั่งทุกวันนี้เรามีสูตรอาหารของเราเอง”


อย่าง “ข้าวหน้าไก่ราชวงศ์” ก็เกิดขึ้นในสมัยถนนราชวงศ์ โดยเชฟมือหนึ่งของสีฟ้าที่มีการปรับตามที่เชฟชอบให้เนื้อสัมผัส สี และกลิ่นแบบที่สีฟ้าเป็นอยู่ทุกวันนี้ โดยทีมงานสีฟ้าปัจจุบันก็ทำหน้าที่รักษาตรงนั้นให้ต่อเนื่องยาวนาน ซึ่งกลายเป็นเมนูที่ลูกค้าคนรุ่นใหม่หลายคนโตมากับข้าวหน้าไก่ไข่ดาว
เช่นเดียวกับ “บะหมี่แห้งอัศวิน” ก็เกิดสมัยราชวงศ์เหมือนกัน เป็นยุคเดียวกันกับที่ยังมีตำรวจที่เรียกว่า อัศวินแหวนเพชร ตำรวจกลุ่มนั้นจะมากินข้าวที่ร้าน แล้วชอบสั่งบะหมี่ที่มีเครื่องเยอะ ๆ ต่อมาคนอื่นเห็นก็บอกเอาแบบอัศวิน จึงกลายเป็นที่มาของชื่อเมนูนี้


“สีฟ้า” ยังปรับตัวด้วยการออกเมนูใหม่ ๆ ที่มากกว่า Ready to eat “วิถีกินแบบสีฟ้าอยากให้มีจานหลักและจานเสริมเล็ก ๆ ช่วงเดลิเวอรีมีแบบกินคนเดียว กินหลายอย่างคล้ายเบนโตะ พอไปในร้าน ทีมงานวางแผน และเริ่มแล้ว One for one เป็นอาหารจานเดี่ยวที่ทุกคนชอบ แต่สามารถสั่งเพิ่มเซตได้ แล้วในเซทจะมีขนมจีบ ปอเปี๊ยะสด สลัด สามารถเพิ่มน้ำได้เป็นตัวเลือก กินคนเดียวได้แทนที่จะมีจานกลางแล้วแบ่งสองคน ตอนนี้แบ่งกันลำบาก เลยออกแบบใหม่ เรายังมีนโยบายอีกอย่าง เรารู้ว่าลูกค้านั่งแบบนี้ก็อยากจานกลาง เราจึงให้พนักงานแบ่งให้ได้โดยอัตโนมัติ เราปรับวิธีการเป็นการชั่วคราว แต่สักพักอาจจะถาวรก็เป็นไปได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์”


นอกจากนี้ยังร่วมกับเวาเชอร์ของ Wongnai “ตอนที่ได้ยินแคมเปญของ Wongnai ชอบมากเลยนะ เห้ยต้องแบบนี้สิ ของสีฟ้าแพลนจะทำ แต่ออกมาไม่ทันพอ Wongnai บอกว่ามี E-Voucher และนโยบายบอกว่า Wongnai เป็นตัวกลางรวบรวมร้านอาหารต่าง ๆ มาอยู่ด้วยกัน แล้วช่วยเหลือร้านอาหารด้วยลักษณะนี้ เราประทับใจมาก ช่วยได้มากน้อยไม่รู้ รู้แต่ว่ามันขึ้นอยู่กับยอดขาย แต่วิธีคิดแบบนี้ทำให้คนทั่วไปเข้าใจ เป็นหลักคิดเดียวกันกับห้องฝากร้านของมหาลัยที่พยายามช่วยเหลือคนที่ทำธุรกิจ ถามว่าช่วยได้ ไม่ใช่แค่สีฟ้า แต่รวมถึงกลุ่มธุรกิจที่อยู่ในแพลตฟอร์มของ Wongnai ด้วย”
เวาเชอร์สุดคุ้มของ สีฟ้า มี 3 ราคา ซื้อได้ที่นี่ คุณได้ส่วนลด ร้านอาหารได้อยู่ต่อ
เวาเชอร์ราคา 440 บาท สามารถนำไปใช้กินอาหารที่ร้านได้ถึง 500 บาท
เวาเชอร์ราคา 850 บาท สามารถนำไปใช้กินอาหารที่ร้านได้ถึง 1,000 บาท
เวาเชอร์ราคา 1,600 บาท สามารถนำไปใช้กินอาหารที่ร้านได้ถึง 2,000 บาท
เวาเชอร์สามารถใช้ได้ถึง 31 เมษายน 2564

นอกจากนี้ในเดือนมิถุนายนนี้ สีฟ้า เตรียมฉลองครบ 7 รอบ โดยเตรียมออกแคมเปญเมนูใหม่ ชวนคนกินบะหมี่ เป็นการอวยพรซึ่งกันและกันระหว่างลูกค้าและร้าน ตามความเชื่อของชาวจีน คุณกรกระซิบบอกว่าเป็นบะหมี่ที่ผสมผสานความเป็นไทย-จีน ส่วนเมนูจะเป็นอะไรต้องรอติดตามกัน
ติดตามเรื่องราวร้านอาหารดี ๆ ที่จะมาเล่าเรื่องราวของร้านอาหารมากกว่าเพียงรีวิวร้านอาหารใหม่ แต่อาหารมีเรื่องราวซ่อนอยู่เสมอ อ่านต่อได้ที่