4.4
66 เรตติ้ง (43 รีวิว)
อาหารไทย฿฿฿฿฿
เปิดอยู่จนถึง 18:00
Wang Hinghoi
"SPIRIT OF FIRE" อยู่ใน Party ร้อนดังกับ FireeeeeLast but not least นะคะ สำหรับธีมไฟของร้านในคอนเซปต์วังหิ่งห้อย 4 ธาตุแห่งชีวิต แต่สำหรับโปรเจคต์ถัดไปนั้น ต้องติดตามให้ดี เพราะจะมีการรวบรวมทีเด็ดของเมนูจากร้านนี้ให้ทุกท่านได้ลิ้มลองอีกมากมาย สำหรับ Fire theme เซ็ทนี้ มีราคาเดียวคือ 2890 ++ THB / person และมีพิเศษ cocktail paring 2 แก้วในราคา 550 THB ค่ะ บรรยากาศและการตกแต่งร้านในครั้งนี้ สีสันจะร้อนแรงกว่าเดิมเล็กน้อย เน้นไปที่สีแดงเพลิงตั้งแต่ทางเข้า มีไฟประดับเพิ่มความร้อนแรงเลือดสูบฉีดพุ่งพล่านมากตั้งแต่ตอนเดินเข้าไปค่ะ welcome drink ของเราวันนี้เป็นน้ำผลไม้สีแดงเพลิง มีรสกลมกล่อมของกระเจี๊ยบและแอปเปิ้ล รสหวานเด่นอมเปรี้ยวตอนปลาย เพิ่มความสดชื่น ก่อนเริ่มของจริง #Amuse Bouche# อาหารเรียกน้ำย่อยแบบพอดีคำ มีสองเมนูคือ Ignite(ชนวน), Awake เมนูแรกเป็นแป้ง papadum พอดีคำ มีผลไม้อบแห้งรสชาติเผ็ดเบาๆรับประทานคู่กับซุปขิงมันหวานอุ่นๆ ตัวซุปคือทีเด็ด กลมกล่อมละมุนละมัยเป็นที่สุด สำหรับตัว Awake คือปลุกให้ตื่นสมดังชื่อ หอยนางรมตัวใหญ่รสหวานและสดมาก รสชาติไม่เพลนๆ มีความซับซ้อนอยู่ในคำ ซอส Hollandaise ด้านบนพิเศษมาก อยากให้มาลอง #Appetizer# Ashes (เถ้าถ่าน) แรงบันดาลใจมาจากยำปลาสลิด แต่ presentation หรูหราอย่าบอกใคร ด้านล่างนำ ตัวซอสไปทำในรูปแบบฟรีซ จนได้เป็นเนื้อวุ้นที่จับตัวเป็นก้อนและมีลักษณะคล้ายกองถ่านจริงๆ เพิ่มสีสันของไฟด้วยดอกไม้และทับทิมสีแดง ตัดกันคล้ายถ่านที่กำลังติดไฟ สำหรับรสชาตินั้นเหมือนน้ำยำที่นำมาทำเป็นวุ้นเสิร์ฟแบบเย็น ซึ่งแปลกใหม่ดีค่ะ แล้วก็เปรี้ยวสดชื่นดี จานนี้โดดเด่นด้านการนำเสนอมากกว่ารสชาตินะ SunBath (อาบแดด) เนื้อ A5 ที่หมักพิเศษ วางบนหินร้อนๆ ราดเหล้าหมาใจดำ local จากเชียงใหม่ (เหล้าจากดอกมะพร้าว) แค่การเสิร์ฟก็กินขาดมากๆค่ะ ให้ความรู้สึกเหมือนรับประทานเนื้อที่ที่ญี่ปุ่นเลย แต่ซอสที่ทาน เชฟได้แรงบันดาลใจจากสุกี้แบบลาว ซึ่งตัวซอสสุกี้รสอร่อยนะคะ กลิ่นเต้าหู้ยี้ชัดเจนมาก ถ้าคนชอบคือประทับใจเลย แต่ค่อนข้างจัดจ้านไปหน่อย แย่งซีนความหอมหวานของเนื้อ ซึ่งตัวเนื้อจริงๆแล้วดีงามมาก จานนี้รสจัดสมชื่อธีมค่ะ #SOUP# Aurora จานนี้โดนใจด้วยหลายๆประการทั้งปวง แรงบันดาลใจจากต้มจับฉ่ายหมูใส่เต้าหู้ค่ะ ฟังไม่ผิดหรอกค่ะ ทางเชฟเอามาทำเป็นซุปครีมจับฉ่ายแบบข้นๆ ยกระดับมาก เสิร์ฟมาสวยงาม ที่อร่อยเด็ดคือฟองเต้าหู้กรอบ ทอดมาได้กรอบบางมากๆ แนะนำทานแยกกัน อย่าจุ่มเต้าหู้ลงไปนะคะ รสชาติดีมากค่ะจานนี้ #Salad# Firework จานนี้พูดตรงๆว่านำเสนอได้น่ารักและรับประทานสนุกที่สุดตั้งแต่ทานมา เป็นจานที่มีลูกเล่นเหมือนทำให้เรากลับไปเป็นเด็กๆได้อีกครั้ง เหมือนรับประทานสลัดผลไม้ที่มีซอสรสชาติเหมือน Pina colada (มะพร้าวสับปะรด) โรยด้วยผงเป๊าะแป๊ะทีทานแล้วจะมีเสียงกรุบๆแตกเปรี๊ยะๆในปาก แถมไม่รบกวนรสชาติของสลัดนะคะ กลับชูรสให้โดดเด่นมากขึ้น ช่างคิดมากๆ จานนี้อยากกลับไปทานอีกรอบจริงๆ ซอสรอบๆที่เป็นรสผลไม้และใบเตยก็อร่อยค่ะ สีสันสวยงาม ถ่ายรูปขึ้นเหมือนพลุที่กำลังแตกเปรี้ยงปร้างบนท้องฟ้าจริงๆ #MAIN# ก่อนเข้า Main ล้างปากด้วยกรานิตี้พริกชี้ฟ้าเย็นๆ เผ็ดอมเปรี้ยว แต่ก็เย็นสดชื่น Inferno จานนี้เป็นเมนูปลาคังค่ะ เราชอบทานปลาคังมาก และจานนี้ก็นำปลาคังมาทำได้อย่างยอดเยี่ยม คงคอนเซปต์สีแดงเพลิงของโฟมซอสด้านล่าง ที่ได้คอนเซปต์มาจากผัดฉ่าปลาคัง เผ็ดร้อนถูกปากคนไทย ปลาคัง cook มาสุกพอดีมากค่ะ เนื้อหวาน หนังนุ่มหนึบ Burst เนื้อหมูส่วนท้องที่ได้แรงบันดาลใจจากแกงเทโพ นำมา reconstruct จนจำภาพเดิมแทบไม่ได้ รสชาติดีแต่ไม่โดดเด่นเท่าจานปลา Rage เมนูพิเศษ ต้อง add เพิ่ม 600 THB ค่ะ Beef tenderloin คัดพิเศษ ที่ได้แรงบันดาลใจจากก๋วยเตี๋ยวเนื้อ มันคือก๋วยเตี๋ยวเนื้อจริงๆ แต่เสิร์ฟในแบบ fine dining ใช้เส้นมันฝรั่งมาทอดให้ได้แบบเส้นกรอบ แทนเส้นก๋วยเตี๋ยว น้ำซุปแบบน้ำตกเนื้อแท้ๆ รับประทานกับเนื้อนุ่มๆ อร่อยมากค่ะ ยกระดับ street food ได้อย่างเก๋ไก๋ อีกเมนูเป็นกุ้งแม่น้ำ ไม่ได้ชิมค่ะ เท่านี้คืออิ่มมากมายแล้ว ใครกลัวว่าจะไม่อิ่ม คิดผิดคิดใหม่นะ #Dessert# Ice lava ไอศครีมข้าวหมากซอสลำไย รสชาติแบบไทยๆ แต่พิเศษ ข้าวมีความหอมแบบนัวๆ กลิ่นเหล้าอ่อนๆจากการหมัก ซอสลำไยคือหวานหอมดี รสสัมผัสแบบขนมไทยที่เคยทานที่ใดมาก่อน Rising sun จานนี้เน้นไปทางบิงซูสดชื่นๆ ตัวหลักคือเฉาก๊วยสูตรพิเศษ ที่นำมาทำเป็นรูปวงกลม ใส่กลิทเตอร์ลงไป น่ารักน่าชัง ในบิงซูนมมีเกล็ดน้ำแข็งกลิ่นกุหลาบ รสชาตินวลๆทานง่ายเหมาะกับสาวๆ ส่วนตัวชอบเมนูแรกมากกว่า ##Cocktails## โชคดีได้มีโอกาสชิมทั้งสี่ตัวเลยค่ะ มาเริ่มทีละตัว ขอบอกว่าธีมของคอกเทลนี้ เน้นออกไปทางไสยศาสตร์หน่อยๆ อารมณ์เผาพริกเผาเกลือ หรือทำคุณไสยกันก่อนดื่มไปเลยค่ะ คอนเซปต์ไฟสุมทรวงมากเฟร่อ มีหม้อดินเผา มีลายสักยันต์เสิร์ฟคู่แก้วมาด้วยอีก Ron Room ร้อนรุ่ม มีส่วนผสมของเตกิลา กระชายเหลือง กระเจี๊ยบ มะนาว เปรี้ยวอมหวานสดชื่น แต่แอลกอฮอล์แรงมากค่ะตัวนี้ ใครไม่ชอบเหล้าแรง ไม่แนะนำนะ คาดว่าผสมเลเบิ้ลสักตัวลงไปด้วย (บลูมั้งคะ) Sum fai สุมไฟ คล้าย pina colada มากๆค่ะ แต่เน้นใช้วัตถุดิบไทยๆ มะพร้าวเผาจากบ้านแพ้วผสมกับสับปะรดภูแล ตัวนี้ดื่มง่ายค่ะ แต่ยังไม่แปลกใหม่เท่าตัวอื่น Phaet Phao แผดเผา เน้นการเผาพริกเผาเกลือที่แท้ทรู มีใช้พริกหัวเรือผสมกับมะเขือเทศโครงการหลวง นี่มันก็คือ bloody marry ที่มีรสชาติเผ็ดร้อนนั่นแหละค่ะ รสชาติกลมกล่อม แต่ไม่เหมาะกับคนไม่ชอบมะเขือเทศด้วยประการทั้งปวง แต่เราชอบค่ะ Rom Khwan รมควัน ได้คอนเซปต์จากการเผาไฟให้ได้ควัน เพื่อไล่ผึ้งออกจากรวง และเก็บน้ำผึ้ง มีรสชาติของน้ำส้มสีทอง น้ำผึ้ง และผงช็อคโกแลตเข้มข้น แก้วนี้ดื่มยาก เลอะเทอะไปหน่อยตรงข้างแก้ว ดื่มแล้วปากดำช็อคโกแลตเลยค่ะ แต่รสชาติดีนะ หอมหวานสดชื่นดี สำหรับเรื่องของ service mind นั้นน่ารักสิบเต็มเช่นเคย แต่กลิ่น diffuser รอบนี้ออกแนวรมควันหน่อยๆ ยังไงก็คิดถึงกลิ่นธีมดินที่สุดอยู่ดี รออุดหนุนเลย หากทางร้านทำขาย ธีมนี้คาดว่าน่าจะหมดช่วงปลายสิงหาคมนะคะ แล้วจะมีธีมพิเศษให้ได้มาดูชมกันอีก ร้านนี้เหมาะจะเป็นมื้อพิเศษสำหรับคนที่คุณรัก ราคาแม้จะสูงสักหน่อย แต่ประทับใจแน่นอน แถมได้ชมหิ่งห้อยหลายร้อยตัวในห้องกระจกสุดประทับใจอีกด้วย ซึ่งเลี้ยงเค้าให้อยู่อย่างธรรมชาติที่สุดนะคะ อยากให้ได้มาลองกันจริงๆล่ะ... อ่านต่อ
6 Likes0 Comment
photo