เพิ่งจะประกาศกันไปสด ๆ ร้อน ๆ สำหรับนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทยที่รอข้อสรุปมานานกว่า 3 เดือน และผู้ที่ได้มาสวมมงเพื่อพาประเทศไทยเดินหน้าไปต่อก็คือ นาย เศรษฐา ทวีสิน จากพรรคเพื่อไทย นั่นเอง ซึ่งหนึ่งในประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงทั้งในโลกโซเชียลจนติดเทรนด์และมี Hashtag อย่าง #เงินดิจิตอล ก็คือ “นโยบาย เงินดิจิตอล 10000 บาท” นั่นเอง ไหน ๆ เราก็เป็นประชาชนที่เตรียมรับเงินก้อนนี้กันมาแล้ว เรามาเช็กให้ชัวร์กันก่อนดีกว่า ที่มามันเป็นอย่างไร ใครได้สิทธิ์บ้าง แล้วจะได้มาอย่างไร?
นโยบายเงินดิจิตอล 10000 บาท มันคืออะไร?
ถ้าใครเคยใช้ เป๋าตังค์ รับเงินมาใช้จ่ายช่วงยุคโควิดมาก่อนก็น่าจะพอคุ้นเคยว่า จริง ๆ แล้วมันก็คือนโยบายการแจกเงินเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้ออกมาใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการหมุนเวียนของเงินมากขึ้น ซึ่งคอนเซ็ปต์นี้ถูกนำเสนอในฐานะ นโยบายเงินดิจิตอล 10000 บาท ของทางพรรคเพื่อไทย จากปากของ ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการ พรรคเพื่อไทย ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีประจำปี 2566 นั่นเอง โดยมีการคาดการณ์กันว่า จะต้องใช้งบประมาณถึง 560,000 ล้านบาท ซึ่งมีการชี้แจงในเอกสารที่ทางพรรคเพื่อไทยระบุเอาไว้อย่างละเอียดว่า งบประมาณที่จะใช้เพื่อนโยบายนี้ จะมาจากรายได้ประจำปี 2567 ของรัฐ ภาษี งบประมาณและงบประมาณด้านสวัสดิการที่ซ้ำซ้อน รวมทั้ง 4 ส่วนก็จะกลายมาเป็นนโยบายที่คาดว่าจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้อีกมาก
แล้วนโยบายเงินดิจิตอล 10000 บาท ใครถึงจะมีสิทธิ์ได้รับ?
เรื่องของเงื่อนไขการรับเงิน เอาจริง ๆ ก็ไม่ได้ซับซ้อนซ่อนเงื่อนอะไรมาก เพียงคุณเป็นผู้มีสัญชาติไทยอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์เป็นต้นไป ก็ถือเป็นผู้มีสิทธิ์รับเงินดิจิตอล 10000 บาทดังกล่าวแล้ว แต่เงื่อนไขในการใช้เงินดังกล่าวคือ สามารถใช้จ่ายในร้านค้าต่าง ๆ ภายในรัศมี 4 กิโลเมตรจากทะเบียนบ้านเท่านั้น อย่างไรก็ตามมีดอกจันเล็ก ๆ ว่า อาจมีการปรับเปลี่ยนตามสภาพภูมิประเทศ อย่างถ้าบ้านของคุณอยู่ห่างไกลจากร้านค้ามาก ๆ ก็อาจจะมีการปรับเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งร้านค้าได้ นอกจากนี้ ผู้ที่ได้รับสวัสดิการอื่น ๆ ก่อนแล้ว อย่าง เบี้ยคนชรา หรือผู้พิการ ก็ยังคงได้รับสิทธิ์นี้อย่างครบถ้วนอยู่เช่นกัน
มือถือไม่มีจะทำอย่างไรดีนะ?
มือถือไม่มีไม่ใช่ปัญหาเลย มีกระแสข่าวบอกว่าจะต้องโหลดแอปฯ เพื่อลงทะเบียน แต่จริง ๆ แล้วใช้เพียงเลขบัตรประชาชน ก็สามารถจับจ่ายใช้สอยด้วยเงินดิจิตอล 10000 บาทดังกล่าวได้แล้ว แต่ข้อควรระวังตอนนี้ก็คือ นโยบายเงินดิจิตอล 10000 บาทนี้ ยังไม่มีการประกาศใช้อย่างเป็นทางการ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นลิงก์ลงทะเบียน แอปพริเคชัน SMS หรือช่องทางใด ๆ ที่เพื่อน ๆ อาจเคยเห็นหรือเคยได้รับ ถือเป็นกลลวงของมิจฉาชีพทั้งสิ้น อยากให้เพื่อน ๆ ระวังกันด้วยน้า
ข้อห้ามการใช้เงินดิจิตอล 10000 บาท มีอะไรบ้างนะ?
สำหรับนโยบายเงินดิจิตอล 10000 บาทนี้ จริง ๆ ก็ใช้จ่ายได้คล้าย ๆ กับนโยบายช่วงโควิดเลย แต่ทางพรรคระบุว่ามีการใช้ Blockchain เข้ามาช่วยด้วย นั่นหมายความว่า เงินในส่วนนี้เป็นดิจิตอล ไม่สามารถแลกออกมาเป็นเงินสดได้ และสามารถใช้จ่ายสิ่งต่าง ๆ ได้แทบจะทั้งหมด ยกเว้น ยาเสพติดและแอลกอฮอล์ โดยเงินดิจิตอล 10000 บาทดังกล่าว สามารถใช้จ่ายได้ภายใน 6 เดือน หลังจากมีการประกาศเปิดใช้งาน
แล้วเมื่อไหร่เราจะได้ใช้ เงินดิจิตอล 10000 บาทกันล่ะ?
จริง ๆ แล้วไม่มีใครรู้ แต่มีการคาดการณ์กันว่า จะเริ่มเปิดให้ใช้จ่ายกันในช่วงเดือน มกราคม 2567 เพื่อให้ช่วงครึ่งปีแรกมีการหมุนเงินในระบบดิจิตอล กระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวม และทำให้ประชาชนเปลี่ยนวิธีใช้จ่ายในครึ่งปีหลังจนเกิดเป็นสังคมเงินดิจิตอลขึ้นในที่สุด
เงินตั้ง 10000 บาท สร้างความเป็นไปได้ในชีวิตได้อีกเยอะมาก ไม่ว่าจะเอาไว้ประทังชีวิต สร้างงานสร้างอาชีพ หรือเพียงแค่การหาความสุขในยุคที่เต็มไปด้วยความเครียดสะสม จึงไม่แปลกที่ประชาชนจะคาดหวังว่าจะได้รับสิ่งนี้จริง ๆ ก็ต้องมาดูกันว่านโยบายเงินดิจิตอล 10000 บาทนี้ จะถูกนำมาใช้จริงหรือไม่ หรือจะกลายเป็นเรื่องชวนช็อกอีกหนึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นในยุคที่อะไร ๆ ในประเทศไทยดูจะไม่เหมือนเดิมนี้