วงในบอกมา
- เป็นเวลากว่า 50 ปีที่โรงงานยาสูบได้มอบรถเข็นสามล้อคันนี้ให้เป็นของขวัญ และอาแปะยังคงใช้ขาย "เต้าฮวยยาสูบ" อยู่จนถึงทุกวันนี้
- “ขายของจะประสบความสำเร็จ ขึ้นอยู่กับว่าต้องกล้าลงทุน” อาแปะจึงใช้แต่ของดีอย่าง “ขิงยา” ซึ่งมีราคาแพงกว่าขิงทั่วที่ใช้ตามท้องตลาด เพื่อรสชาติที่เข้มข้น หนักแน่น ถึงเครื่อง ถึงขิง!
- ใครอยากได้หวานน้อย ที่ร้านมีรหัสลับ “หวานแดง” หมายถึงหวานน้อย น้ำตาลทรายแดงอย่างเดียว
ร้าน “เต้าฮวยยาสูบ” เป็นร้านรถเข็นเล็ก ๆ ตั้งอยู่ภายในโรงงานยาสูบ ย่านคลองเตย ซึ่งผู้คนที่เคยสัญจรผ่านไปมาในละแวกนั้นคงจะเคยเห็นร่มสีแดงคันใหญ่ ที่ภายในมีรถเข็นคันเล็ก พร้อมชายวัยชราคนหนึ่งที่มีนามว่า "อาแปะคุงฉ่าง" (ทวีศักดิ์ ถิรผดุงพงศ์)
ร้านนี้เป็นร้านเต้าฮวยน้ำขิงที่เราได้ยินชื่อเสียงมาสักพักหนึ่งได้ เพราะเขาจัดจ้านในด้านรสชาติน้ำขิงอันร้อนแรง และที่มาแรงแซงทางโค้งสุด ๆ ก็เห็นจะเป็นชื่อเสียงอันลือลั่นในความคิวยาวนั่นเอง เราจึงถามอาแปะไปว่า “กว่าจะมาได้ถึงขนาดนี้ ยากไหมครับ ช่วงแรกที่ขายเป็นยังไง”
อาแปะตอบกลับว่า “ช่วงแรกที่ขายเราก็โดนเขาตำหนิ เขาบอกว่าของเราไร้รสชาติ” อาแปะเล่าพร้อมหัวเราะ เฮอะ เฮอะ ออกมาเบา ๆ แล้วอะไรกันนะที่ทำให้ร้าน “เต้าฮวยยาสูบ” ของอาแปะขายดี มาถึงจุดนี้ได้ เราคงต้องย้อนกลับไปดูที่จุดเริ่มต้นกันหน่อยล่ะ
อาแปะคุงฉ่าง เล่าให้ฟังว่าชอบกินเต้าฮวยมาตั้งแต่เด็ก แต่กินไปรู้สึกว่ามันไม่ค่อยมีรสชาติ เลยคิดที่จะทำมันขายซะเอง และจากคำตำหนิว่า "ไร้รสชาติ" อาแปะจึงได้การค้นคว้ากว่า 3 ปี และได้พบกับเคล็ดวิชาจากตำราที่ไม่เคยมีใครสอน ต้องใช้ประสบการณ์ และความใส่ใจ จนไปค้นพบขิงยา ในจุดนี้อาแปะบอกว่า “ต้องขอบคุณลูกค้าที่เขาตำหนิ เราจะได้รู้ว่าต้องทำให้มันดีขึ้น อย่าไปโกรธเขานะ”
ปัจจุบัน อาแปะจึงใช้ขิงที่ไว้ใช้ปรุงยา นำมาต้มเป็นน้ำขิงโดยตลอด ถึงจะมีราคาแพงแต่คงไม่แรงเกินใจ เพื่อตอบแทนลูกค้า ให้ทุกคนได้กินของดี ได้มีน้ำขิงต้มสดใหม่ไว้ซดให้คล่องคอ อาแปะทำการเปลี่ยนเนื้อขิงในหม้ออยู่ตลอด เราถามไปว่า “อาแปะรู้ได้ยังไงครับว่าต้องเปลี่ยน” อาแปะยิ้มเล็กน้อยก่อนจะบอกว่า “ประสบการณ์ครับ” ทำเอาเรารู้สึกว้าวไม่น้อยเลยกับชายชราสุดเก๋าคนนี้ และนี่เองที่เป็นสาเหตุว่าทำไมคนจึงต้องรอ เพราะการจะได้น้ำขิง หัวใจหลักของร้าน “เต้าฮวยยาสูบ” มันไม่ง่าย และต้องใช้เวลากว่าจะได้มาแต่ละหม้อ
วันที่เราได้เข้าไปคุยกับอาแปะ เราเอะใจว่าทำไมไม่มีลูกค้าอย่างชื่อเสียงที่เขาร่ำลือกัน ว่าคิวเยอะมาก! อาแปะเลยกระซิบกับเราว่า "ออร์เดอร์ตอนนี้ 100 ถุงแล้ว ถ้าอยากกิน ได้หลังบ่ายโมงนะ" เราได้ยินแล้วก็อึ้งไม่น้อย เพราะนี่มันเวลาเพียง 10 โมงเศษเท่านั้น ถ้าอยากกินฉันต้องรอไปอีก 4 ชั่วโมงเลยหรือ แต่ในเมื่อมาแล้ว จะกี่โมงก็ช่าง ขอให้ได้ลองเอาน้ำขิงรสเด็ดสุดเผ็ดร้อนมาชโลมให้ร่างกายกระชุ่มกระชวยหน่อยจะเป็นไร
ระหว่างรอ เราสังเกตว่ามีหลายคนที่แวะเวียนเข้ามาสั่งออร์เดอร์ทิ้งไว้ โดยอาแปะจะมีคำพูดติดปากเสมอว่า “ขอโทษด้วยครับ ทำไม่ทัน อีกสองชั่วโมงมาเอานะครับ” ซึ่งแต่ละคน เหมือนรู้กันอยู่ในใจ ไม่ต้องต่อรองหรือทดลองที่จะขอลัดคิว แต่ละคนก็เดินลิ่วกลับไปทำงาน แยกย้ายเพื่อรอเวลามารับออร์เดอร์ไปกินอย่างสุขใจ
อาแปะเสริมว่าปกติแล้วลูกค้าที่มาหา จะเป็นลูกค้าที่มากันประจำ พูดคุยหยอกล้อกันบ้างก็มี มองตาก็รู้ใจว่าอยากได้อะไร แต่ก็ต้องขอโทษพร้อมปฏิเสธไป เพราะยังไงต้องโทรมาจองก่อนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง ไม่งั้นจะทำให้ไม่ทัน “บางคนก็มายืนรอ 3-4 ชั่วโมง จนเรารู้สึกขอบใจ ให้กินฟรีเพื่อตอบแทนน้ำใจที่มายืนรอกันเลยก็มี”
และนั่นทำให้เราเกิดคำถามในทันทีว่า “อาแปะครับ ขายดีขนาดนี้ ทำไมไม่เปิดแฟรนไชส์ครับ” อาแปะตอบกลับทันที “โอ้ ไม่เอาหรอกครับ แฟรนไชส์มันเอาไปแล้วไปปรับสูตร มันไม่เหมือนต้นตำรับจากผม เดี๋ยวเสียชื่อ”
อาแปะไม่ต้องการหวังรวย หวังเพียงช่วยให้ลูกได้มีกินมีใช้ ได้เรียนหนังสือจนจบ ด้วยราคาที่น่าคบ และรสชาติน้ำขิงเผ็ดร้อนที่พร้อมท้ารบกับลูกค้าจึงทำให้เป็นขวัญใจของคนแถวนั้นไปไม่ใช่น้อย แล้วรสชาติที่ว่ามันเป็นอย่างไร อยากรู้แล้วก็ไปชมกัน!
เริ่มด้วยพระเอกของงานเลยแล้วกัน “เต้าฮวยน้ำขิง” (20 บาท) รสชาติสมศักดิ์ศรีดีกรีคำว่าขิงจริง ๆ เผ็ดร้อน ตั้งแต่คำแรกยันคำสุดท้าย แต่เป็นความเผ็ดร้อนที่กินได้อย่างสบาย เพราะมีเนื้อเต้าฮวยแสนนุ่ม ละมุน อย่างกับวุ้นเลยล่ะ และชามนี้ยังมีทีเด็ดอย่างปาท่องโก๋ทอดกรอบ โรยมาเต็มชามให้ได้กินกันแบบเพลิน ๆ อีกด้วย
เมื่อมีพระเอก จะขาดนางเอกไปได้อย่างไร กับ “บัวลอยไส้งาดำ” (35 บาท) เสิร์ฟมาเต็มชามพร้อมน้ำขิงของดีของเดิม เพิ่มเติมคือหอมงา! อยากจะอุทานว่าคุณพระ มันจะหอมไปไหน งาหอม ๆ น้ำขิงร้อน ๆ เข้ากันสุด ๆ! และอีกหนึ่งทีเด็ดที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้จริง ๆ “เฉาก๊วย” (20 บาท) ที่นี่ไม่ธรรมดา เพราะมากับออปชั่นให้เลือกถึงสองทาง! ไม่ว่าจะราดน้ำเชื่อมใบเตยที่หอมล้ำ หรือโรยน้ำตาลทรายแดงสุดคลาสสิก ก็เด็ดเหลือเกิน เหมาะจะปิดจ๊อบมื้อของหวานในร้าน “เต้าฮวยยาสูบ” แห่งนี้ซะจริง ๆ
ตลอดการสนทนาระหว่างเราและอาแปะในวันนี้ เรารู้สึกเหมือนมีมนตร์อะไรบางอย่างที่คอยสะกดเราไว้ให้อยู่ ณ ที่ตรงนั้น มีความสุขอย่างแปลกประหลาด ราวกับว่าเราอยู่ในห้วงเวลา ที่เราได้อยู่กับเรา ละทิ้งความคิด ปล่อยวางความกังวล และจดจ่ออยู่กับความสุขตรงหน้า การพูดคุย พร้อมขนมชามเล็ก ๆ จากอาแปะ ที่ได้มอบความสุขแสนยิ่งใหญ่ให้กับเรา บอกตรง ๆ ว่าลืมวันนั้นไม่ลงเลยแหละ ไว้มีโอกาส เราคงต้องแวะไปพูดคุยและให้ “เต้าฮวย” “บัวลอย” และ “เฉาก๊วย” ของอาแปะเยียวยาใจอีกเป็นแน่
การเดินทาง
จาก MRT สถานีศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สามารถเดินออกกำลังกาย ฟิตร่างกายขยายปอด แล้วไปกอดขนมเด็ด ๆ จากร้าน “เต้าฮวยยาสูบ” กันได้เลย แต่อย่าลืมนะ จองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 ชั่วโมง! ไปล่ะ ขอให้โชคดี
ติดตามบทความที่น่าสนใจได้ที่