นาเบะหรือหม้อไฟแบบญี่ปุ่น จริง ๆ แล้วมีหลากหลายชนิดที่เราชาวไทยคาดไม่ถึงเลยล่ะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการต้มโดยนำวัตถุดิบหลาย ๆ อย่างใส่รวมกันลงไปในหม้อ เรียกว่า โยเสะนาเบะ หรือจะเป็นเมนู สุกี้ยากี้, ชาบูชาบู, จังโกะนาเบะ (เมนูอาหารที่นักซูโม่นิยมรับประทาน), เทจจิรินาเบะ (หม้อไฟที่ใช้ปลาปักเป้าเป็นวัตถุดิบหลัก), โนตสึนาเบะ (นาเบะขึ้นชื่อของฟุกุโอกะใช้ไส้วัวเป็นวัตถุดิบหลัก), บุรินาเบะ (ชาบูชาบูที่ใช้ปลาบุริเป็นวัตถุดิบหลัก), คานิสุกี้ (ชาบูชาบูที่ใช้ปูเป็นวัตถุดิบหลัก) ซึ่งเมนูที่ว่ามานี้ล้วนเป็นนาเบะหรือหม้อไฟแบบญี่ปุ่นทั้งหมดเลยค่ะ แต่ถ้าหากให้ยกตัวอย่างทั้งหมดคงไม่มีที่สิ้นสุดแน่นอน

ถึงแม้ว่าหม้อไฟแบบญี่ปุ่นจะมีรสชาติ การใช้วัตถุดิบ และวิธีปรุงที่แตกต่างกัน แต่ก็มีเอกลักษณ์ที่เหมือนกันอย่างหนึ่งคือการใช้หม้อนาเบะขนาดใหญ่ และอีกหนึ่งวิธีที่คนญี่ปุ่นชอบทำคือการใส่ข้าวสวยหรือเส้นราเมงลงไปในน้ำซุปที่เหลือจากการกินหม้อไฟ ซึ่งเขาจะเรียกเมนูนี้ว่า “ชิเมะ”

สาเหตุที่ชาวญี่ปุ่นจึงชอบรับประทาน “ชิเมะ” เวลาทำหม้อไฟเป็นเพราะว่า “ชิเมะ” นั้นอร่อย! น้ำซุปจากการเคี่ยววัตถุดิบต่าง ๆ เป็นเวลานาน ๆ มีความกลมกล่อม เวลาชิมเราจะได้รสชาติของน้ำซุปที่สมบูรณ์ที่สุด ถึงแม้ว่าน้ำซุปที่ได้ผ่านการต้มเคี่ยววัตถุดิบต่าง ๆ นั้นจะเด็ดมาก ๆ แล้วก็ตาม แต่การที่เราได้ใส่ข้าวสวยหรือเส้นราเมงลงไปเสริม จะช่วยเน้นความอูมามิของน้ำซุปให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น
ด้วยความที่หม้อไฟเป็นหนึ่งในเมนูยอดฮิตประจำครอบครัวชาวญี่ปุ่น “ชิเมะ” จึงถูกปรุงขึ้นทุกครั้งหลังจากกินหม้อไฟ แม้ว่า “ชิเมะ” ที่ทำกินกันเองที่บ้านจะไม่ได้ใช้วัตถุดิบชั้นเลิศแบบเดียวกับในร้านอาหาร แต่ก็เด็ดไม่แพ้กัน หัวใจของการรับประทานหม้อไฟไม่ใช่แค่รับรู้รสชาติของวัตถุดิบแบบโดด ๆ แต่จะต้องได้รับรสชาติของวัตถุดิบหลากหลายชนิดผสมผสานเข้าด้วยกัน ดังนั้น “ชิเมะ” จึงจัดว่าเป็นเมนูที่ทำให้ทุกคนได้ดื่มด่ำกับความอูมามิได้อย่างสมบูรณ์

น้ำซุปของหม้อไฟ ไม่ได้มีเพียงแค่ความอูมามิจากวัตถุดิบเท่านั้น แต่ยังมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพละลายอยู่ในน้ำซุปอีกด้วย ซึ่งได้จากวัตถุดิบต่าง ๆ ละลายรวมอยู่ในน้ำซุป มีเด็กจำนวนไม่น้อยที่ไม่ชอบกินผักหรือไม่สามารถกินเห็ดได้ การทำเมนู “ชิเมะ” จะทำให้เด็กได้รับสารอาหารต่าง ๆ ที่ได้ละลายอยู่ในน้ำซุปหม้อไฟ ดังนั้น “ชิเมะ” จึงเป็นเมนูแนะนำสำหรับเด็กที่อยู่ในวัยกำลังเจริญเติบโต

วิธีการทำ “ชิเมะ” นั้นง่ายมาก โดยเริ่มจากใส่ข้าวสวยหรือเส้นราเมงลงในน้ำซุปที่เหลือจากการทำหม้อไฟ ตั้งไฟให้เดือดเล็กน้อย จากนั้นใส่ไข่ที่ตีแล้วลงไป ผสมให้เข้ากัน โรยด้วยต้นหอมซอยเป็นอันเสร็จ ด้วยวิธีทำที่ง่ายนี้ “ชิเมะ” จึงเป็นกิจกรรมบนโต๊ะอาหารที่สนุกอย่างหนึ่ง แม้แต่เด็กเล็กที่ทำอาหารไม่เป็น ยังสามารถร่วมทำอาหารกับผู้ใหญ่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการตอกไข่ ตีไข่ หรือโรยต้นหอม เป็นภาพบรรยากาศที่แสนอบอุ่นสนุกสนานภายในครอบครัว ราวกับฉากหนึ่งในละครจริง ๆ
ดังนั้นทางคิคโคแมนจึงอยากจะชวนทุกคน นำวัตถุดิบที่ตัวเองชื่นชอบมารังสรรค์เมนู “ชิเมะ” ในสไตล์ของตัวเอง แล้ววันหนึ่งรสชาติของหม้อไฟที่ถูกทำขึ้นจากวัตถุดิบที่ตัวเองชอบ รวมถึงเมนู “ชิเมะ” ในแบบฉบับของตัวเองนั้นจะกลายเป็นรสชาติในความทรงจำของครอบครัวต่อไป
คิคโคแมนกำลังจัดแคมเปญ “ร่วมแชร์ภาพถ่ายหม้อไฟร้อน ๆ ในความทรงจำ หม้อไฟสไตล์ญี่ปุ่น ที่ครอบครัวช่วยกันทำ” ถึงวันที่ 31 มกราคม 2566 นี้ ซึ่งแคมเปญนี้มีรางวัลที่หนึ่งสุดหรูเป็นแพ็กเกจทัวร์เยี่ยมชมโรงงานคิคโคแมนที่ประเทศญี่ปุ่น และผู้เข้าร่วมประกวดจะได้รับของรางวัลทุกคนด้วย รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้ ที่นี่ เลยค่า มาลุ้นรางวัลไปพร้อม ๆ กันนะคะ~
