- หน้าแรก
/
- รูป Triple 888
บรรยากาศภายในร้านอีกมุม
อาหาร Fusion แปลกใหม่ คู่กับบรรยากาศสบายๆ หลีกหนีความวุ่นวายจากบนถนนและในเมืองได้อย่างดี!!อ่าาาา ในทุกวันนี้ที่ไม่ว่าจะไปไหน ก็จะมีแต่ความวุ่นวาย การแข่งขันและรถติดบนท้องถนนทุกเส้นทุกสาย
เนื่องในวันครบรอบ 6 เดือนของกระผมและแฟน เลยอยากจะพาแฟนไปทานอาหารร้านที่บรรยากาศดีๆ อาหารอร่อยๆ
จำได้ว่าร้าน Ko-I ร้านอาหารญี่ปุ่นสุดประหยัด แถมรสชาติก็อร่อย ได้ปิดตัวลง แต่ไปเปิดร้านใหม่ที่ชื่อ 888 (Triple Ate หรือ Ate Ate Ate)ในสไตล์ใหม่และบรรยากาศก็ดีด้วย (ดูรูปจาก Fanpage ของร้าน) เลยคิดว่า เอาละร้านนี้ละ ที่เราจะไปฉลองความสวีทหวานของเราทั้ง 2 ที่ร้านนี้ ฮ่าๆๆ
การเดินทางสำหรับคนที่มีรถเป็นของตัวเองนะครับ เดินทางง่ายๆครับ ใครที่รู้จัก วัดเสมียน หรือ ตลาดบองมาเช่ ก็ให้ขับไปแถวนั้นเลยครับ หรือถ้าใครไม่รู้จัก ก็ขับตามถนนวิภาวดี-รังสิต มุ่งหน้าไปทางหลักสี่ พยายามอยู่ทางคู่ขนานไว้ แล้วจะมีป้ายบอกเลี้ยวซ้ายไปวัดเสมียน ก็ตามไปเลย เมื่อเลี้ยวมาแล้ว ขับตรงมาเรื่อยๆ จะสังเกตุเห็นตลาดบองมาเช่อยู่ทางด้านซ้าย เลยตลาดบองมาเช่จะเจอ 4 แยกไฟแดง ให้ตรงไปก่อน ช่วงผ่านแยกจะเป็นถนน 3 เส้น ให้เข้าช่องทางซ้ายไว้ เพราะหลังจากผ่านแยกไปแล้ว ให้สังเกตุซอยที่มี 7-11 อยู่หน้าปากซอย ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไป ตรงเข้าไปอีกนิดนึง จะมีป้ายร้าน 888 บอกให้เลี้ยวขวา ขับไปอีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว หาไม่ยากเลย :)
ความรู้สึกแรกที่มาถึงร้านคือ เงียบสงบมาก เพราะด้วยความที่ร้านอยู่ในระแวกบ้านที่อยู่อาศัย จึงเงียบสงบไปด้วย บวกด้วยบรรยากาศในร้านที่จัดพื้นที่แบบสบายๆ แสงไฟสลัวๆ ช่างโรแมนติคเสียนี่กะไร
ในตัวร้านมีทั้งแบบ Indoor และ Outdoor ใครที่อยากจะรับลมหรือสูบบุหรี่ ก็นั่งด้านนอกได้ บรรยากาศดีไม่แพ้ด้านในเลย
ช่วงนี้มีฟุตบอลยูโร ทางร้านก็มีการถ่ายทอดด้วย ด้านนอกร้านเป็นจอ Projector ส่วนด้านในเป็นจอทีวี
ก่อนจะไปถึงเรื่องอาหาร สิ่งนึงที่ทั้งผมและแฟนประทับใจก็คือ พนักงานเสิร์ฟแสนน่ารักอารมณ์ดีที่ให้บริการอยู่ในร้าน ทั้งอารมณ์ดี อัธยาสัยดี แถมบริการก็ดี ถามรายละเอียดอะไรก็บอกได้หมดเลย กด Like ให้เลย :D
หลังจากได้รับเมนูอาหารมา ก็เกินความงงงวยและมึนงง เนื่องจากเป็นอาหาร Fusion ที่แปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร จึงทำให้มีเมนูต่างๆมากมาย ที่ไม่คุ้นหูคุ้นตา แต่ไม่ต้องกลัวครับ เพียงแค่หันไปถามน้อง น้องเค้าบอกได้หมดทุกอย่างว่าอะไรเป็นอะไรครับ
เริ่มต้นที่เมนูแรกกับ ไก่ทอด 888 (ทริปเปิ้ลเอท) เนื้อไก่ก้อนโต ที่เกาะอยู่บนกระดูกไก่ที่ทำออกมาให้เป็นด้ามจับได้อย่างบอกดี ไม่มันไม่เลอะมือเกินไป มาพร้อมคู่กับครีมซอสรสเปรี้ยวนิดๆกำลังดี เมื่อทานคู่กันแล้วให้รสชาติที่แปลกใหม่ เพราะปกติเราก็จะทานไก่ทอดเปล่าๆ หรือไม่ก็จิ้มกับน้ำจิ้มไก่ เนื้อไก่นั้นเมื่อกัดแล้วก็หลุดออกมาทั้งชิ้น แถบจะไม่เหลือติดกระดูกเลย เนื้อก็หนุ่ม ทานก็ง่าย อร่อยอีกต่างหาก :)
จานที่ 2 คือ ยำปลาดิบรวม!! ฟังครั้งแรงยังงงๆอยู่เลยว่า หน้าตาจะเป็นยังไง จากที่จินตนาการไว้คือ เอาปลาดิบรวมๆกันหลายชนิดแล้วมายำรวมกัน แต่ไม่ใช่ครับ!! เมื่อจานนี้มาเสิร์ฟก็ถึงกับร้อง อืมมมม เป็นอย่างนี้นี่เอง จานก็เก๋เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวๆ มีแยกปลาเป็นชนิดๆไป โดยมีปลาทูน่าดิบ ปลาแซลม่อนดิบ ปลาหมึก และ กุ้ง อยู่ 4 กอง ราดด้วยน้ำยำสไตล์แบบไทยๆ พร้อมกับน้ำยำอีก 1 ถ้วยน้ำจิ้ม เอาไว้สำหรับใครที่ต้องการความจัดจ้านเพิ่มขึ้นไปอีก
ถือว่าเป็นการ Fusion ของ 2 อย่างที่คนไทยชอบทานเข้าได้อย่างลงตัวจริงๆ เพราะแฟนผมที่ชอบทั้งแซลม่อน และ อาหารประเภทยำ ก็จัดแซลม่อนหมดก่อนสิ่งอื่นใดเลย :P
จานที่ 3 Caesar Salad จานนี้ อาจจะไม่มีอะไรที่มา Fusion เข้าด้วยกัน แต่รสชาติก็ไม่แพ้กับที่อื่นๆเลย และเป็นที่ชอบของผมมากด้วย เพราะปกติ Caesar Salad ส่วนใหญ่จะรสค่อนข้างเปรี้ยวถึงเปรี้ยวมาก แต่ที่นี้ ไม่เปรี้ยวเกินไป รสชาติก็กลมกล่อมมาก
จานที่ 4 คนไทยขาดไม่ได้ ก็คือต้องมีข้าวในมื้ออาหารนั้นเอง ข้าวผัดแฮมกับไส้กรอก!! จานนี้อาจจะดูไม่หวือหวามากนัก เพราะร้านอาหารตามสั่งบางร้าน ก็มีให้สั่งทานกัน แต่ร้านนี้ก็ Fusion ออกมาได้อย่างลงตัว ด้วยการผัดข้าวที่ไม่ได้ออกมาไทยจ๋ามาก มีกลิ่นของแฮมและไส้กรอกเจ้ามาแทรก ทำให้ได้กลิ่นและรสชาติที่ไม่เหมือนใคร :)
จานที่ 5 Linguine Spicy Prawn Pink Vodka!! งง? อะไรหว่า มันคือพาสต้าเส้นลิงกวินี่ผัดกุ้งซอสเผ็ดพิงค์วอดก้า.... XD ยิ่งฟังก็ยิ่งงง เอามาทานเลยละกัน จานนี้เป็นที่ติดใจผมมาก ถึงแม้ใกล้อิ่มแล้วก็ตาม เพราะเป็นการ Fusion ที่รู้สึกว่าแก้กันได้อย่างนี้ เพราะพาสต้า ก็อย่างที่รู้กันว่า จะมันๆในซอสของพาสต้าทำให้คนที่เกิดอาการเลี่ยนหลังจากทานอาหารนั้นไม่ค่อยชอบนัก แต่จานนี้ได้ใส่ความเผ็ดร้อนลงไปด้วย ทำให้เข้ากัน และลงตัวได้อย่างดีเลย บวกกับกุ้งที่สดเด้ง เคี้ยวแล้วกรุบกรับ อร่อยมว๊ากกกกเลยทีเดียว XD
เมื่ออิ่มท้องแล้ว ก็ต้องมาเติมแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกายซะหน่อย ที่นี้ก็มีบริการทั้ง เหล้า เบียร์ ไวน์ และ ค็อกเทล
ด้วยความที่ว่า มากันแค่ 2 คน เหล้ากับไวน์ก็เยอะเกินไป เบียร์ก็ไม่ดื่มทั้งคู่ เลยไปจบลงที่ค็อกเทล
แฟนผมนำหน้าไปก่อนที่ Blue Margarita แก้วนี้ผมไม่ได้เข้าไปแจมด้วย เพราะกำลังเอร็ดอร่อยกับลิงกวินี่อยู่
แก้วที่ 2 และ 3 ก็ตามมาด้วย Mai Tai และ Blue Kamikaze
ใครที่ชอบ Mai Tai ขอบอกว่า "แซ่บ" (แฟนผมบอกมา 555) ก็เลยต้องขอชิมซักหน่อย...อร่อยจริงแหะ รสชาติหวานๆ ที่กลบรสของเหล้าได้อย่างดี นี่ถ้าหลายๆแก้ว อาจจะไปโดยไม่รู้ตัว
Blue Kamikaze ก็แรงได้ใจ ดื่มคู่กับ เกลือที่อยู่กับของแก้ว ก็ลงตัวพอดี
สรุปโดยรวม
อาหารมีความหลากหลายและแปลกใหม่ ทำให้เหมือนได้ลองทานอาหารใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา รวมไปถึงรสชาติที่อร่อยด้วย
ค็อกเทลที่เจ้าของร้านเป็นผู้ผสมด้วยตัวเองทุกแก้วก็ลงตัวกับบรรยากาศร้านที่สบายๆหลีกหนีจากความวุ่นวายในที่ต่างๆ มานั่งพักหลบมุมกับเพื่อนฝูง ครอบครัว หรือ คู่รัก พร้อมด้วยราคาที่ไม่แพงจนเกินไป เรียกได้ว่าคุ้มค่ากับที่เสียไปเลย
0 Like0 Comment
