ห้องอาหาร Grotto Restaurant Champagne and Wine Bar The Grand Fourwings
บรรยากาศดี อาหารอร่อยแซ่บมากสำหรับวันนี้จะพาไปกิน ณ ห้องอาหารเปิดใหม่แถวศรีนครินทร์นะคะ (เปิด 1 มิ.ย. เราไปกิน 4 มิ.ย.น่ะ สามวันหลังเปิด) นั่นก็คือห้องอาหาร Grotto Champagne and Wine Bar ซึ่งอยู่ที่ชั้นใต้ดินของโรงแรม Grand Four Wings ศรีนครินทร์นั่นเองค่ะ เอารูปชื่อห้องอาหารมาแปะก่อน เพื่อเป็นการเปิดตัว อิอิ สำหรับพิกัดของรร.แกรนด์โฟร์วิงส์ ก็ตามนี้เลยนะคะ อยู่ถนนศรีนครินทร์ค่ะ สำหรับห้องอาหาร Grotto Champagne and Wine Bar จะอยู่ที่ชั้นใต้ดินของโรงแรมนะคะ ถ้าขับรถมา จอดที่อาคารจอดรถชั้น 4 เรียบร้อยแล้วก็กดลิฟท์มาที่ชั้น L เดินผ่านบริเวณล็อบบี้แล้วจะเจอทางลงห้องอาหารเป็นบันไดอยู่ทางซ้ายมือค่ะ แต่ถ้ามารถแท็กซี่ ก็จะเจอล็อบบี้ตามภาพก่อน จากนั้นก็เลี้ยวขวา (หันหน้าเข้าล็อบบี้นะฮับ) ก็จะเจอบันไดลงไปที่ห้องอาหารนี้เช่นกันค่ะ เราช้อบชอบแชนเดอเลียร์ของที่นี่หละ ตอนกลางคืนนี่สวยมากเลยค่ะ ตรงก่อนบันไดทางลงห้องอาหารกร็อตโต้ ก็จะมีจอบอกโปรฯ ช่วงนั้นนะคะ ไม่ว่าจะเป็นแขกอินเฮ้าส์ ได้ส่วนลด 20% และเลดี้ไนท์สำหรับทุกวันพฤหัส สุภาพสตรีรับเครื่องดื่มฟรี 1 แก้วค่ะ ห้องอาหารแห่งนี้เปิดตั้งแต่ 16.00-01.00 น.เลยนะคะ ลงไปปุ๊บก็มีมุมให้ถ่ายรูปสวยๆ เชียวค่ะ สวยอ้ะ ชอบจัง (ในร้านก็ตกแต่งสวยมากนะคะ ออกแนวขรึม คลาสสิคดีค่ะ) เข้าไปในห้องอาหารกันค่า สำหรับที่นี่จะมีที่นั่งทั้งหมด 80 ที่นั่งนะคะ สำหรับอาหารที่นี่จะเป็นสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน-เอเชี่ยนค่ะ โดยเป็นที่นั่งหน้าบาร์และเลาจน์ 22 ที่นั่ง ที่นั่งหลัก 36 ที่นั่ง โซนด้านนอก 12 ที่นั่ง (เฉพาะโซนด้านนอกค่ะที่สูบบุหรี่ได้) และห้องส่วนตัว 1 ห้อง มี 10 ที่นั่ง (ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มนะคะ) วันนั้นกลุ่มของเราไปกันสิบคนค่ะ ก็นั่งตรงที่นั่งหลักด้านหน้าวงดนตรีเลยนะคะ จะเห็นว่าด้านหน้าระหว่างวงกับโต๊ะเราจะมีพื้นที่ไว้ให้แดนซ์กันด้วยค่ะ เพราะวงดนตรีที่เล่น พอช่วง 22.00 น.เป็นต้นไปจะเป็นช่วงของเพลงจังหวะเร็วๆ ให้ลูกค้าได้ลุกขึ้นเต้นนะฮับ เซ็ตอัพของทีนี่ค่ะ เซ็ตผ้าให้ห้อยลงมาหละ เราว่าเก๋ดี แฮ่... สำหรับเมนูที่นี่จะแบ่งออกเป็นไวน์ลิสต์ (และเครื่องดื่ม) กับเมนูอาหารนะคะ จะเห็นว่าราคาอาหารไม่แพงเลย ถูกกว่าหลายๆ ร้านในสไตล์เดียวกันด้วยนะคะ ซึ่งน่าจะเป็นเพราะทำเลด้วยหละค่ะ เราว่าราคาโอเคเลยอ้ะ โปรโมชั่นพิเศษในช่วงนี้ค่ะ ไม่ว่าจะเช็คอินรับเครื่องดื่มฟรี หรือลุ้นห้องพักที่รร.นี้นะคะ เราเริ่มต้นกันด้วยเครื่องดื่มสีสันสดใส 5 แก้วนี้กันค่ะ แฮ่... สีสวยมากเลยเนาะ ที่จริงเครื่องดื่มห้าสีนี้จะเป็นเพียงสองเมนูค่ะ แต่ผสมรสที่แตกต่างกันไปนะคะ สองเมนูที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่คือ The Grotto กับ Belini ค่ะ ราคา 210++ บาททั้งคู่ โดยสามารถเลือกได้ว่าจะเอารสอะไรนะคะ ไม่ว่าจะเป็นพีช กีวี่ สตรอเบอรี่ หรือมะม่วงค่ะ ส่วนอะไรจะเป็นอะไรนั้น เดี๋ยวให้บาร์เทนเดอร์ท่านนี้เล่าให้ฟังกันค่าา วันนั้นเราดื่มเป็นกีวี่นะคะ โดยบอกบาร์เทนเดอร์ไปว่า เราชอบเปรี้ยวหน่อย ซึ่งพี่เค้าเลยเพิ่มน้ำมะนาวให้ค่ะ คุณคะ...มันอร่อยนัวมาก เราชอบค่ะ รสชาติดี อร่อยเลยแหละ เริ่มกันด้วยขนมปังและดิปปิ้งสามชนิดค่ะ เรากินขนมปังตัวนุ่มไปนะคะ โอเคค่ะ อร่อยตามมาตรฐาน ดิปปิ้งจะมีบัลซามิกน้ำมันมะกอก ซัลซ่ามะเขือเทศ และซอสครีมมิ้นท์นะคะ ไม่ได้ชอบตัวไหนเป็นพิเศษค่ะ ขนมปังเปล่าๆ ก็ดีงามอยู่ค่ะ แฮ่... ตัวนี้เป็นคอมพลิเมนทารี่ต่างหากจากเชฟค่ะ เป็น Welcome Dish นะคะ ซึ่งแต่ละวันเมนูจะไม่เหมือนกันค่ะ (อารมณ์อมูสบุชเวลาเราไปกินอาหารฝรั่งเศสหละนะคะ) วันนั้นที่เราได้เป็นปลาค่ะ พื้นรองด้วยบัตเตอร์ซอสกับซอสมิ้นท์ค่ะ จานนี้มาแบบเย็นนะคะ เนื้อปลาโอเคค่ะ เราชอบตัวซอสบัตเตอร์มากกว่าซอสอีกตัว เราว่าตัวบัตเตอร์ซอสช่วยส่งรสให้ปลาได้ดีกว่าค่ะ ออกหวานอ่อนๆ และหอมเนยนะคะ ต่อไปเป็น American Dive Scallop Compaccio ค่ะ เมนูนี้ราคา 400++ บาทนะคะ (ที่นี่ทุกเมนูไม่ใส่ผงชูรสนะคะ) เมนูนี้เป็นหอยพัด (หรือหอยเชลล์) สไลด์บางๆ และราดด้วยน้ำจิ้มรสจัดค่ะ ขอบอกว่าเป็นจานเปิดตัวที่สร้างเซอร์ไพรซ์มาก (คือ ตอนแรกบอกว่าเมดิเตอร์เรเนียน-เอเชี่ยนนี่ ก็ไม่ได้คาดว่าจะได้รสจัดขนาดนี้นะคะ) รสชาติดีเลยค่ะ น้ำราดรสชาติจัดจ้านมากๆ แล้วการที่สไลด์หอยมาบางๆ ยิ่งทำให้น้ำจิ้มมันคละเคล้าทั่ว จนเวลากินตัวเนื้อหอยมันจะนิ่มแล้วก็ละลายในปาก พร้อมกับทิ้งรสชาติเผ็ดร้อนให้ค้างคาในปากค่ะ ต่อไปเป็นอีกหนึ่งเมนูสำหรับแอพพิไทเซอร์ที่สร้างเซอร์ไพรซ์ค่ะ กับ Grilled Marinated Lamb Steak 350++ บาทค่ะ ตัวนี้มีรสของน้ำยำรสจัดมาคลุกเคล้ากับแกะค่ะ ซึ่งแกะเองก็กลิ่นไม่แรงมาก (หลายคนที่ร่วมโต๊ะที่ปกติไม่ได้ชอบแกะยังโอเคเลยค่ะ) แต่ยังมีกลิ่นให้ไม่เสียความเป็นแกะค่ะ รวมทั้งเซลารี่ที่ใส่มาก็สดกรอบ ช่วยชูรสได้ดีมาก เป็นอีกเมนูที่อร่อยนะคะ คือต้องบอกก่อนว่า เราว่าอาหารที่นี่ปรับรสให้ถูกปากคนไทยน่ะค่ะ ใครที่ชอบกินอาหารที่มีความผสมผสานระหว่างตะวันตกกับตะวันออก แต่อยากได้รสชาติเข้มข้นของไทยๆ น่าจะประทับใจกับหลายเมนูของที่นี่นะคะ ต่อไปเป็นสลัดปูนิ่มหรือ Soft Shell Crab Salad 280++ บาทค่ะ ตัวนี้ด้วยความที่น้ำสลัดมันมากองอยู่ตรงด้านบน แล้วเราดั๊น...ไม่ได้คลุกเคล้าก่อนกินน่ะค่ะ ก็เลยทำให้ที่ตักมาตัวน้ำสลัดมันกลบรสอื่นหมด ตัวปูใหญ่ดีค่ะ เนื้อเยอะด้วย แต่โดยรวมรสน้ำสลัดแบบนี้ยังไม่ว้าวสำหรับเรานะคะ แฮ่... Caesar Salad with Smoked Salmon 300++ บาทค่ะ ตัวนี้อร่อยยยยยยยย น้ำสลัดก็เป็นรสชาติแบบที่เราชอบเลยค่ะ ซึ่งแค่กินผัก งา น้ำสลัด โดยไม่ต้องอาศัยแซลมอน ก็ยังอร่อยเลยค่ะ ถ้าเทียบสลัดสองอัน เราก็ชอบเมนูนี้มากกว่านะคะ ต่อไปเป็นซุปค่ะ Lobster Bisque and Cognac 320++ บาทค่ะ ตัวนี้จะมาแบบตัวน้ำซุปอยู่ในกาตามภาพเลยนะคะ จากนั้นทางพนักงานก็จะรินน้ำซุปให้ค่ะ สำหรับรสชาตินะคะ ตัวซุปเข้มข้นมากค่ะ ทั้งรสชาติและกลิ่นเลย จัดเต็มสุดๆ แล้วก็ตัวเนื้อล็อบสเตอร์ในซุปก็แน่นเด้งมากค่ะ ต่อไปเริ่มเป็นเมนคอร์สแล้วนะคะ จานแรกเลยค่ะกับ Pan Seared Scottish Salmon with Native Clams and Chorizo Sausage, Beurre Blanc Sauce 550++ บาทค่ะ ตัวปลาแซลมอนทำมาสุกนะคะ แต่ไม่แห้งและไม่กระด้างค่ะ รสจะออกแนวอาหารยุโรปจ๋าๆ หน่อยนะคะ รสออกกลางๆ เบาๆ ค่ะ แต่แซลมอนดีงามค่ะ Pan Roasted Duck Breast with Five Spice, Honey and Vegetable from Royal Project 450++ บาท เมนูนี้เสิร์ฟมาพร้อมสลัดนะคะ เนื้อเป็ดแน่นแต่ไม่เหนียวค่ะ และไม่มีกลิ่นแบบที่คนไม่ชอบเป็ดชอบบ่นกันด้วย (ฮา) แต่ที่เด่นสุดของจานนี้คือ ตัวกลิ่นค่ะ กลิ่นที่รม+อบนี่หอมมาก กลิ่นพุ่งสุดๆ รองพื้นด้วยมันบดที่เป็นแบบเนื้อเนียนนะคะ และซอสรองซึ่งน่าจะเป็นซอสส้มหละค่ะ จะอมเปรี้ยวนิดๆ และหอมอ่อนๆ ค่ะ ถ้าใครชอบเป็ดน่าจะไม่ผิดหวังกับเมนูนี้นะคะ ต่อไปค่ะกับอีกหนึ่งเมนูที่หลายคนวันนั้นชอบกันนะคะ Foie Gras and Truffle Risotto 395++ บาทค่ะ เป็นเมนูที่ไม่ได้ถ่ายด้วยไฟขาว แต่ถ่ายมาโดยอาศัยไฟของห้องอาหาร (ที่ออกโทนเหลือง) นะคะ ตัวนี้ฟัวร์กราส์ทำมาได้ดีค่ะ นิ่ม ไม่สุกเกินไป หอม และเนื้อสัมผัสกำลังดีเลย ขนาดเรากินตอนเย็นแล้ว ฟัวร์กราส์ก็ยังไม่แข็งเลยนะคะ (คือ...ไปงานอย่างนี้ โอกาสได้กินอะไรร้อนๆ นี่ยากค่ะ กว่าแต่ละคนจะถ่ายรูปกันเสร็จ แหะๆ) รีซอตโต้ก็กำลังดีมาก อร่อยค่ะ ต่อด้วย Canadian Lobster Spaghetti with Chilli Garlic, Tomato Concasse and White Wine 1200++ บาทค่ะ ล็อบสเตอร์ของเมนูนี้ยังคงดีงามเช่นเดียวกันค่ะ เนื้อแน่นมากๆ ตัวเส้นไม่ได้มาแบบอัลดันเต้นะคะ แต่เราว่าก็โอนะคะ แล้วก็ตัวเส้นจะมีรสชาติเผ็ดๆ คลุกเคล้าอยู่ทั่วเลยค่ะ เป็นอีกเมนูที่อร่อยนะคะ หมดคาวแล้วค่ะ ต่อไปเป็นของหวานกันบ้างนะคะ มีด้วยกัน 2 เมนูค่ะ Cream Brulee, Vanila with Assorted Fresh Berry 200++บาท ตัวนี้ถ้ากินครีมบูเล่เปล่าๆ จะหวานไปหน่อยนะคะ แต่ถ้ากินพร้อมเบอร์รี่ที่ประดับหน้ามาด้วยจะพอดีค่ะ แต่เราไม่ชอบเจ้าแผ่นแอลมอนด์ของที่นี่แฮะ มันมีกลิ่นบางอย่างที่ไม่เหมือนที่เคยกินน่ะค่ะ แหะๆ ปิดท้ายมื้อนี้กันด้วย Homemade Mango Pudding, White Chocolate, Caramelize Nut and Coconut Ice Cream 200++ บาท ตัวนี้ พุดดิ้งเนื้อแน่นไปนิดค่ะ ทำให้เทกซเจอร์มันขาดความนุ่มนวลเวลาเข้าปากน่ะ แล้วก็ตัวรสชาติ แม้พุดดิ้งจะเป็นมะม่วง ซึ่งน่าจะเข้ากับไอศกรีมมะพร้าว แต่เรากลับว่าไม่เข้ากันแฮะ รสชาติมันไม่บาลานซ์พอดีกันอะค่ะ แหะๆ และเชฟที่รังสรรค์ (เฉพาะของคาวนะคะ ของหวานมาจากอีกครัว) มื้อนี้ให้เราก็คือท่านนี้นี่เองค่ะ คุณนำชัย แก้วกัณหา Chef De Cuisine ของห้องอาหารแห่งนี้นะคะ พอสักราว 20.00 ก็เริ่มมีดนตรีมาเล่นแล้วค่ะ (จะมีเฉพาะวันพฤหัส ศุกร์ เสาร์ นะคะ) โดยช่วงนี้จะเล่นเพลงฟังสบายๆ ก่อนนะคะ พอหลังสี่ทุ่มถึงจะเริ่มเป็นจังหวะคึกคักนะฮับ เอาคลิปมาให้ฟังค่ะ แฮ่... ก่อนจะไปสรุปห้องอาหารแห่งนี้ก็ขอปิดท้ายกันด้วยป้ายห้องอาหารและโคมไฟสวยๆ อีกทีนะคะ อิอิ สำหรับโปรโมชั่นในช่วงนี้นะคะ แอดไลน์ของโรงแรม จะได้รับส่วนลด 20% ทั้งอาหารและเครื่องดื่มค่ะ (ที่นี่รับบัตรเครดิตแบบไม่มีขั้นต่ำนะคะ) สิ้นสุดโปรฯ สิ้นเดือนสิงหาคมนี้นะคะ สรุปสำหรับห้องอาหารแห่งนี้นะคะ โดยรวมเราค่อนข้างประทับใจอาหารหลายๆ จานมากๆ อย่างที่รีวิวไปนะคะ รสชาติเข้มข้น จัดจ้าน แบบที่จะถูกปากคนไทยแน่ๆ (แต่ต้องไม่คาดหวังว่าจะได้กินรสชาติยุโรปแท้ๆ นะคะ เพราะที่นี่จะไม่ใช่สไตล์นั้นค่ะ) ของคุณภาพดี การบริการดีค่ะ ราคาก็ไม่ได้แพงเลย ถ้าเทียบกับความเป็นห้องอาหารในโรงแรมน่ะนะคะ บรรยากาศก็อย่างที่เห็นค่ะ เราชอบแหละ สวยขรึม คลาสสิคดี (ถ่ายรูปมาซะหลายรูปน่ะ แฮ่...) โดยรวมประทับใจค่ะ แต่ของหวานยังไม่ค่อยโดนเท่าไหร่นะฮับ ซึ่งก็ได้แจ้งทางพีอาร์และเชฟไปแล้วค่ะ ถ้าใครกำลังหาร้านอาหารบรรยากาศดีๆ ให้ไปแฮงค์เอาท์กัน กินอาหารอร่อยๆ ย่านศรีนครินทร์ ก็ลองพิจารณาร้านนี้ดูนะคะ ป.ล. สำหรับท่านที่นำรถมา ทางห้องอาหารแสตมป์บัตรให้ได้ 3 ชั่วโมงนะคะ หากเกินจากนั้นจะเสียค่าบริการชั่วโมงละ 30 บาทค่ะ... อ่านต่อ
12 Likes0 Comment
photo